“แม่แตงโม” มั่นใจในหลักฐานที่เป็นนิทานที่มีเพื่อนเอามามอบให้ เชื่อข้อมูลเป็นเรื่องจริง และที่ฝั่งสปีดโบ๊ตบอกว่าจะมาดูแลและขอขมา ใจตนไม่พร้อมยกโทษและไม่รับการขอขมา เหตุยังเชื่อว่าลูกสาวโดนลวมลามบนเรือแน่นอน
วันนี้ (28 ก.พ.) ทาง “นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน” แม่ของนางเอกสาวผู้ล่วงลับ “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ได้ไปพบพนักงานสอบสวนที่สภ.เมืองนนทบุรีอีกครั้ง เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดีการเสียชีวิตของลูกสาว ซึ่งได้เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า หลักฐานทางแชตที่มีเพื่อนส่งมาให้ และตนได้ส่งมอบให้ตำรวจนั้นเชื่อถือได้แน่นอน แต่ตนไม่ได้ดูที่เพื่อนๆ สปีดโบ๊ตไปออกรายการโหนกระแสวันนี้ ลั่นไม่พร้อมที่จะให้มาขอขมา ใจก็ยังไม่ยกโทษให้
“หลักฐานที่ให้ดูเมื่อวานนี้ ที่เป็นภาษาอะไรนั่นแหละ ภาษาละติน หรือภาษาอะไรก็ไม่ทราบ เขาต้องเอาไปแปลอีกที ส่วนข้อความสนทนาที่แม่บอกว่าเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายและจิตใจ อันนี้มันแชร์ว่อนอยู่ในเน็ตแล้วนะคะ เคยอ่านไหมคะ ที่เป็นเรื่องนิทาน ที่มีตม.โดนอะไรในเรือ คิดว่าทุกคนเคยอ่านแล้ว แต่ตัวแม่เพิ่งทราบ เพิ่งได้เห็นข้อมูลนี่ ก็เลยเอามาให้ตำรวจ ให้บันทึกไว้ว่าคุณแม่ได้รับข้อความนี้นะ
แล้วก็มาจากเพื่อน เพื่อนส่งมาให้ เป็นเพื่อนผู้หวังดี เป็นเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันเลย เขานึกว่าเรายังไม่ทราบ ซึ่งเราก็ยังไม่ทราบจริงๆ ไม่ได้ดูเน็ตเลย ในแชตคือมันอยู่ในข้อมูลอันนี้เลย นิทานอันนี้ ไม่ใช่แชตไลน์ เป็นข้อความ ไปอ่านให้ละเอียดนะคะ ก็จะสงสารน้องโมมาก เป็นเรื่องของเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุเลย
ข้อมูลที่เป็นข้อๆ ที่เป็นนิทานนะคะ มาจากเพื่อนคุณแม่เอง แต่คนที่เขียนเขาเป็นบุคคลที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ หรือว่าอะไรต่างๆ โดนเอาเปรียบ เขาชื่อนพดล แต่จำนามสกุลไม่ได้ นักข่าวทั้งหลายควรติดต่อคนนี้ไว้ คุณแม่บอกไว้เลย เขาเขียนเขาดูน้องโมตั้งแต่เริ่มเลย แล้วเขาก็วิเคราะห์ของเขาเอง แล้วเขาก็เขียนมา แล้วพอคุณแม่อ่านแล้วมันใช่เลย”
บอกไม่ยินยอมให้ดูแล และในใจก็ไม่ยกโทษให้
“ไม่ได้ดูเลย คุณแม่ยังไม่ทราบข้อมูลเลย อันนี้ก็ต้องปรึกษาตำรวจนะ ส่วนกระติกยังไม่ติดต่อคุณแม่เลย คิดดูแล้วกัน แล้วเขาก็ไม่น่าจะมาติดต่อคุณแม่นะ เขาจะมาดูแลเราคุณแม่เหรอ ไม่ยินยอมค่ะ ยังไงต้องปรึกษาตำรวจค่ะ เพราะมันเป็นคดี เราจะไปยินยอมกันเองไม่ได้ ต้องให้ตำรวจเป็นที่ปรึกษา แล้วก็ตัดสินว่าสมควรแค่ไหน
