นับได้ว่าเป็นหนังไทยในช่วงยามส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กระแสแรงเป็นอย่างยิ่งสำหรับ 4 KING ไม่เช่นนั้นชื่อของหนังเรื่องนี้คงไม่กระฉ่อนมาเข้าหูผู้เขียนที่อยู่นอกโลกโชเชียลเป็นแน่แท้
ยิ่งในช่วงเกือบปีเต็มที่ผ่านมาผู้เขียนยังแทบไม่ออกจากห้องเช่าอันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด จึงทำให้โอกาสที่จะได้รับรู้ข่าวคราวความไหวอะไรต่อมิอะไรลดน้อยถอยลงไม่ต่างอะไรไปกับกบในกะลา
ทว่าความดังของหนังเรื่องนี้จึงมีวันหนึ่งและอีกหลายวันต่อๆ มา ทำให้ต้องดูเพื่อพิจูน์จนได้
โอเคนะครับ ภาพรวมของหนังใช้ได้ทีเดียว ที่ต้องชูมือให้คือผู้กำกับการแสดง คะแนนความตั้งใจสูงมากในทัศนะของผู้เขียน เพราะเรื่องราวใน 4 KING เดาอะไรได้ไม่ยากนัก กระนั้นผู้กำกับและคนเขียนบทสามารถ ‘เอาอยู่’ โดยเฉพาะการปูเรื่องในฉากแรกช่วยเติมความเต็มให้กับหนังได้อย่างพอดิบพอดี
ที่ต้องปรบมือรัวก็ต้องบรรดานักแสดง โดยเฉพาะดาราชายทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นตัวเดินเรื่อง หรือตัวเสริมในบทบาทอื่นๆ เจ๋งครับ ยิ่งบทพูดบทสทนาก็สาดใส่อารมณ์คนดูได้ตลอด
เอาเป็นว่า ‘โดน’ ทั้งเด็กช่าง เด็กบ้าน ยันเด็กดอยทีเดียว
แล้วประเด็น ‘โดน’ นี่แหละคือหัวใจของหนังที่ผู้เขียนปรารถนาจะหยิบยกมาเอ่ยถึงในคอลัมน์
กล่าวคือวัยรุ่นที่เดาว่าน่าจะต้องดูกันแน่ๆ เช่นเดียวกับการนิยมชมชอบเพลง ‘มือปืน’ ของปู-พงษ์สิทธิ์ เมื่อดูหนังเรื่องนี้ต้องพิจารณาให้ดี ไม่ใช่สักแต่จะพูดแบบหนัง กระทั่งทำตัวเลียนแบบหนัง เพราะหนังเองไม่ได้มีเรื่องราวเฉพาะความมันส์ ความเท่ ความเป็นลูกผู้ชาย แต่หัวใจของหนังจริงๆ บ่งบอกแล้วว่าเมื่อช่วงเวลาหนึ่งผ่านพ้นไปจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตที่เหลืออยู่
ไม่ใช่แค่ตัวเราเท่านั้น แต่หมายถึงคนรัก ครอบครัว สังคม แน่นอนว่ารวมไปถึงบ้านเมืองด้วย
อย่างที่เขาว่า ดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัวเอง