“แม่แตงโม” เปิดใจก่อนเป็นลม ติดใจ 3 เรื่อง ไม่มีชูชีพ , เรือ , ว่าจ้างให้ถ่ายแบบบนเรือ ใครจ้าง ใครจ่ายเงิน ยันลูกไม่ได้รับงานกินข้าว ไม่มีทางที่แตงโมจะไปฉี่ท้ายเรือแล้วพลัดตกลงไปเอง คาดอาจเกิดเหตุวิวาทกัน อัดแหลกเพื่อน - ผจก. ปิดบังอะไร ไม่ได้รักและจริงใจจริงๆ ลั่นมือถืออยู่กับแม่แต่เปิดไม่เป็น มีหลักฐานบางอย่างแต่แม่ไม่อยากพูด
หลังจากที่ร่างไร้วิญญาณ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ได้โผล่พ้นผิวแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอันสิ้นสุดภารกิจการตามหา แต่เรื่องก็ยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะยังมีหลายประเด็นคาใจ โดยเฉพาะแม่ของแตงโม ภนิดา ศิระยุทธโยธินที่ยังข้องใจกับสาเหตุการตายของลูก มั่นใจว่าแตงโมไม่ได้ไปฉี่ท้ายเรือจนพลัดตกเรือแน่นอน
“เพื่อนเพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี้นี้เอง ความรู้สึกมันเหมือนครั้งแรกที่คุณแม่ไปที่ท่าเรือเมื่อตอนตี 4 เลย อารมณ์ หัวใจเหมือนกัน ช็อกค่ะ (เสียงสั่น) ถามว่าคุยกับตร.ไหวไหม แม่นัดไว้แล้ว เรื่องที่จะคุยกับตร.ก็เรื่องไม่มีชูชีพ แล้วก็เรื่องเรือของเขา เกี่ยวกับเรื่องว่าจ้างด้วย แม่ติดใจทุกเรื่องค่ะ เรื่องไม่มีชูชีพ ก็เป็นเรื่องความปลอดภัย และเรื่องการจ้างเนี่ย ว่าจ้างน้องโมไปถ่ายแบบในเรือ ใครจ้าง ใครจ่ายเงิน อันนี้เราต้องสืบให้รู้"
ยันไม่ใช่งานนัดกินข้าว แต่เป็นการว่าจ้างไปถ่ายรูป ข้องใจ “กระติก” ไม่เคยโทรหาตั้งแต่เกิดเรื่อง
“ไม่ใช่ๆ เพราะว่าน้องโมแต่งตัวสวยมากวันนั้น เป็นชุดที่เหมาะสำหรับถ่ายรูป เขานัดไปถ่ายรูปกัน เรื่องรู้จักเจ้าของเรือ แม่ไม่ทราบเลยค่ะ 5 คนนี่แม่ไม่รู้จักสักคน ถามว่าเป็นเพื่อนเก่าไหม แม่ไม่รู้เลย กระติกเนี่ยพูดตรงๆ ต่อหน้ากล้องเยอะๆ เลยนะคะ คุณแม่จะบอกให้ว่าวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว เจอน้องโมแล้ว แต่กระติกผู้จัดการเนี่ยไม่เคยโทรหรือติดต่อหาแม่เลยสักครั้งเดียว (เสียงสั่น) คุณกระติกทำไมไม่บอกแม่ล่ะว่าเอาลูกไปถ่ายรูป แล้วลูกตกเรือ ที่ผ่านมาเวลารับงานเขาก็ไม่ได้บอก อยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ต้องบอก เพราะว่าแม่ก็ไปด้วยบางงาน ไปงานเล็กๆ แต่ถ้าขึ้นเครื่องบิน ขึ้นเรือก็ต้องบอกกันถูกไหมคะ แต่ป่านนี้ก็ยังไม่บอก”