ถ้ารับคำขอโทษ ถ้าเขาอยากขอโทษ แม่รับได้นะ รับเฉพาะคำขอโทษนะคะ แต่เรื่องอื่น เรื่องอะไรที่อยู่ในใจคุณแม่ ที่คุณแม่ไม่พูดกับเขา ไม่บอกเขา เขาคงรู้ เขียนมาก็ได้ ขอโทษคุณแม่แค่นี้จบ แม่ก็จะอ่านแล้วก็จะจบ แต่ว่าในใจคุณแม่ไม่ได้ยกโทษให้”
ไม่เชื่อที่เพื่อนแก๊งสปีดโบ๊ตบอกว่าไม่มีการทะเลาะหรือรับงาน
“ก็มีเอาเอกสารมาให้ เอาโทรศัพท์มาให้อีกเครื่องหนึ่งของน้องโม แล้วก็เซ็นเอกสารค่ะ แล้วไอ้ที่เอาให้ดูเมื่อวานนี้ ก็มีเพลงที่เป็นซีดี ได้ฟังแล้ว ก็เป็นเพลงแบบเศร้าๆ เกี่ยวกับน้ำ เหมือนกับว่าให้ตามหาน้องโมในน้ำ มีคนแปลให้แล้ว แต่ตำรวจเขาเอาไว้ ความน่าเชื่อถือข้อความในหลักฐาน เขาก็ต้องเอาไปเข้าที่ประชุม ว่าแต่ละข้อๆ ยังไง คือตำรวจก็ตอบไม่ได้ว่าอันนี้จริงหรือเปล่า ที่ดึงกระชาก มากอดน้องโม มันต้องมีหลักฐาน ตำรวจจะไล่สอบไปตามข้อๆ
เพื่อนๆ บนเรือเอาแชตมาเปิดเผยว่าไม่มีการรับงาน หรือมีการทะเลาะวิวาทกันบนเรือ คุณคิดว่าคุณเชื่ออะไรได้เหรอคะ คุณเชื่อคำโกหกได้ไหม ถ้าคุณไม่มีหลักฐาน คุณแม่พูดแค่นี้ คุณเชื่อเหรอว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลย”
เชื่อต้องมีการลวนลามเกิดขึ้นบนเรือ
“คุณแม่เห็นรูปน้องโมแล้วในเรือ ไม่มีความสุข นั่งหน้าเศร้าอยู่ (เป็นคลิปใหม่ล่าสุด นักข่าวเปิดคลิปให้ดู) ชุดเดียวกันไหม ดูแล้วขนลุกเลย ไม่เคยเห็น ใช่ชุดเดียวกันเหรอ ถ้าเธอดื่มไวน์เธอก็มีความสุขนั่นแหละค่ะ แต่แล้วหลังจากนี้ล่ะ ให้คิดว่าสองทุ่มน้องโมมีความสุข เคลิ้มๆ ได้อารมณ์แล้ว แล้วคนอื่นที่ดื่มไวน์ ผู้ชาย 3 คนดื่มไวน์หรือเปล่า ไวน์มันก็สาดกระเซ็นอยู่ในเรือ ไวน์ นี้มันกระเด็นได้ก็ต่อเมื่อมีการยื้อแย่งกัน เพราะปกติไวน์จะค่อยๆ ริน ถ้าหลังจากนี้มีการฉุดกระฉากลากถู หรือมีการลวนลามก็ต้องเป็นหลังจากนี้แหละ หลังจากภาพนี้
อยากให้มีการเพิ่มข้อหามากๆ เลย แต่ยังไม่มีหลักฐาน ตำรวจบอกว่าต้องหาหลักฐานให้แน่นหนาถึงจะไปจับเขาได้ ที่จับไปเขามีหลักฐานแน่นหนา หลักฐานจากกล้องหน้ารถของน้องโม การพูดคุยในรถใช่ไหม รถอยู่ที่คุณแม่แล้วค่ะ กุญแจอยู่ที่คุณแม่ (หลังจากเกิดเหตุกระติกเป็นคนขับกลับใช่ไหม?) ใช่ๆ เดี๋ยวไปลองเปิดดูว่ามีอะไรหรือเปล่า คุณแม่สั่งพี่เลี้ยงเขาว่าเอากุญแจรถน้องโม โทรศัพท์ทั้งหมด มีนาฬิกาเรือนทองที่ยังหาไม่เจอ เอาทรัพย์สินโมทั้งหมดใส่ลิ้นชักไว้ คุณแม่จะเข้าไปเอาที่บ้าน ก็เข้าไปเอามาเมื่อ 2 วันที่แล้ว”
ยังไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ และไม่พร้อมที่จะให้มาขอขมา
“ไม่เชื่อ ยังคาใจอยู่ เพราะจะเคลียร์ได้ก็ต่อเมื่อสำนวนของตำรวจหลักฐานครบถ้วนแล้วก็ส่งศาล หมายถึงสำนวนใหญ่นะ ส่งศาลแล้วศาลจะเป็นผู้ตัดสิน เพราะฉะนั้นตอนนี้อยู่แค่นี้ คุณแม่มีข้อมูลใหม่ก็มาแจ้งตำรวจได้ค่ะ เพื่อน 5 คน ติดใจใครมากที่สุดเหรอ คุณแม่ไม่รู้จัก รู้กระติกคนเดียว ติดใจกระติกคนเดียว
