xs
xsm
sm
md
lg

“คิมม่อน” เครียด จากหล่อหน้าใส กลายเป็นหนุ่มหน้าสิว รักษา 2 เดือนไม่หาย เตรียมหาหมอผิวหนัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“คิมม่อน” แอบเครียดสิวเห่อเต็มหน้า รักษากว่า 2 เดือนยังไม่หาย บอกเพราะต้องรับบทเป็นคน 2 ยุค ทำให้ต้องรีบแต่งหน้าเพื่อเข้าฉาก พ้อผิดเองที่ไม่ระวังเรื่องความสะอาด เตรียมไปหาหมอผิวหนังที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาอย่างจริงจัง เผยซีรีส์เรื่องใหม่เปลี่ยนมาเล่นคู่ผู้หญิงปกติ แต่ไม่ใช่ว่าตนจะกลับไปเล่นสายวายไม่ได้ เชื่อแฟนคลับตามซัปพอร์ตเสมอ

ทำเอาหลายคนที่พบเจอนักแสดงหนุ่ม “คิมม่อน วโรดม เข็มมณฑา” ถึงกับต้องแปลกใจ เพราะจากหนุ่มหน้าใสหล่อเหลา กลายเป็นสิวเห่อเต็มหน้า ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าตนเองก็เครียด เพราะรักษาที่คลินิกมากว่า 2 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่หาย เตรียมจะไปหาหมอผิวหนังที่โรงพยาบาลรักษาอย่างจริงจังต่อไป

“เมื่อกี้ก็มีพี่ๆ ทักว่าทำไมมีสิวขึ้น ปกติไม่มี คือจริงๆ แล้วไม่ได้โทษใครนะ แต่มันเป็นการถ่ายทำที่ลำบาก เพราะเราต้องเล่นสองตัวละคร ตัวนึงเมื่อ 500 ปีก่อนก็จะผิวดำๆ มีหนวด แต่เราต้องถ่ายในเฟรมเดียวกัน ก็ต้องฟรีชกล้องไว้ แล้วเราก็ไปเปลี่ยนเป็นอีกตัวละครนึง เราก็ต้องเปลี่ยนเมคอัพเร็วมาก จากทาดำอยู่ก็ต้องลบ แล้วหนวดก็ต้องโกนทั้งที่ยังมีเครื่องสำอางอยู่ ก็เลยทำให้เริ่มแพ้ตั้งแต่ตรงนั้น ผมก็พยายามรักษามา 2 เดือนแล้ว แต่ไม่หาย เดี๋ยวผมจะไปหาหมอผิวหนังแล้ว

ผมไม่มั่นใจว่ามันคืออะไร แต่เริ่มต้นจากเหตุการณ์วันนั้นแหละ ก็เครียดนะ เครียดตรงที่รักษาไม่หาย ก็ต้องพยายามรักษาให้หาย เพราะว่าเรื่องที่ถ่ายอยู่เดี๋ยวจะเป็นปัญหา ถามว่าเข็ดไหม ผมว่ามันคุ้มทางด้านประสบการณ์นะ และถือว่าเป็นสิ่งที่เราดูแลพลาดเองด้วยแหละ ถ้าเราดูแลดีกว่านี้ ละเอียดกว่านี้ เราเอาคลีนซิ่งมาเช็ดก่อนค่อยโกนก็ได้ แต่เราดันไปโกนเร็วเองด้วยความประมาท ถือว่าเป็นการเรียนรู้ครับ ไม่เข็ดกับตัวละครและบทบาท แต่ผมจะทำให้ดีขึ้นในครั้งหน้าถ้ามีโอกาสครับ

หมอบอกว่าระยะเวลานานรักษาอาจจะมีเป็นปีครับถ้ารักษาไม่ดี แต่ต้องไปปรึกษาคุณหมออีกทีครับ เพราะตอนแรกเราปรึกษาคลินิก แต่ตอนนี้จะไปโรงพยาบาลแล้วครับ ไปหาหมอผิวหนังโดยตรงเลย ก็ต้องเอาให้เต็มที่ครับ เพราะต้นเดือนหน้ามีศึกใหญ่”

เผยซีรีส์เรื่อง เจ้าหญิงหลงยุค ได้พลิกบทบาทครั้งใหญ่
จริงๆ แล้วเป็นบทบาทใหม่ด้วย และรับบทที่โตขึ้น คือปกติทุกคนจะเห็นคิมในบทบาทของนักศึกษา 20 ต้นๆ หรือ 18-19 แต่อันนี้ข้ามมา 30 เลย ตัวละครที่เขาบรรยายไว้คือหนุ่มที่ไปเรียนเมืองนอกมา แล้วมาเปิดบริษัทโฆษณาเอง และอีกตัวละครนึงเป็นตัวละครเมื่อ 500 ปีก่อน ซึ่งเป็นองครักษ์เอก ต้องสู้ ต้องฝ่าฟัน มีฟันดาบ มีต่อยเก่ง ปกป้องนางเอกในยุคที่แล้ว ก็มีเวิร์กช็อปบู๊ให้ครับ และต้องฟันดาบให้คล่องแคล่ว มีบู๊ มีกระโดดสู้ สู้กับนักรบพม่าสมัยก่อน มีสู้หลายฉากเลย