อัดปิดบังอะไร ทำไมไม่บอก เล่าเหตุการณ์เพื่อนแตงโมดึงตัวออกมา
“ใช่ๆ มันปิดบังอะไรล่ะ ทำไมไม่บอก มันปิดบังสิ ถูกไหมคะ แม้แต่คนในบ้านซึ่งเป็นพี่เลี้ยงน้องโมก็ไม่บอก แม่ต้องโทร.ไปถามเองนะเขาถึงจะบอก งั้นเปิดเผยเลยแล้วกัน เดี๋ยวดูหน้าก่อน (มองหน้านักข่าวที่รุมสัมภาษณ์) ดูหน้าคนที่เขาไม่ชอบแม่อยู่ มันจะมีผู้หญิงกลุ่มนึง ซึ่งเป็นเพื่อนน้องโม เป็นพวกช่างแต่งหน้า เป็นเพื่อนๆ สนิทๆ อะไรของเขาแหละ เป็นเพื่อนอีกระดับนึง วันนั้นที่ท่าเรือที่ 1 ก็มีนักข่าวรุมแม่อยู่เยอะแยะมากเลย แม่ก็ตอบไป เสร็จแล้วเขาก็พยายามที่จะดึงแม่ออกมา เขาบอกว่าคุณแม่ออกมาเดี๋ยวจะพาไปพบน้องโม และบุคคลสำคัญ แม่ก็ยึกยัก เขาก็เอารถจอดรอ เราก็งงว่าอะไร เราก็ต้องคิดเนอะจะเอาเราไปฆ่าหรือเอาไปทำอะไรหรือเปล่า ปิดปากเลย ทีนี้คิดไปคิดมาบุคคลสำคัญ ไปเจอน้องโมด้วย แม่ก็ไป ก็เอาเพื่อนไปด้วย คบกันมา 40 ปีเนี่ย แล้วปรากฏไปพบใครรู้ไหม ก็พบพวกเขานั่นแหละ บรรดาพวกเขาก็ขอให้แม่ไม่ให้สัมภาษณ์ข่าว(กระติกเป็นคนบอกเหรอ?) ไม่รู้ ไม่ทราบ เด็กพวกนี้เป็นคนบอกว่าขอให้แม่ไม่ให้สัมภาษณ์ข่าวใดๆ ทั้งสิ้น
เขามีอำนาจอะไรก็ไม่ทราบค่ะ แต่เขาบอกว่านี่แหละสิ่งที่เขาต้องการ ก็เป็นพวกเพื่อนๆ น้องโมที่แต่งหน้า เป็นคนแต่งหน้าบ้าง ทำผมบ้าง เขาก็มีความสนิทกับน้องโม เขาได้รับคำสั่งจากใครแม่ไม่ทราบเลย ก็ลองคิดดูสิคะ ใครจะสั่งเขาได้ แม่ก็ไม่อยากปรักปรำนะ ก็คิดว่าน่าจะเป็นเขา เพราะว่าเขาได้ไปเสี้ยมกับคนใช้ของเขาแล้วด้วย”
คาดอาจมีเรื่องทะเลาะกันบนเรือ
“ไม่ใช่เรื่องเก่าๆ หรอกค่ะ แม่คิดว่าเป็นเรื่องปัจจุบันในเรือนั่นแหละ อาจจะมีการทะเลาะกัน เพราะมันมีภาพน้องโมนั่งเศร้าคนเดียวอยู่ภาพนึง และคนอื่นๆ ก็คงไปอยู่อีกมุมนึง เพราะเขาต้องการถ่ายรูปกัน ประมาณนี้ อาจจะมีคนไม่พอใจน้องโมนะคะ เพราะมีผู้หญิงสองคนนอกจากน้องโมใช่ไหม และผู้ชายอีกสาม ก็จะมีผู้หญิงที่ไม่สวยในเรือก็มี แม่ก็เห็น คือคนสวยกับคนไม่สวยก็เข้าใจเนอะมันเป็นยังไงกัน อาจจะไม่พอใจหรืออะไรก็แล้วแต่ และผู้ชายแม่ก็ไม่รู้จัก แต่พอจะเคยเห็นหน้าจากในภาพถ่ายว่าหน้าตาเป็นยังไง”
ไม่เชื่อลูกไปยืนฉี่ท้ายเรือและตกน้ำตาย คาดอาจเกิดเหตุทะเลาะวิวาทบนเรือ
