xs
xsm
sm
md
lg

“อะตอม” เผยเรื่องเดียวที่ไม่พอใจ “กระติก” ทั้งที่ “แตงโม” รักมาก ให้โอกาสตลอด เตรียมบวชอุทิศผลบุญให้ 1 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อะตอม สัมพันธภาพ” เผยสนิทกับ “แตงโม” มาร่วม 20 ปี เป็นเพื่อนผู้หญิงที่ตนสนิทใจที่สุด รักมากกว่าญาติหลายๆ คน และเตรียมจะบวชอุทิศบุญกุศลให้ปลายเดือนนี้ เชื่อแตงโมรัก “กระติก” มาก ให้โอกาสเรื่องงานแถมยังรับลูกมาเป็นลูกบุญธรรม ถึงเพื่อนจะห้าวแค่ไหน แต่ไม่มีทางไปฉี่ทั้งที่มีผู้ชายที่ไม่สนิทอยู่ด้วย โชคดีชาตินี้มีเพื่อนแบบแตงโม ชีวิตที่เหลืออยู่ไม่รู้จะเจอเพื่อนแบบนี้หรือไม่

เป็นเพื่อนนักแสดงชายที่สนิทอีกคนของนางเอกสาวผู้ล่วงลับ “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” สำหรับหนุ่ม “อะตอม สัมพันธภาพ” ซึ่งตั้งแต่สาวแตงโมเกิดเหตุตกแม่น้ำเจ้าพระยา จนกระทั่งพบว่าเสียชีวิตแล้วนั้น หนุ่มอะตอมก็ได้โพสต์ข้อความและภาพต่างๆ ในอดีตกับนางเอกสาวออกมาเรื่อยๆ โดยเจ้าตัวยอมรับว่าถึงตอนนี้สภาพจิตใจก็ยังไม่โอเค ยังหวนคิดถึงเพื่อนอยู่ตลอดเวลา

“ผมก็ยังไม่ค่อยโอเคครับ ต้องบอกว่าเวลาลุกขึ้นไปฉี่ตอนกลางคืนก็นึกถึงมันแล้วก็ตื่นยาวเลย นอนหลับไม่ค่อยสนิทครับ กว่าจะนอนได้ก็ดึกทุกวัน ตื่นก็ 6 โมงเช้าทุกวัน มันยังลืมไม่ได้ เพราะเราผ่านเหตุการณ์อะไรมาด้วยกันเยอะมากๆ จนเราลืมไม่ได้ มันมีแต่สิ่งดีๆ ทั้งนั้น ตั้งแต่คุณพ่อผมป่วย โมก็เอารถตู้มาช่วยให้ผมขับรถไปส่งคุณพ่อ ตอนที่ผมป่วยโมก็มา และเพิ่งเจอกันรอบสุดท้ายเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมช่วงที่เขารับปริญญานี่เอง ยังนัดเจอกันสัปดาห์นี้อยู่เลยครับ นัดมาคุยกัน เพราะเราอยากจะทำอะไรเพื่อสังคมเหมือนกันในเรื่องของการกีฬา ผมก็จะเข้าไปประชุมก่อน แล้วก็จะมาสรุปให้เพื่อนๆ ฟังสัปดาห์นี้ครับ แต่ก็มาเจอแบบนี้ก่อน

ตั้งแต่รู้ข่าววันแรกคือผมเฟลมากครับ ผมมารู้ข่าวตอนตี 5 ตอนนั้นคือเห็นผ่านๆ มาดูอีกทีตอน 6 โมงก็อ้าวไอ้โมตกน้ำนี่หว่า จากนั้นผมก็ไปดูที่เกิดเหตุทั้งวันเลย ผมก็เทียวไปดูตลอด พอวันที่เจอร่างผมก็ไปยืนรอรับ ก็เห็นเจ้าหน้าที่เคลื่อนศพเขาผ่านไป แต่ก็คลุมผ้าดี ไม่ได้ให้เห็นหน้า แต่ตอนนั้นผมร้องไห้โฮเลย ผมเองก็ไม่ได้ร้องไห้แบบนี้มานานแล้ว ก็นึกถึงตอนที่ผมเกิดอุบัติเหตุ โมเขาก็จะส่งคลิปมาให้ผมหลายคลิป เพราะตอนนั้นก็เหมือนผมเสียชีวิตไปแล้ว 6 นาที แล้วกู้ภัยเขาก็ปั้มหัวใจผมขึ้นมา โมเขาเป็นห่วง เขาก็ส่งคลิปมา”

