เป็นนักร้องที่เจอดรามามาแล้วทุกรูปแบบ จนต้องยกตำแหน่งเจ้าแม่ดรามาให้กับ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” หรือ “รัชนก สุวรรณเกตุ” ล่าสุดเจนนี่ได้ควงแขนสามี “ยิว ฉัตรมงคล สมแก้ว” มาแปลงโฉมเป็นกามเทพ โดยเนตไอดอล “นัท สะบัดแปรง” ในรายการสะบัดแปรง Makeover SS3 Ep.11 ที่พูดคุยถึงเรื่องราวชีวิตของเจนนี่ ซึ่ง นัท สะบัดแปรง ได้ถามเจนนี่ว่า หลังจากเจอดรามาถาโถม เหนื่อยมามาก ฟ้าก็ประทานสามีหล่อมาให้ซึ่งเจนนี่ก็ยอมรับว่าสามีคนนี้ได้มาจากผลบุญของตนที่ได้ทำมา
“เจนนี่พูดกับตัวเองว่าคงเป็นผลบุญที่ฉันทำมา แต่ก็ไม่อยากอวยเยอะ เดี๋ยวคนจะว่าหลงเกิน แต่ว่าทุกครั้งที่มีความรักก็ทุ่มสุดตัวอยู่แล้ว ตัวตนเจนนี่ ตัวตนของเจนนี่จริงๆแล้วเป็นคนตลก เป็นคนบ้านๆ ที่ไม่มีเทสอะไรเกี่ยวกับแฟชั่นเลย คนเชยๆ คนนึงที่ชอบแต่งตัวแล้วก็มั่นว่าฉันสวย แล้วก็จะโดนทัวร์ลงบ่อยๆ เรียกชื่อแบรนด์เนมก็เรียกผิด เมื่อก่อนถ้าเรียกผิดก็มั่นนะ ไม่ได้สนใจฉันต้องแคร์เหรอ แต่เดี๋ยวนี้ถ้าจะเรียกทั้งที ก็ต้องหันไปถามยิวว่า ตัวเอง อันนี้เขาเรียกว่าอะไร”
เสียความมั่นใจไปมากจากชาวเน็ตที่เข้ามาแซว จิกกัดตน
“จากเมื่อก่อนความมั่นมี 150 ตอนนี้เหลือ 50 ข้อดีของการเปลี่ยนแปลงตัวเองคือ มีคนรักมากขึ้น เจนนี่อ่อนหวาน อ่อนน้อมขึ้น แต่ข้อเสียคือความมั่นใจหายไปเลย สมมติจะแต่งตัวก็ต้องคิดแล้วคิดอีก แฟชั่นอะไรของเธอ เวลาเข้าไปดูพี่นัทไลฟ์อยากเข้าไปชมว่าสวยมากเลย แต่ก็กลัวทัวร์ลงถามว่ามาทำไม มาเกาะพี่นัทเหรอ จะเจอแบบนี้บ่อย ไปๆ ออกไป พี่นัทเขาไม่นับญาติกับเธอหรอกก็จะมีประมาณนี้บ่อยมาก”
ดรามาที่ผ่านมาทำให้ “เจนนี่” คิดมากขึ้น ระมัดระวังมากที่สุด ก่อนหน้านี้เครียดจนต้องขังตัวเองอยู่ในห้องคนเดียว 7-10 วัน จนค้นพบแล้วว่าการเงียบดีที่สุด
“ที่สุด ถ้าเป็นเมื่อก่อน อยากไลฟ์ ไลฟ์เลย อยากอัดคลิปทำเลย ตอบคอมเมนต์ตอบเลย แต่เดี๋ยวนี้คิดก่อน ถ้าจะตอบ จะตอบแบบไหน ถ้าไม่ตอบไหวไหม หรืออยากจะอธิบายแบบไหน จะเป็นอย่างไร ถึงจะออกมาดีที่สุด และลบน้อยที่สุด
สมัยแรกๆ ที่มีดรามา ถ้าไม่ได้ทำก็จะต้องบอก ณ ตอนนั้นเลย ต้องอธิบาย ต้องพูด ต้องแถลง ไลฟ์สด ณ เดี๋ยวนั้น เพราะว่าไม่ได้ทำ แต่สุดท้ายมารู้ว่าการเงียบมันดีกว่า เพราะว่าอธิบายไป คนที่เขาไม่ชอบ เขาก็ไม่รับฟัง นอกจากว่าเขาจะได้มาสัมผัสหรือว่าเจอกับเราจริงๆ เราก็ปรับตัวเองมาเรื่อยๆโดยไม่ต้องบอกว่าจะทำ เพราะถ้ามัวแต่สนใจก็เครียดตายพอดี กว่าจะเจอยิว เจนนี่ดาวน์อยู่ในห้อง 7-10 วัน ไม่กล้าบอกแม่กับลิลลี่ เครียด ร้องไห้อยู่ในห้องคนเดียว พอใครโทรมาคุยงานก็ฮึบแล้วก็คุย ร้องไห้จนเป็นแพนิกไปเลย
วันนี้เราเครียดมากแค่ไหน แต่มีคนที่เครียดมากกว่าเราเป็นล้าน อย่าไปมองคนที่ดีกว่าแล้วเอาตัวเองเป็นปมด้อย ต้องมองคนที่แย่กว่า พูดจริงๆ มันก็ไม่ง่ายนะกว่าจะมีชื่อเสียงคนรู้จักมีคนติดตามขนาดนี้ แล้วจะมาท้อแท้กับคอมเมนต์ที่มาบูลลี่แค่นี้เหรอ”
มีลูกแล้วโฟกัสเปลี่ยน เอาเวลาอ่านคอมเมนต์มาช็อปปิ้งของลูก
“ถ้าใครที่กำลังท้อแท้ คิดว่าตัวเองแย่ ก็ลองมองดูถ้าร่างกายยังครบ 32 ลองหันไปมองคนที่เขาตาบอด หูหนวก คนที่ไม่ได้รับโอกาสเหมือนเรา เราไม่ใช่คนที่แย่ที่สุดในโลก มองชีวิตให้เป็นข้อดีและปรับตัวไปเรื่อย
พอมาเป็นแม่คน โฟกัสมาอยู่ที่ลูกและอนาคตของลูกมากกว่า จากเอาเวลาไปนั่งอ่านคอมเมนต์ ก็ไปนั่งดูเสื้อผ้า แต่ยิวจะมองไกลถึงเรื่องการศึกษา อนาคต แม่สามีอยากให้มีลูกเยอะๆ เจนนี่ก็อยากมีเยอะๆ แต่งานก็อยากทำ เจนนี่ชอบทำงาน หยุดไม่ได้เลย”