“ใช่ ถูกต้อง เป็นไปไม่ได้ค่ะ น้องโมไม่ทำ แล้วใส่ส้นสูง และแม่เห็นเรือแล้วมันไม่มีทางที่เขาจะไปนั่งปัสสาวะ เพราะว่าเรือมันเป็นเนินๆ จะไปยืนอยู่ได้ยังไงด้วยส้นสูง จะไปเปิดก้นถ่ายปัสสาวะเหรอ เป็นไปไม่ได้ เพราะข่าวมันออกว่าผู้ชายคนนึงที่อยู่ใน 5 คนนี้ไปจอดเรือทาบเรืออีกลำนึง เพื่อขอเข้าห้องน้ำ เขาทำได้ แต่ทำไมน้องโมไม่ทำ เอาน้องโมไปด้วยสิ น้องโมก็ปวดท้องฉี่นะ แต่มีข่าวอย่างนี้ออกมาก็หมายความว่าไม่ใช่แล้ว ถ้าพูดกันตรงๆ ก็ต้องบอกว่าแตงโมไม่ได้ตกน้ำธรรมดา อาจจะมีปัญหาอะไรกันก็ตาม แม่คิดว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา”
ไม่รู้ทำไมแก๊งเพื่อนให้การไปคนละทิศละทาง
“แม่ไม่รู้ 5 คนนั้นแม่ไม่รู้จักและไม่รู้ว่าเขาให้ข้อความอะไร ไม่เคยฟังข่าวเขาเลย ส่วนเขาจะเตี๊ยมกันไหม ไม่ทราบค่ะ แม่ไม่รู้จักนะ รู้จักกระติกคนเดียว (ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตเรื่องอะไร?) คือไม่ใช่ตกเรือ น้องโมไม่ตกเรือ ไม่ตกน้ำอย่างนั้น ตอนนี้ก็ต้องปรึกษากับตำรวจ เดี๋ยวคุณตำรวจก็จะสอบสวน คุณแม่ให้ปากคำเดี๋ยวเขาก็จะไปประมวลสอบสวน แล้วเขาขอโทรศัพท์น้องโมด้วย ตอนนี้โทรศัพท์อยู่ที่คุณแม่ ส่วนหลักฐานอื่น (นิ่งคิด) มี แต่ไม่อยากพูด แม่ไม่อยากปรักปรำใครนะคะ คือเราเห็นมาเรื่อยๆ เราก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดากัน เป็นเพื่อนกัน เป็นผู้จัดการ แต่เราก็เห็นอะไรมาหลายอย่างที่เขาไม่สุภาพกับน้องโม เขาไม่ได้รักน้องโมจริง ไม่ได้จริงใจกับน้องโม คือสิ่งที่คุณแม่เห็น”
เผยโทรศัพท์อยู่กับแม่ แต่ไม่ได้เปิด และไม่ได้เป็นคนลบรูปในไอจี
“ในโทรศัพท์ใช่ไหม แม่เพิ่งได้โทรศัพท์มาเมื่อคืนนี้เองนะคะ แสดงว่าก่อนหน้านั้นมันต้องอยู่ที่กระติกนั่นแหละ ตอนที่แม่ไปเอาโทรศัพท์อยู่กับพี่เลี้ยง กระติดเขาเอาไปให้พี่เลี้ยงน้องโมที่บ้าน (แม่ไม่ได้ลบ?) ไม่ได้เปิดเลย เปิดไม่เป็นด้วย พี่เลี้ยงรู้เรื่องโทรศัพท์แตงโม พี่เลี้ยงเขาก็ใช้เป็น เพราะเขาเก่งเรื่องโทรศัพท์ แต่พี่เลี้ยงคงไม่ลบ เพราะเขาไม่รู้เรื่องแบบนี้ กระติกเขาทราบเรื่องรหัสอยู่แล้วไม่อย่างนั้นเขาคงลบไม่ได้”
ต่อมา แม่ไปหาร่างแตงโมหลังได้ทราบข่าว ก่อนจะเดินทางกลับมาสน.อีกครั้งพร้อมกับรถตำรวจ โดยมีพื่อนคอยพยุงแม่ขึ้นไปข้างบน สักพักเมื่อรถขนร่างแตงโตมาถึงที่สน. "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ก็พยุงแม่ไปดูศพอีกครั้ง ก่อนที่แม่จะทำใจไม่ได้ เป็นลมล้มลงไป