xs
xsm
sm
md
lg

“โม อมีนา” คว้าปริญญาโท ขนลุกเหมือน “แตงโม” มากอด ไม่เชื่อหมอดูร่างทรง ไม่ใช่นิสัยพี่!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โม อมีนา” คว้าปริญญาโทสำเร็จ ใช้โควต้าเต็ม 5 ปี ได้ทุนเรียนฟรีแต่ไม่มีอภิสิทธิ์ แพลนต่อยอดสิ่งที่เรียน ด้วยกันสานฝันให้ “แตงโม” รู้สึกวันนี้เหมือนพี่มากอด ฝากทุกคนช่วยเหลือและให้ความยุติธรรม คดีพลิกไปมาจนเลิกเสพข่าว หวังเจ้าหน้าที่จะมีจรรยาบรรณ ไม่เชื่อคนสื่อสารได้ เพราะพี่ไปอยู่กับเพราะเจ้าแล้ว ให้กำลังใจแม่และเบิร์ด วอนหยุดแชร์ภาพศพ

หลังจากอดทนเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยมา 5 ปีเต็ม ในที่สุดวันนี้ (3 มี.ค.) นักแสดงสาว “โม อมีนา พินิจ” ก็คว้าใบปริญญาโท จากคณะนิเทศศาตร์ สาขาสื่อสารการตลาดและตราสินค้า มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต มาครองได้สำเร็จ ซึ่งงานนี้บรรดาเพื่อนสนิท อย่าง แอนนา, ฮิปโป และพุดเดิ้ล ก็ได้มาร่วมแสดงความยินดีด้วย และก่อนจะไปเข้าพิธีประสาทปริญญาบัตรในช่วงเที่ยง สาวโมก็ได้เผยความรู้สึกกับสื่อมวลชน บอกเรียนจบด้วยตนเอง ไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆ เชื่อว่าพี่สาวสุดที่รัก “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ก็มาหาและมากอดตนในวันนี้ด้วย

“คือจริงๆ โมก็จบมาตั้งแต่ปี 62 แล้วนะคะ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด ก็ทำให้ตัวเองยังรับปริญญาไม่ได้ เพิ่งจะมารับตอนนี้ โมจบคณะนิเทศศาสตร์ สาขาการสื่อสารการตลาดและตราสินค้าค่ะ จบไปก็คือเปิดโรงงานได้เลย เลือกเรียนสาขานี้ เพราะจริงๆ โมเป็นคนชอบทำสินค้าเป็นของตัวเอง คิดโน่นคิดนี่เป็นของตัวเอง เลยอยากจะดูทางนี้ แล้วเป็นคนถนัดด้านการตลาดโดยตรง เพราะว่าเรียนการตลาดมาตั้งแต่ปริญญาตรี”

แพลนการต่อยอดจากสิ่งที่ได้เรียนมา และสานฝันให้ “แตงโม”
“ทำค่ะ อย่างน้อยคือตอนนี้ก็มีแพลนในหัวหลายอย่างเหมือนกัน เดี๋ยวรอให้งานพี่แตงโม เสร็จเรียบร้อยก่อน น่าจะสานต่อความฝันของพี่เล็กน้อย แต่ขอคุยกับพี่เบิร์ด (แฟนแตงโม) ก่อนด้วย เพราะยังไงไม่ได้บอกพี่เลย มันเป็นความคิดของเราเฉยๆ แค่เล็งๆ ไว้ค่ะ”

ในอนาคตอาจจะต่อปริญญาเอก
“ด็อกเตอร์เลยเหรอ ก็คิดอยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าเราจะทำงานในอนาคต ของพวกนี้มันสามารถที่จะพัฒนาตัวเราได้ค่อนข้างเยอะ”

เผยทรหดอดทนมากกับปริญญาโทใบนี้ มหาวิทยาลัยให้เรียนฟรี แต่ไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆ
“โมต้องขอบคุณมหาวิทยาลัยนะ เขาให้ทุนโมเรียนฟรี แต่แลกกับการที่อาจารย์ห้ามช่วยโมเลย โมเรียน 5 ปี เหมือนเรียนปริญญาตรี ใช้สิทธิ์ 5 ปีเต็มเลย กว่าจะได้มาหนูสอบใหม่หลายรอบมาก สอบประมวลผลทุกเทอมที่เรียนมา เล่าจบหนูก็สอบ 2 รอบ ไม่ผ่านรอบแรก โอ้ย…ทรหดอดทนมาก ไม่มีอภิสิทธิ์เลย มหาลัยฯ นี้นะ เขาให้ทุนเราเรียนจริง แต่ว่าอาจารย์ไม่ช่วยเลย ขาดก็คือขาด ตกก็คือตกเลย”

ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกเหมือน “แตงโม” มากอด มาร่วมแสดงความยินดีด้วย
“เมื่อคืนเราก็คิดถึงพี่ นึกถึงหน้าพี่ในใจตลอดเวลา ว่ามานะ คือพี่โมเป็นคนชอบกอด ไม่ว่าเป็นการเล่นละคร เวลาหนูร้องไห้ไม่ได้ พี่ก็จะบอกอมีนามานี่ แล้วก็จะลากเรามากอด แล้วก็ร้องไห้ได้ทุกทีเลย ไม่รู้เป็นอะไร เราก็บอกว่ามาแป๊บเดียวก็ให้มานะ พูดแล้วก็จะร้องอีกแล้ว คือเรารู้ว่าพี่เราชอบมากอดจากข้างหลัง เขาชอบการกอดให้กำลังใจกัน เราก็บอกว่ามา 2-3 วิก็ได้ แค่มากอด (น้ำตาคลอ)

เรารู้สึกตั้งแต่ในรถแล้วนะ ไม่รู้นะ หรือหนูคิดไปเองก็ไม่รู้ เรารู้สึกว่ามีอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ที่เรานึกถึงพี่ พี่มากอดแล้วก็ชอบเอาหน้ามาอยู่แถวไหล่ เราก็นึกแค่นั้นแล้วก็ขนลุกไปทีหนึ่ง แล้วเราก็คิดว่าเออ พี่เขาไม่น่าจะชอบคนเยอะแหละ ก็น่าจะมาส่วนตัวกับเรา ก็ไม่รู้นะอาจจะคิดไปเอง แต่เราคุยกับพี่ตลอดเวลา ว่ามานะ หนูอยากให้มายินดีด้วย

คือจริงๆ โมได้พูดคุยกับพี่เขา ตั้งแต่เราเจอร่างของพี่ เราได้มีการไปคุยที่นิติเวชเลย เราขอเจ้าหน้าที่เลย ว่าขอคุยกับพี่หน่อย ไม่ว่าจะเป็นการรออยู่ตรงท่าน้ำ หนูก็คุยกับพี่ริมแม่น้ำทุกวัน คือเราอยู่กัน 24 ชั่วโมง มีเวลาหนูก็คุย บอกพี่มาเถอะ พี่ไม่ต้องอายนะ คนอื่นไม่เห็นหรอก ไม่เห็นพี่ไม่สวยหรอก พี่จะสวยตลอดไป เรากลัวว่าเขาจะไม่ขึ้นมา เพราะเขาไม่สวย

แต่อย่างน้อยก็มีพี่แอนนามา ฮิปโปมา ก็ยังดีที่ยังมีคนในกลุ่มที่สนิทกับพี่โม ที่เราอยู่ด้วยกัน ดูแลกันมา จริงๆ เราก็นัดกับพี่แล้ว เราบอกแล้วแหละ เมื่อวานก็ได้คุยกับพี่เบิร์ด พี่เบิร์ดก็ยินดีด้วยนะ พอดีเขาอยู่ต่างจังหวัด เราก็ไม่ได้อะไรค่ะ”

ฝากทุกคนช่วยเหลือ และให้ความยุติธรรมกับ “แตงโม” คดีพลิกไปมาจนหลงประเด็น ไม่เชื่อเรื่องสื่อสารกับวิญญาณ เพราะคิดว่าพี่ไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว
“ฝากทุกคนในโซเชียลด้วยนะคะ ช่วยเหลือพี่ด้วย ให้ความยุติธรรมกับพี่ด้วย สำหรับตัวโมนะ โมมองว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็แล้วแต่ โมเชื่อว่าความยุติธรรมมันยังมี รูปคดี พี่สังเกตดีๆ สิ มันพลิกไปพลิกมา เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ตลอดเวลา แต่โมไม่อยากให้คนอื่นหรือคนทั่วๆ ไป เขาหลงประเด็นกัน ว่าจะต้องเป็นประเด็นนี้ๆ นะ คือจริงๆ เราอยากให้มองที่หลักฐาน พยาน สิ่งแวดล้อม วัตถุ บุคคลหรืออะไรต่างๆ ที่มันสามารถชี้ชัดได้ถึงข้อเท็จจริง ว่าอันนี้คือถูก อันนี้คือผิด