จะลบภาพสายวายไหม ต้องอธิบายคำว่าลบภาพวายก่อน ผมไม่ค่อยเข้าใจ เพราะผมรู้สึกว่าละครทุกๆ เรื่องมันก็คือการแสดง ผมจะชอบโดนคำถามว่าเล่นวายมาแล้วพอมาเล่นละครชายหญิงจะเปลี่ยนไปเลยไหม แต่ส่วนตัวคิมมองว่ามันคือละครแบบเดียวกันแหละ คิมไม่ได้จำแนกว่าจะเป็นวายหรือไม่วาย ทุกอย่างเราเป็นนักแสดง เราสามารถที่จะรับได้หมด ละครก็คือละคร อย่างคิมเองคิดว่ามันไม่จำกัดเพศอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้นเรื่องละครคิมก็ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเล่นกับผู้ชายหรือผู้หญิง เรื่องนี้เล่นกับผู้หญิง เรื่องหน้าคิมก็เล่นกับผู้ชาย เรื่องหน้าที่รับมาใหม่ก็เล่นกับผู้หญิง ก็สลับไปสลับมาไม่ได้เปลี่ยนข้ามไปเล่นชายหญิงแล้วจะเล่นอย่างนั้นตลอดไป ถามว่ากลัวแฟนคลับไม่อินไหม ผมเชื่อว่าแฟนคลับเข้าใจนะ และการแสดงมันคือความบันเทิง ผมเชื่อว่าแฟนๆ ต้องการเห็นเราในรูปแบบใหม่อยู่แล้ว เขาสนับสนุนเราอยู่แล้วครับ เขาพร้อมเห็นเราเล่นในหลายๆ บทบาทอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผมว่าเล่นเรื่องไหนเขาก็อิน เขาก็ฟินตาม”

บอกเรื่องนี้นอกจากพลิกคาแรกเตอร์ ยังต้องปรับอารมณ์กับคน 2 ยุคด้วย
“ตอนแรกผมเข้าใจว่าเรื่องเจ้าหญิงหลงยุคเป็นละครนะครับ เพราะวิธีการถ่ายคล้ายๆ กับการถ่ายละครเลย แต่พี่เขาเรียกตัวเองว่าเป็นซีรีส์ ผมก็ถามว่าทำไมถึงเป็นซีรีส์ แต่ถ่ายเหมือนละครมากเลย เขาบอกว่าจะได้มีซีซั่นต่อไปไง เพราะซีรีส์มันมีซีซั่น แต่จะมีไหมอันนี้เป็นเรื่องของอนาคต ต้องฝากทุกคนติดตามเยอะๆ นะครับ จะได้มีซีซั่น 2 กัน และถามว่าการทำงานแตกต่างไหม ผมว่าการถ่ายทำไม่ได้แตกต่างและไม่ทำให้เอฟเฟกต์มันเปลี่ยน

แต่ที่เปลี่ยนคือการต้องเล่นสองตัวละคร และเล่นเป็นตัวละครยุคเมื่อ 500 ปีก่อน ซึ่งมันมีคำพูดที่เป็นคำคนโบราณ ลักษณะความสุขุมขึ้นของตัวละคร เพราะปกติผมจะรับบทกึ่งๆ คอมเมดี้หน่อย หนุ่มอารมณ์ดี ขี้เล่น แล้วพอเปลี่ยนมาเป็นหนุ่มขรึมก็ยากในระดับหนึ่งแล้วสำหรับตัวละครปัจจุบัน ย้อนยุคกลับไปเป็นนักรบอีก พูดจาตรงไปตรงมา พูดคำราชาศัพท์ที่มันยากมากๆ เรื่องนี้เป็นความใหม่ของคิมในหลายๆ เรื่องเลย

ที่เห็นผมสีนี้ก็ไม่ใช่สีผมในเรื่องนี้นะครับ ก็ต้องปรับกันไป ช่วงที่ถ่ายเจ้าหญิงหลงยุคเป็นช่วงที่ผมถ่ายละคร 3 เรื่องพร้อมกัน ก็ยากมาก ผมใช้วิธีการละลายพฤติกรรมตัวเองก่อนนอนทุกคืน คือหลังจากทบทวนบทก่อนนอน ก็จะต้องนั่งมองหน้าตัวเองในกระจกและจินตนาการณ์ว่าพรุ่งนี้เราจะเป็นอะไร ไม่งั้นงง ก็เรียกชื่อตัวละครในกระจก เหมือนคนบ้าเลย (หัวเราะ) แต่ผมไม่ใช่นักแสดงที่หลงอินกับตัวละครขนาดนั้นครับ ผมยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ยังไม่เก่งขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นก็แยกแยะได้ ก็ต้องจัดเวลาดีๆ เพราะ 3 ตัวละครมันไม่เหมือนกันเลยแม้แต่นิดเดียว แค่ช่วงวัยก็ไม่เหมือนกันแล้ว”









กำลังโหลดความคิดเห็น