สงสัย “กระติก” ทำไมเพื่อนตกน้ำถึงไม่มีคนช่วย เชื่อถึงเพื่อนจะห้าว แต่คงไม่ไปฉี่ขณะที่มีผู้ชายที่ไม่รู้จักอยู่ด้วย
“ผมก็สงสัยว่าทำไมคนที่อยู่ในเรือ 5 คนถึงไม่อยู่ในเหตุการณ์เลย ทำไมถึงเข้ามาพบพนักงานสอบสวนตอนกลางคืน ต่างกันถ้าเป็นผม ผมคงอยู่จนเจอเพื่อนก่อน เพราะผมก็เห็นแฟนเขาอยู่ตลอด ตอนนั้นผมก็โทร.ติดต่อกระติก แต่เขาไม่รับสาย แล้วผมก็ทักไปในเฟซบุ๊กถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่รับสายและไม่ตอบกลับ แล้วก็มาดูจากภาพข่าว ก็ตั้งข้อสงสัยหลายอย่างว่าทำไมเพื่อนตกขนาดนี้ทำไมถึงไม่อยู่รอ ถ้าเป็นเราคงจะกระโดดช่วยเพื่อน พุ่งหลาวไปทันทีทันใดเพื่อให้เจอเพื่อน ถึงจะไม่ลงไปช่วย แต่ก็ต้องอยู่ดู เพราะคนที่ให้โอกาสเรามาทั้งชีวิต มันต้องให้ความสำคัญมากกว่านี้

กับ 4 คนที่เหลือผมไม่รู้จักเลยครับ รู้จักแต่กระติกคนเดียว เคยเจอ เคยคุยด้วย เคยไปเที่ยวด้วยกัน แต่คนอื่นไม่รู้จัก แต่ดูจากภาพข่าวมันก็ตั้งข้อสงสัยได้หลายอย่างนะ เรื่องฉี่ เรื่องอะไร ก็กำลังลุ้นรอฟังจากตำรวจและคุณหมอแถลงครับว่าผลสรุปออกมาแล้วจะเป็นยังไง ผลสรุปทางวิทยาศาสตร์ออกมาแล้วเป็นยังไงบ้าง

บางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้ทำก็ได้ เราก็ไม่รู้ ซึ่งสำหรับมุมมองผมนะ ปกติแล้วโมเป็นคนที่ห้าวเหมือนผู้ชายอยู่แล้วครับ แต่ว่าเรื่องปัสสาวะเนี่ยผมคิดว่าไม่น่าจะกล้า เพราะมีผู้ชายที่ไม่รู้จักอยู่ด้วย อีกอย่างนึงเรือไม่ได้ลำใหญ่มาก เป็นเรือลำเล็ก มันน่าจะไม่กล้าที่จะทำอย่างนั้น แต่ถ้าเกิดกล้าก็คงจะให้ทุกคนหันหน้าไปด้านหน้าเรือให้หมด และคนชื่อแซนก็ต้องจับไว้อย่างดี แต่พอดูจากสัมภาษณ์คนที่ชื่อแซนกลับบอกว่าไม่รู้ตอนตก คว้าไม่ทัน มันก็แปลก ก็ต้องรอดูผลอีกทีครับว่าสรุปแล้วเป็นยังไง