ถ้ามาขอขมา ไม่พร้อมค่ะ เขาไลน์เข้ามาหาคุณแม่นะ คุณปอน่ะ เห็นว่าเป็นรูปเขาแต่ไม่อ่าน ใส่ชุดดำๆ ไม่ได้ส่งข้อความอะไร คุณแม่ไม่ได้อ่าน แต่ว่าก่อนหน้านั้น ก่อนโดนจับเขาไลน์มาพูดคุยกับคุณแม่ว่าเขาขอโทษ อยากจะเจอขอโทษ นัดวันได้ไหม เขาคุยตอนบ่ายตอนเย็นเขาโดนจับไง ก็เลยไม่ได้เจอกัน ไม่ระแวงที่เขาได้ประกันตัว เจ้าหน้าที่เขาให้ความมั่นใจเราว่าคนทำผิดต้องโดนจับเนอะ
คือที่ไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุเนี่ย เขาคงไม่ได้พิสูจน์อะไรให้เราเห็นหรอก ก็ดูจากการให้สัมภาษณ์ ก็ดูเป็นยังไงล่ะ พูดเฉยๆ สบายๆ ลอยๆ ร้องไห้ ไม่สะเทือนอะไร คือคนเราสามารถโกหกได้ พูดเก่งโกหกเก่ง มีเยอะมากในประเทศไทย เขาอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ เขาอาจจะเป็นคนโกหกนักข่าว โกหกตำรวจได้ ถ้ามันไม่มีหลักฐาน ไปหาหลักฐานมาสิว่า ฉุดกระชาก
มันมีคนหนึ่งเสื้อขาด เห็นไหม เขาเอาเสื้อมาชี้แจงว่าไม่ได้ขาดเหรอ อ้าว ก็เห็นรอยขาดอยู่ (เขาบอกเป็นรอยสัก รอยสะท้อนน้ำ) ไม่ค่ะ รอยขาดเลย คุณแม่เห็นชัดเจนเมื่อคืนนี้ น่าจะมีการลวนลาม คุณแม่พูดไว้ครั้งแรกว่าอาจจะมีการทะเลาะกัน คุณแม่ยังมั่นใจตรงนั้น คือมันเหมือนว่าผู้ชายอยากจะดึงเธอไปกอด ไปโอบอะไรแบบนี้ การสะบัดมันก็อาจเกิดขึ้น ถามว่าคุณแม่มีหลักฐานไหม แม่ไม่ได้อยู่ในเรือนะ พวกหลักฐานข้างเคียง พยานแวดล้อม ก็ส่งไปให้ตำรวจแล้วไง ก็ในนิทานนั่นไง หนูไปอ่านให้ละเอียดแล้วจะรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น ถ้ามีสื่อมาเชิญให้ไปออก ยังไม่ไป ขออนุญาตไม่ไปนะคะ แม่ยังไม่พร้อม แม่ไม่อยากไปร้องไห้ให้ใครเห็น แต่พูดตามโทรศัพท์ได้”
มั่นใจในนิทานที่นำมาเป็นหลักฐาน 100%
“ไม่หรอกค่ะ ท่านตำรวจที่นี่ดีมากเลยกับคุณแม่ อำนวยความสะดวก ชี้แจงให้คุณแม่ทำยังไง อะไรยังไง รวมถึงผู้ต้องหาได้ประกันตัวออกไป เขาก็มีสิทธิ์อยู่ข้างนอกได้ 6 เดือน เขาก็ถึงจะมาขอโทษคุณแม่ แต่เดี๋ยวเขาก็ต้องเข้าคุกต่อ คุณแม่ไม่ได้ติดต่อคุณนพดล ลองช่วยกันติดต่อ คุณนพดลเขาช่วยเหลือคนเยอะมาก ช่วยคนที่ถูกเอาเปรียบ เป็นนิทานที่คุณนพดลเขียนมา คุณนพดลเขียนเองนะ ลองไปสืบดูสิ แม่ก็อยากรู้ เขาเขียนหลายเรื่องมาก เขาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
คิดว่าเป็นเรื่องจริงค่ะ เป็นเรื่องจริงร้อยเปอร์เซ็นต์เลย หลักฐานนี้น้ำหนักมันน้อยมากเหรอ ในการต่อสู้คดีเป็นเรื่องของตำรวจค่ะ คุณแม่เพิ่งเอามาให้วันนี้เพราะว่าเอกสารนิทานนี้มันเพิ่งถึงคุณแม่ได้ 2 วัน แต่ว่าคนอื่นเขาอ่านกันทั่วโลกแล้ว ที่คุณแม่ไม่รู้เพราะคุณแม่ไม่รู้ไอจีไงคะ”