โมไม่อยากให้คนคิดไปเรื่อย ว่าโอ้ยสัมผัสได้ คือเรารู้นิสัยพี่เรา เวลาเรามองในคลิปวิดีโอ แต่ละคนที่บอกว่าพี่โมมาหาบ้าง มาอะไรบ้าง เราแค่รู้สึกว่า เออทำไปเถอะ แต่มันไม่ใช่นิสัยพี่เรา เรารู้อยู่แล้ว ก็แล้วแต่วิจารณญาณคนนะคะ แต่เราไม่ได้เชื่ออะไรขนาดนั้น เราเชื่อเหมือนที่พี่โมเชื่อ ว่าเขาอยู่กับพระเจ้าแล้วจริงๆ เขามองเราอยู่ เขาขอบคุณเรา เขาไม่ได้มาเฮี้ยนมาอะไรแบบนี้ โอ้ยหนูไม่เชื่อ หนูเชื่อในสิ่งที่พี่หนูเชื่อมาตลอด ว่าหมดหน้าที่เขาแล้ว เขาอยู่กับพระเจ้า เขามีความสุขแล้ว เขาเป็นนางฟ้าแล้ว ให้คิดแบบนี้ดีกว่าค่ะ”

บางเรื่องไม่สามารถรู้ความจริงได้ แต่คิดว่าทุกฝ่ายมีจรรยาบรรณในหน้าที่ของตัวเอง อยากให้โฟกัสกับพิธีส่งพี่ขึ้นสวรรค์ก่อน
“เอาตามหลักความจริง หลายๆ เรื่องเราก็ไม่สามารถรู้ถึงความจริงจริงๆ จริงที่สุด เพราะฉะนั้นมันอยู่ที่เราสันนิษฐานและเดา ว่ามันจะต้องเป็นอย่างนี้แน่เลย วันนี้เป็นอีกอย่างหนึ่ง พรุ่งนี้กระแสข่าวเป็นอีกอย่างหนึ่งแล้ว โมอยากให้โฟกัสที่ โอเคตอนนี้เรื่องคดี ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ทุกอย่างคือเจ้าหน้าที่ นิติเวชก็หน้าที่แพทย์ ทุกคนเขาจะต้องมีจรรยาบรรณในหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว โมเชื่อในสิ่งๆ นี้ และโมอยากให้ทุกคนไปโฟกัสกับงานของพี่ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 11-14 ร่วมกันส่งพี่ ทำเพื่อพี่ให้ดีที่สุดครั้งสุดท้ายดีกว่า แล้วหลังจากงานพี่เสร็จ อะไรจะเกิดขึ้นเดี๋ยวว่ากันก็ได้ คือเราอยากให้มองพี่เราเป็นหลัก”

ทุกวันนี้เลิกเสพข่าว เชื่อในข้อมูลที่มีและสัมผัสได้
“มันพลิกไปพลิกมาทุกวัน จนทุกวันนี้หนูไม่เสพข่าวแล้ว มองว่าอะไรที่เราเห็นที่เรารู้และสัมผัสได้ ว่าอันนี้คือเรื่องจริงก็เชื่อ แต่ถ้าอะไรที่ลอยไปลอยมา เดี๋ยวอันนั้นเดี๋ยวอันนี้ อะไรที่มันดูเป็นคอนเทนต์ โมปล่อยผ่านเลย ไม่เป็นไร แล้วแต่เขาเลย เชื่อในข้อมูลที่เรามีค่ะ”

วอนหยุดแชร์ภาพร่างของ “แตงโม” เพราะพี่อยากให้จดจำตอนสวยๆ มากกว่า
“คืออย่างนี้ค่ะ พวกหนูได้ขอร้องทุกคนตั้งแต่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหนู แอนนา ฮิปโป คนในกลุ่มทุกคน ที่เรารู้ว่าพี่เราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เราพยายามขอแล้วว่า ขอร้องเถอะ พี่อยากให้ทุกคนจดจำในภาพที่สวยๆ อย่างแชร์อะไรที่มันไม่งาม เก็บภาพดีๆ ไว้ดีกว่า อย่างคิดว่าแชร์แล้วตัวเองจะได้กระแส ได้คอนเทนต์ คือโมไม่อยากให้คนอื่นมาเอาหน้า แล้วใช้พี่เราเป็นเครื่องมือ โมว่ามันถูกต้อง คือขอบคุณพี่นักข่าวทุกคนจริงๆ นะ ที่แชร์ภาพของพี่โม ทุกภาพสวยหมดเลย แต่บางกลุ่มเข้าใจว่าคือหน้าที่ แต่เกินไปหน่อยแค่นั้นเอง”

คงไปเอาเรื่องกับคนปล่อยไม่ได้ เพราะมันกลายเป็นเรื่องสาธารณะ แต่ก็ขอให้มีจิตใจบ้าง
“เราเอาเรื่องกับใครไม่ได้หรอกค่ะ มันเป็นเรื่องสาธารณะ มันเป็นเรื่องของประเทศนี้ไปแล้ว เพราะฉะนั้นอย่างน้อยก็มีจิตสำนึกและจรรยาบรรณที่ดีหน่อยก็พอแล้วค่ะ”

