“นก จริยา” ย้อมผมหงอกเดือนละหลายครั้ง “สร้อยสะบันงา” ถ่ายทำตอนโควิด รับขาดทุน แต่หายเหนื่อยเพราะเรตติ้งพุ่ง เสียดายละครไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ มีปัญหาให้แก้ทุกวัน กระแสจิ้น “นาย-ใบเฟิร์น” ไม่มีส่วนให้เสิร์ฟฉากจิ้น รับคู่นี้น่ารักจนตนและ “หมู พิมพ์ผกา” แอบเชียร์ แจงสามีโพสต์ไอจีหามตนส่งรพ.ไม่เป็นความจริง แค่เข้าไปตรวจเฉยๆ ไม่เอาสามีมาเล่นละคร หวั่นกลับบ้านตีกัน
กำลังโกยเรตติ้งไปพร้อมกับกระแสจิ้นเลยทีเดียว สำหรับละครเรื่อง สร้อยสะบันงา ของผู้จัด “นก จริยา แอนโฟเน่” ที่ได้สองพระนางคู่จิ้น “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” กับ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์”มาจับคู่ฟินกันยกใหญ่ในตอนนี้ ซึ่งผู้จัดนกก็ได้ออกมาเปิดใจยอมรับว่าเรื่องนี้แม้จะทำออกมาแล้วขาดทุน แต่ก็ได้เรตติ้งมาทำได้ชื่นใจขึ้น
“มัน 2 ปีของโควิดด้วยค่ะ เปิดกล้องวันแรกโควิดค่ะ หยุดค่ะ จะบอกว่าได้กำไรก็คงตอแหล (หัวเราะ) แต่ไม่เป็นไรค่ะ มันกำไรความสุข ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้เรื่องนี้ก็อาจจะได้เรื่องหน้า เราก็ไม่ได้ทำละครเรื่องเดียวเนอะ เราทำเรื่อยๆ ถามว่ามันบานปลายแค่ไหน นกว่ามันบานในเรื่องของการดูแลคนมากกว่า เพราะบางทีเราก็เป็นห่วงทีม เราก็ทิ้งทีมในช่วงหยุดงานไม่ได้ ทุกภาวะ ทุกวิกฤต ทุกอาชีพเจอหมด ก็ต้องดูแลกันไป แต่อาจจะบอกน้องๆ ว่าพี่อาจจะดูแลไม่ได้เท่าเดิมนะ แต่เราค่อยๆ ประคับประคองกันนะ
ซึ่งมันเป็นเรื่องทั้งให้กำลังใจกัน ทั้งดูแลกันในส่วนของเรื่องค่าครองชีพ เพราะทุกคนเขามีลูก มีครอบครัว เราเข้าใจ ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเราคือทีม ทุกคนช่วงโควิดลำบากหมด บางทีมันเป็นการทำงานที่ต้องกลับมาแก้ปัญหา คือถ่ายวันนึงหยุดไป 2 เดือน พอกลับมาก็ต้องรื้อใหม่หมดทุกอย่าง พอถ่ายๆ ไปเจอระลอก 3 สถานที่ไม่ให้เข้าก็ต้องแก้ปัญหาอีก เวลาก็เริ่มจะไม่ทัน คิวนักแสดงก็จะไม่ได้ เราก็ต้องแก้ปัญหาอาจจะต้องรวบบทหรืออะไรใดๆ เยอะมากค่ะ ทำงานกันบนวิกฤตที่จะต้องแก้ปัญหากันตลอดเวลา”
เครียดจัด ต้องโกรกย้อมผมหงอกเดือนละหลายรอบ
“จัดสรรไม่ได้ค่ะ (หัวเราะ) ก็ทำความเข้าใจค่ะ ทุกอย่างก็ต้องยอมรับตรงนั้น จริงๆ ช่องดูแลนะคะ และนกว่าเราได้ทีมดีด้วย อะไรที่แก้ปัญหาได้ อะไรที่ทดแทนได้เราก็พยายามที่จะประนีประนอมกับปัญหาไป ก็ไม่ได้ปฎิเสธความจริงที่มันเกิดขึ้น และเราได้ทีมนักแสดงดี ได้ทีมทำงานดี เราใช้คำว่าอุ้มกันไป ประคับประคองกัน