ผมว่าโมไม่น่าจะกล้าไปฉี่ทั้งๆ ที่มีผู้ชายคนอื่นอยู่ด้วย แต่ถ้าเพื่อนที่สนิทจริงๆ มันก็กล้าทำอยู่แล้วครับ เพราะว่าโมมันนิสัยเหมือนผู้ชาย โมจะกล้าได้กล้าเสีย มีความนักเลงในตัว ผมว่าที่คนติดตามกันเยอะๆ ก็เพราะเรื่องนี้ด้วย ที่ผมตั้งข้อสังเกตเป็นพิเศษก็น่าจะเป็นเรื่องฉี่นี่แหละครับ เราอยากจะรู้ผลทางวิทยาศาสตร์มันจะออกมายังไง แต่เรื่องอื่นเราไม่รู้ เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เราก็ไม่อยากจะพูดไป เพราะบางสิ่งบางอย่างที่เราพูดไปมันอาจจะไม่ใช่เลยก็ได้ ผมก็ไม่อยากพูดนะ ใจเขาใจเรา คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็อาจจะตกใจมากก็ได้จนพูดอะไรไม่ออก พูดผิดพูดถูก เราก็ไม่รู้

ผมอยากให้ตำรวจกับทางแพทย์มาแถลงให้ฟังโดยเร็วที่สุด ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ผมก็จะเชื่อตำรวจกับแพทย์ เพราะผมเชื่อว่าเราจะสงสัยอะไรก็ตามทุกคนมีสิทธิที่จะเสียใจ แต่ผลทางวิทยาศาสตร์มันจะสามารถเป็นคำตอบอะไรได้หลายอย่างว่าใครพูดจริง หรือใครพูดไม่จริง น่าจะเป็นเรื่องนี้มากกว่าที่เราอยากจะเห็นมากที่สุด ว่าผลที่แถลงออกมาแล้วจะเป็นอย่างไร จะได้ไม่ต้องไปตามข่าว คนจะได้ไม่ต้องมโน โซเชียลจะได้ไม่ต้องด่ากันอย่างในตอนนี้”

เชื่อ “แตงโม” รัก “กระติก” มาก ไม่งั้นคงไม่รับลูกอีกฝ่ายเป็นลูกบุญธรรมมาเพิ่มภาระให้ตัวเอง
“ส่วนตัวผมกับกระติกเราก็รู้จักกันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้เจอกันมานาน แต่ตอนที่โมเอากระติกมาเป็นผู้จัดการผมก็รู้ เพราะผู้จัดการคนแรกของโมคือพี่วุฒิ แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นพี่เมย์ สุดท้ายก็มาเป็นกระติก ในความรู้สึกของผม โมเขาให้โอกาสกระติกตลอดนะ โดยเฉพาะเรื่องทำงาน เพราะที่โมตัดสินใจเปลี่ยนผู้จัดการเพราะอยากจะช่วยเพื่อน เพราะก่อนหน้านี้เขาก็เป็นเพื่อนกันเฉยๆ แต่เขาก็เปลี่ยนจากพี่เมย์มาเป็นกระติกก็เพราะด้วยความสงสาร ด้วยความเป็นเพื่อน และถึงขั้นว่ารับลูกสาวของกระติกเป็นบุตรบุญธรรมเลย

ผมว่ามันรักกระติกมากนะ กลับกันในความรู้สึกของกระติกที่มีต่อโมที่ผมสัมผัสได้ ผมอาจจะไม่ได้รู้ลึกๆ ว่าเขาคบหากันยังไง หรือลึกซึ้งกันแค่ไหน แต่ผมเชื่อว่าทางโมรักกระติกมากแน่นอนครับ เพราะถ้าไม่รักมากคงไม่เอาลูกเขามาเป็นลูกบุญธรรมตัวเองหรอก ก็เท่ากับว่าโมต้องมีภาระเพิ่ม และผมก็เชื่อมั่นว่าถ้ามันเห็นเพื่อนจมน้ำ มันต้องช่วยแน่นอน มันต้องอยู่ตรงนั้นจนกว่าจะเจอ และตอนผมไปก็เจอแต่แฟนโมนั่งไหว้แม่น้ำ ไหว้กู้ภัยอยู่ แต่กลับไม่มีกระติกหรือคนบนเรืออยู่ในที่เกิดเหตุเลยสักคนเดียว มันแปลกตรงนี้แหละครับ