เพื่อนๆ แบ่งกันชัดเจน 11-14 ใครมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง ส่วนตัวรับผิดชอบเรื่องของภาพนิ่งและวิดีโอ เหมือนตอนงานศพคุณพ่อโส รายละเอียดต่างๆ จะแจ้งให้ทราบอีกที
“คือเราแบ่งหน้าที่กันชัดเจนนะคะ ว่าใครทำอะไร โมมีหน้าที่ในเรื่องของภาพนิ่ง วิดีโอต่างๆ การตัดต่อ จะเป็นทางโมที่รับผิดชอบ ทำให้งานพี่ออกมาสวยที่สุด เหมือนวิดีโองานคุณพ่อ หนูก็เป็นคนทำ แล้วเดี๋ยว 11-13 ก็เป็นการสวดภาวนาในพี่ ส่วนวันที่ 14 เราจะมีการเคลื่อนย้ายร่างของพี่จากนิติเวชไปที่รังสิต เพื่อส่งพี่ขึ้นสวรรค์ พิธีต่างๆ เดี๋ยวจะแจกแจงรายละเอียดให้อีกที เดี๋ยวมันจะมีให้ลงทะเบียนอีก ไว้โมลงทีเดียวทีกว่าค่ะ ตอนนี้เรายังแก้ไขโค้ดกันอยู่ เดี๋ยวรอให้คอมพลีตร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อน”

ให้กำลังใจและซัปพอร์ตคุณแม่และพี่เบิร์ด
“ส่วนใหญ่จะเป็นการกอดกัน ให้กำลังใจซะมากกว่าค่ะ แม่ก็บอกว่าแม่เห็นน้องมาตั้งนาน น้องรักกันกับพี่โม แม่ไม่มีโอกาสได้เจอเลย ก็ให้กำลังใจคุณแม่ซะส่วนใหญ่ค่ะ โมเป็นคนไม่แตะ ในเรื่องอะไรที่โมรู้ว่ามันเซนซิทีปกับคุณแม่ เราให้กำลังใจ ซัปพอร์ตคุณแม่อย่างเดียว ส่วนกับพี่เบิร์ดคุยตลอด พี่เบิร์ดเนี่ย เวลามีอะไร เขาก็จะฮัลโหลโม คือเราอย่างนี้นะ แบบนี้นะ”

หากเสร็จสิ้นพิธีการแล้ว จะคุยกับ “พี่เบิร์ด” เรื่องการทำชุดแซกขาย ตามความตั้งใจของ “แตงโม”
“อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่โมจะคุยกับพี่เบิร์ด ที่บอกไปตอนต้น พี่เบิร์ดอยากทำชุดแซกสวยๆ เพราะพี่โมชอบใส่สวยๆ ไง เราก็เลยว่าถ้าพี่อยากทำ เดี๋ยวเราจะซัปพอร์ต เราจะช่วยพี่ทำ แต่ยังไม่ได้คุยกันเป็นกิจจะลักษณะ คือรอให้เสร็จงานพี่ก่อน แล้วเดี๋ยวว่ากัน แต่คือพี่เบิร์ดเขาก็ยังไม่พร้อมที่จะคุยกับใคร เราก็เข้าใจเขา ถ้าพี่เบิร์ดเขามีอะไรยังไง เดี๋ยวโมมาบอกก็ได้”

ทราบเรื่องเสียงในวิดีโอแล้ว แต่ไม่อยากสันนิษฐานกันไปเอง เพราะไม่รู้ว่าเสียงใครบ้าง
“แกะเสียงแกะได้นะ แต่เสียงใครก่อน อันนี้ก็ต้องฝากทุกคนในโซเชียลด้วยนะคะ ช่วยเหลือพี่ด้วย ให้ความยุติธรรมกับพี่ด้วย ถ้าแยกเสียงออกมาได้เลย ว่าเป็นเสียงของใคร ก็จะขอบคุณมากค่ะ เราเดาไปเองไม่ได้ว่าเสียงใคร ไม่ทราบจริงๆ ฟังแล้วเราก็สงสัย แต่ไม่อยากเดาไปเรื่อย อาจจะเรียกพี่เรา หรืออาจจะเรียกคนอื่นก็ได้ หรือเราอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ คือตอนนี้มันมีแต่เรื่องที่เราจะต้องสันนิษฐานกันไปเอง ทีนี้โมก็เลยอยากให้ทุกคนดูในเรื่องของความเป็นจริงด้วยค่ะ”











กำลังโหลดความคิดเห็น