ละครพีเรียดก็ยากแล้ว นักแสดงก็กลัวโควิดอีก ทุกคนก็มีความกลัว คนนั้นฉีดหรือยัง คนนี้ฉีดหรือยัง มันแก้ปัญหาอย่างนี้ทุกวัน จนนกโกรกผมเดือนละ 2-3 ครั้ง หงอกแล้วหงอกอีก (หัวเราะ)เครียดนะ เพราะถ้ามีใครเป็นอะไรขึ้นมาสักคน เราจะรู้สึกผิดมาก ไอ้ที่ยกกองมันยังเป็นอีกเรื่องนึงนะ แต่ครอบครัวเขากันอีก แต่เราก็ผ่านมาได้ 2 ปีแล้ว แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่ามันไม่ต่อเนื่องแน่นอน มันไม่สามารถจะสมบูรณ์ได้ 100% อย่างที่ใจเราคิดได้ เพราะมันทำงานไปแก้ปัญหาไป”
ไม่มีกำไร แต่เรตติ้งพุ่ง ทำหายเหนื่อย
“มันก็หายเหนื่อย (หัวเราะ) มันก็มาทดแทนในส่วนของคนทำงานเนอะ พองานได้รับการโอบอุ้มจากคนดู คนดูอิน หรือดูละครเรา เราก็รู้สึกขอบคุณ เราก็มีกำลังใจในการทำงานต่อว่าไม่เป็นไร คนก็ยังรอดูนะ แต่ในความรู้สึกของคนทำงานมันก็อาจจะไม่สมบูรณ์ 100% หรอก แต่ก็ต้องขอบคุณค่ะ เพราะบางอย่างมันต้องใช้วิธีตัดช่วยในสิ่งที่มันโดดไปอะไรไป นกก็อาจจะต้องฝากขออภัยไปล่วงหน้าว่ามันเป็นการทำงานท่ามกลางวิกฤตจริงๆ แต่เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด
สำหรับนกรู้สึกดีใจนะ แต่ถ้าจะให้คะแนนตัวเองนี่ไม่กล้า เพราะมันยังมีคาใจว่าอันนั้นมันต้องดีกว่านี้ ก็เลยไม่กล้าให้คะแนน เพราะเห็นข้อผิดพลาดอยู่ แต่บางทีในบทของเรื่องที่มันก็ไปของมัน คนดูอาจจะยังไม่ทันรู้สึก แต่คนที่ช่างสังเกตก็มีเหมือนกัน ซึ่งเรารับหมดคำติชม ยิ่งเฉพาะคำติอะไรใดๆ เราเป็นคนเปิดใจรับ”
ปัดเสิร์ฟจิ้น “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” กับ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์”
“เราไม่ได้ทำละครเสิร์ฟจิ้นนะเอาจริงๆ แต่เราเองก็ยังเชียร์ว่าเมื่อไหร่จะเป็นแฟนกันสักที (หัวเราะ) แม่หมู (พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ) ก็เป็น (หัวเราะ) ซึ่งในความพี่น้องสองคนเขาก็น่าเอ็นดู ทำงานเขาก็มีความสนิทกัน แล้วเวลาเขาอยู่ด้วยกันมันน่ารัก มันทำให้เราใจฟู แต่ผู้ใหญ่ก็นิสัยเสีย ชอบแอบลุ้น แอบส่อง (หัวเราะ) แต่จริงๆ กระแสจิ้นไม่มีผลค่ะ เพราะตอนแรกตัวละครที่ถูกวางไว้คือเทียน เราเห็นความเป็นเทียนในตัวน้องนาย เขาเป็นเด็กที่น่ารัก นุ่มนวล