ถามว่าผมโกรธกระติกไหม ผมไม่พอใจแค่เรื่องเดียวว่าทำไมถึงไม่อยู่รอเจอเพื่อน แต่เขากลับบ้านก่อน ถ้าถามว่าโกรธไหมคงไม่โกรธ แต่อีกเรื่องนึงที่ผมไม่พอใจคือที่กลุ่มของเขามาตำหนิกู้ภัย ทั้งๆ ที่กู้ภัยเขาทำงานเต็มที่ แทบไม่ได้หลับ ไม่ได้นอนกันเลย และผมเองก็เป็นกู้ภัยด้วย แต่ไม่ใช่ว่าตัวผมเป็นกู้ภัยแล้วจะเข้าข้างกู้ภัย ไม่ใช่นะครับ ผิดคือผิด ถูกคือถูก แต่ผมดูแล้วคุณมาพูดถึงกู้ภัยแบบนี้มันไม่รับผิดชอบ ซึ่งกู้ภัยเขาไปถึงเขาให้ชี้จุดเกิดเหตุ คุณก็ไม่ยอมชี้ คือกลัวอะไร ตื่นเต้นหรือปกปิดอะไร แทนที่จะรีบชี้ เขาจะได้ช่วยเหลือได้ทัน แต่คุณก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ คุณกลับตำหนิกู้ภัยอีก เขาต้องจากบ้าน จากคนที่รักมาช่วยผู้อื่น แต่คุณกลับไปพูดแบบนั้นมันดูไม่ดีครับ”

เผยเตรียมจะบวชให้เจ้ากรรมนายเวร พร้อมอุทิศส่วนกุศลให้ “แตงโม” ด้วย
“ผมเตรียมจะบวชวันที่ 20 มี.ค.นี้ ที่วัดทองเนียมครับ ผมตั้งใจจะบวชอยู่แล้ว เพราะคุณหมอบอกว่าน่าจะได้ผ่าตัดอีกทีก็อีกเดือนกว่าๆ ผมก็เลยตั้งใจจะบวชก่อนเพื่อสะเดาะเคราะห์ และให้เจ้ากรรมนายเวรด้วย ซึ่งจริงๆ โมต้องมาด้วย เพราะผมเคยคุยกับโมไว้ว่าจะมาให้ช่วยถือร่มอะไรพวกนี้ แต่พอโมมาเสียแบบนี้ก็จะบวชให้โมด้วยครับ ก็จะมีพี่ก้อง ปิยะ กับ พี่ท็อป ดารณีนุช มาเป็นประธานในพิธีบวชให้ครับ ผมตั้งใจจะบวช 1 เดือน ผมอยากจะแผ่บุญให้โมด้วย ถึงแม้ว่าจะคนละศาสนา แต่ผมก็ต้องการแผ่บุญตามที่เราเคารพนับถือ

ทุกวันนี้นั่งเลื่อนดูรูปเก่าๆ ก็คิดถึงมัน คิดถึงวันเก่าๆ เปิดฟังคลิปเสียงที่มันส่งมาให้เราบ่อยมากครับ แต่เรื่องโครงการที่จะทำเรื่องกีฬาก็ยังจะทำต่อนะครับ โครงการสนับสนุนนักกีฬาไทยให้ไปสู่ระดับโลกให้ได้ เมื่อก่อนเราจะมีนักกีฬาสมัยรุ่นปู่รุ่นย่าเรา แต่หลังๆ เริ่มสู้เขาไม่ได้ เราอาจจะต้องมาแก้กฎหมายให้มีการสนับสนุนตรงนี้มากขึ้น และเราเป็นดาราก็อาจจะมาช่วยตรงนี้กันอีกแรงได้