แล้วพอมีชื่อของใบเฟิร์นขึ้นมา ซึ่งตอนนั้นใบเฟิร์นไม่ใช่เด็กช่อง เราก็ถามว่ามันจะเป็นไปได้เหรอ แต่จริงๆ แล้วใบเฟิร์นคือใช่เลย เพราะนางเอกเรื่องนี้ไม่ใช่นางเอกในอุดมคติ เขามีทั้งเจ้าเล่ห์ มีทั้งทะเยอทะยาน มีทั้งการเอาชนะสูง ซึ่งใบเฟิร์นเขาผ่านมาแล้วทุกบท โสเภณีเขาก็เล่นแล้ว เป็นผู้ชายเขาก็เล่นแล้ว เขาไม่มีข้อจำกัดในการรับบทเลย แล้วพอเรายิ่งมีโจทย์แปลกไปเขาก็จะยิ่งชอบ ก็เลยคุยกับช่อง เพราะมันไม่ง่ายนะ ตัวละครตัวนี้ต้องเปิดกว้างกับบทที่จะต้องพัฒนาไปถึงมีลูก ไปถึงย่ำยีตัวเองถึงที่สุดก็เลยติดต่อเขาไป แม่หมูก็ช่วยจีบไป (ยิ้ม) พอน้องอ่านบทน้องก็บอกว่าน้องไม่เคยทำงานพีเรียด ก็เลยลงตัว”
เกือบได้เป็นละครวาย
“หลังจากนี้นกจะเริ่มถูกเผา ทัวร์ลงแน่ (หัวเราะ) ตอนแรกก็โดนทัวร์ลงไปแล้ว เพราะอยู่ดีๆ สาละก็ตาย ออกจะเป็นแนววายเล็กๆ ในตอนแรก แต่มันเป็นประเด็นของเรื่องจริงๆ ค่ะ แต่ในปัญหาของเรื่องทั้งหลายสิ่งที่ดีงามคือมีผู้ชายคนนึงที่อยู่ข้างๆ ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นคนมองโลกในแง่บวก และเป็นคนให้คุณค่าผู้หญิงมาก ทำให้คนอยากมีพี่เทียนน่ะ แต่จะย้อนกลับไปแก้ให้ปาริธไม่ตายก็ไม่ได้ไง (หัวเราะ) เพราะไม่อย่างนั้นงามจะไม่ได้เข้าวัง มันจะเป็นละครวาย (หัวเราะ) แต่ฉากจ้องตาอะไรทั้งหลายเขาก็เป็นเพื่อนรักกัน คนดูนั่นแหละมโน (หัวเราะ) แต่เพราะปาริธน่ารักและนายก็น่ารัก
ตอนวางตัวละครเราก็ไม่คิดนะ แต่พอตอนถ่ายไปอ้าวคู่นี้น่ารักซะอย่างนั้น เราก็ยังหันมามองหน้าผู้กำกับว่ามันจะจิ้นไหมวะ (หัวเราะ) ก็ไม่เป็นไร เราได้ความทันสมัย ตามสิ่งที่เด็กๆ ยุคนี้เขาชอบกันค่ะ แต่น้องนายก็บอกว่าอยากเล่นวายเหรอ จริงๆ แล้วมันเป็นความท้าทายอย่างนึงนะ เพราะนกมองว่ามันคือเรื่องธรรมชาติของความรัก และถ้าเป็นตัวเองเล่าเราจะเล่าแบบไหน ก็แอบคิดเหมือนกัน แล้วเส้นเรื่องมันต้องแข็งแรงด้วย เพราะนกชอบแอบเอาเรื่องจริงเข้ามา”
กลายเป็นละครจานด่วน
“แอบตกใจ (หัวเราะ) เพราะในความจานด่วนนั้นเราก็ต้องพิถีพิถันด้วยนะคะ เราก็เลยทำการบ้านตรงบทเยอะ และมันมีความแปลกที่คนบอกว่านกชอบทำละครผัวเมีย แต่พอเรื่องนี้มันไม่ใช่ผัวเมีย และมันมีโจทย์แตกออกไปจากสิ่งที่เคยทำ และเราอ่านแล้วสนุก ต้นทุนเดิมของเรื่องมาดีเลย และแฟนหนังสือเขาก็เยอะมาก พอเรามาอ่านกับคนเขียนบทที่เขาก็อิน เขาก็เติมนั่นเติมนี่เข้ามามันก็ทันสมัยและสนุก ยิ่งได้เซ็ตตัวละครที่หน้างานมันมีเคมีที่น่ารักด้วย”
วางใจให้ “โอ๊ต วรวุฒิ นิยมทรัพย์” เป็นผู้กำกับ
“จริงๆ แอบมองเขานานแล้ว ตอนเขาเป็นนักแสดงเขาก็เป็นนักแสดงที่เราก็ชอบผลงาน พอเขามากำกับเขาก็มีความน่าสนใจในตัวงาน และนกจะมีความรู้สึกว่าผู้กำกับที่เป็นนักแสดงเขาจะมีความเข้าใจนักแสดง อย่างพี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) อย่างพี่ชุ (ชุดาภา จันทเขตต์) ไม่ใช่ว่าผู้กำกับที่ไม่ใช่นักแสดงจะไม่เก่งนะคะ เขาก็มีความเชี่ยวของเขา ด้วยความที่เรารู้จักโอ๊ตเป็นการส่วนตัว พอยิ่งไปคุยมันเหมือนคลิกกัน เรารู้สึกว่าฝากงานชิ้นนี้ไว้กับน้องได้ และโอ๊ตเป็นผู้ชายแปลกที่มีความละมุนละไม แปลกนะบางทีเขารู้ว่าผู้หญิงทำท่าแบบนี้มันต้องเป็นอย่างนี้ เธอรู้จักผู้หญิงเยอะมาก (หัวเราะ)
ก็ทำงานให้สนุกค่ะ และนกโชคดีที่ได้โอกาสดี ช่องก็ส่งนักแสดงเบอร์ดีมาให้ ถามว่ากดดันไหม กดดันค่ะ และอยากทำให้ดีที่สุด ก็เลยต้องบิวต์ที่ตัวเองต้องสนุกก่อน และเขาจะเอาไปขายจีน ต้องเอาไปให้จีนตรวจอีกเป็นเดือน เราก็ต้องทำเวลาเผื่อให้กบว.จีนตรวจด้วย ใจนกไม่อยากทำให้มันไปออนแอร์ปีหน้า เพราะเดี๋ยวจะเอาต์ นกอยากให้ได้อยู่ในปีนี้ เพื่อให้มันได้เสิร์ฟอะไรหลายๆ อย่างที่ทันสมัยให้ทันกับปีนี้ มันก็ดี เพราะไม่งั้นถ้าทำงานด้วยจังหวะที่ช้ามันจะจมอยู่กับงานนานเกินไป นกว่ามันต้องทำงานด้วยความคึกคักค่ะ”
บอกโดนสามีแกล้ง จนคนเข้าใจผิดเป็นห่วงกันใหญ่
“นกแค่เดินเข้าไปเฉยๆ ไม่มีใครหามเข้าไป เป็นเพราะอีพี่จอน (จอนนี่ แอนโฟเน่) คนเดียวเอาไปลงไอจี บอกว่านกใส่ไม่ครบจบที่โรงพยาบาล (หัวเราะ) อยากจะตบปาก นกถ่ายรูปตรุษจีนเราก็เอากางเกงขาสั้นมา วงการมายาใช่ไหม เราก็ใส่กางเกงขาสั้นข้างใน ลูกก็ถ่ายรูปให้ นกก็เอาเสื้อจีนมาคลุม ลูกบอกหม่ามี๊เอาบ่าลงหน่อย ก็ให้ทำเป็นโป๊ๆ นะ นางก็เลยแซว พออีก 2 วันนกไม่สบาย นางก็เลยบอกว่าเพราะวันนั้นน่ะใส่ไม่ครบ ก็เลยไปจบที่โรงพยาบาล คนก็ฟังแล้วแบบหามฉันขนาดนั้น หาเรื่องให้ฉันต้องตอบคน (หัวเราะ)
วันนั้นก็เหมือนเป็นไข้ปกติ เราก็กลัวจะติดเชื้อ ก็เลยรับเข้าโรงพยาบาลไปให้หมอตรวจ เป็นภูมิแพ้อะไรด้วย แค่นั้นแหละ นกก็ด่าอีพี่จอนเลยสิคะ บอกไอจีเธอทำฉันต้องมานั่งตอบคำถามคน (หัวเราะ) แล้วดันไปโยงกับรูปที่ฉันถ่ายอีก นางก็แซวขำๆ คนก็ถามกันใหญ่ว่าเป็นอะไรๆ เป็นห่วงกัน เราก็บอกว่าแค่เดินเข้าไปตรวจเฉยๆ ทำงานเยอะ นอนน้อย
ถามว่าอยากเอาสามีมาเล่นละครบ้างไหม ไม่ค่ะ (หัวเราะ) ไม่ได้ค่ะ เพราะผัวเมียกันเดี๋ยวกลับไปตีกันในบ้าน ไม่หรอก แต่นกว่าตอนนี้เขาไปทำธุรกิจอย่างอื่นเยอะแล้ว และไอ้คำว่าบ้านเดียวกัน นกว่ามันทำงานไม่สนุก อารมณ์เรานะ เพราะถ้าเขาตื่นสาย ถ้าเขาท้องเสียมากองสาย เราก็จะหงุดหงิด จะเป็นเรื่องส่วนตัวเข้าไปผสมกับเรื่องงานซะมากกว่า และงานนางก็แน่นมาก นางก็จะทำธุรกิจไปเรื่อยเลย ขี้เกียจขอคิว (หัวเราะ) ขอคิวยาก เดี๋ยวมาทำเป็นเล่นตัวใส่ฉัน สะบัดบ๊อบใส่กันอีก (หัวเราะ)”