ผมก็คุยกับโมว่าอยากจะให้เขามาช่วยในส่วนของประชาสัมพันธ์ครับ เพราะมันบอกว่าไอจีมันมีคนตามเป็นล้านคน มันก็เลยบอกว่าถ้าไปประชุมอะไรมาเสร็จจะช่วยประชาสัมพันธ์ ผมก็เลยคิดว่าจะเริ่มที่มวยไทยก่อน นักมวยไทยควรจะเก่ง ควรจะดังมากกว่านี้ จริงๆ มวยไทยควรจะเข้าโอลิมปิกแล้วด้วย ก็โชคดีที่ทางพลเอกเชษฐา ฐานะจาโร ท่านมาร่วมด้วย เพราะท่านเป็นประธานมวยไทยโลก และโมบอกจะมาช่วยอีก ก็น่าจะมีโอกาสที่นักกีฬาเราจะมีชื่อเสียงมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมามันยังไม่มีใครทำจริง มีแต่ทำเพื่อจะเอาหน้า ทำเพื่อจะเอาเสียงทางการเมืองอย่างเดียว แต่เราต้องการจะทำจริงๆ ไม่ได้ต้องการจะเอาหน้าอะไร เราอยากจะแก้ไขโครงสร้างของวงการกีฬาใหม่ เพื่อที่จะให้วงการไปได้ไกลกว่านี้ครับ ก็จะสานต่อครับ ก็จะมีพวกพี่ก้อง ปิยะนี่แหละครับเข้ามาช่วยกัน”

บอกโชคดีที่ได้เป็นเพื่อนกับ “แตงโม” ไม่รู้ชีวิตนี้จะได้เจอเพื่อนแบบนี้อีกไหม
“ต้องบอกว่าผมโชคดีมากที่มีเพื่อนแบบนี้ เรามีความรู้สึกที่เรารักมันยิ่งกว่าญาติหลายๆ คน กล้าพูดแบบนี้เพราะว่าเราผูกพันกับมันตอนที่เราโตแล้ว และโอกาสอะไรที่สำคัญๆ ตอนพ่อผมป่วย โมก็ช่วย เวลาผมมีปัญหาอะไร ผมก็จะโทร.หามัน เวลามันมีปัญหาหรือเหตุการณ์อะไรที่เสียใจก็มักจะโทร.หาผม คุยกัน เจอกันตลอด โมจะช่วยผมตลอด ถือเป็นความโชคดีของผมมากๆ ครับ ซึ่งตอนนี้เพื่อนๆ ก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว เราไม่ได้รักสนุกกันแล้ว เมื่อก่อนเราติดเพื่อน ติดเที่ยว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ เราคิดแต่ว่าอยากจะทำชีวิตให้มันดี แต่ทุกอย่างก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นครับ ก็คงจะหมดเวรหมดกรรมของมันแหละครับ

สำหรับผมมีความไว้ใจมันมากที่สุดแล้วครับในบรรดาเพื่อนผู้หญิงในชีวิต เพราะเขาไว้ใจได้มากที่สุดแล้ว เขาทำเพื่อคนอื่นมาเยอะ พอเขาเสียก็เห็นว่าคนรักเขาเยอะ เขาทำเพื่อคนอื่นเยอะมาก ผมกับโมก็เป็นเพื่อนกันมาเกือบ 20 ปี ตั้งแต่เล่นละครเรื่องรักแท้แก้ได้ ก็สนิทกันมาตั้งแต่ตอนนั้น ก็สนิทถึงขั้นว่าผมเป็นเพื่อนนักแสดงผู้ชายที่สามารถไปเหยียบบ้านเขาได้คนเดียว สามารถไปห้องนอนมันได้ เข้าออกบ้านมันได้ ไปเที่ยวด้วยกัน ไปทำบุญด้วยกัน

ถ้าโมรับรู้ได้ ก็อยากจะบอกมันว่า ขอบคุณมากสำหรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต และดีใจมากที่ชีวิตนี้มีเพื่อนอย่างมัน ไม่รู้ว่าชีวิตนี้ที่เหลืออยู่ของผมจะได้เจอแบบมันอีกหรือเปล่า แต่ก็ดีใจที่ชาตินี้มีเพื่อนอย่างมัน ถ้ามันรับรู้ได้ก็ขอให้มันเป็นกำลังใจให้เราด้วยเวลาเราจะทำเรื่องดีๆ เพื่อผู้อื่น ขอให้มันเป็นกำลังใจให้เราทำสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีครับ”























กำลังโหลดความคิดเห็น