xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “รัศมีแข - มดดำ” มาตามนัด พร้อมไกล่เกลี่ยคดี “ไฮโซแชมป์” ฟ้อง แต่ไร้เงาคู่กรณี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยังคาราคาซังกันอยู่ กรณี “ไฮโซแชมป์”หรือ “จิรัฏฐ์ เพชรนันทวงศ์”ยื่นฟ้อง “มดดำ คชาภา ตันเจริญ”และ “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น” ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยเรื่องเริ่มจากฝ่ายไฮโซแชมป์มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับรัศมีแขที่ผับแห่งหนึ่งที่พัทยา ต่อมามดดำได้เล่าข่าวดังกล่าวและมีการโฟนอินกลางรายการข่าวใส่ไข่ จนทำให้ฝ่ายไฮโซแชมป์เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรม เพราะเนื้อหาทำให้เข้าใจว่าไฮโซแชมป์ใช้แก้วพลาสติก และใช้ขวด ตีใบหน้ารัศมีแข จนเลือดอาบจมูก หัวแตก ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นเท็จ และใส่ความจนทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ขณะที่ข้อหาทำร้ายร่างกายที่รัศมียื่นฟ้องไฮโซแชมป์นั้น เรื่องก็ยังอยู่ในขั้นตอนของศาล



ล่าสุดวันนี้ (14 ก.พ. 65) “รัศมีแข” พร้อม “มดดำ คชาภา” ได้เดินทางมายังศาลอาญา รัชดา พร้อมทนายความส่วนตัว “ทนายไพศิษฐ์ ชาครานนท์”(ทนายรัศมีแข), ทนายชินพรรธน์ เกตุไทยวีรกุล (ทนายมดดำ) ซึ่งเป็นการมาตามนัดไต่สวนของศาล ในกรณีที่ไฮโซแชมป์ยื่นเป็นโจทก์ฟ้อง “มดดำ” และรัศมีแข จำเลยที่ 1 และ 2 ซึ่งวันนี้ไฮโซแชมป์ได้มอบอำนาจให้ตัวแทนมาขึ้นศาลแทน เนื่องจากยังติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ

ด้าน “รัศมีแข” ได้เปิดใจว่า ตนเองภูมิใจในตัวเองว่าเราเป็นคนคุณภาพที่คู่ควรอยู่ในสังคม เราทำตามกฏหมายทุกอย่างที่ได้กำหนดไว้ ทำผิดหรือทำถูกก็ต้องรับผิดชอบด้วย โดยหลังจากนี้ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนของศาล ด้านทนายยังเผยต่อคดีนี้สามารถไกล่เกลี่ยยอมความกันได้ แต่เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ได้มาด้วยตนเอง ศาลจึงเลื่อนแล้วนัดมาไต่สวนกันอีกครั้งในวันที่ 25 เม.ย. นี้ พร้อมเผยความคืบหน้าคดีที่ลูกความตนเองถูกทำร้าย ตอนนี้ศาลแขวง พัทยา รับคำร้องและนัดสอบคำให้การในวันที่ 16 มี.ค.

ทนายไพศิษฐ์ : “ศาลท่านให้มาไกล่เกลี่ย คดีนี้สืบเนื่องมาจากที่เขาฟ้อง นัดแรกเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ปี 64 มาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นทนายและโจทก์เองขอเลื่อน โดยคำสั่งศาลด้วยระเบียบของโควิด จนถึงวันนี้ 14 กุมภาพันธ์ ปี 65 ซึ่งวันนั้นศาลได้กำชับว่า อยากให้ทุกคนมาวันนี้ เพื่อไกล่เกลี่ยกัน เพราะมันเป็นคดีที่คุยกันได้ ทางเราได้เชิญ มดดำและแข มาศาล ตามที่ศาลอยากให้มาเพื่อไกล่เกลี่ย เรามาด้วยเจตนาที่ดี แต่ท้ายที่สุดก็ไม่เจอเหมือนเดิม ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3

ซึ่งวันนี้คู่กรณีก็ไม่ได้มา แล้วทางทนายเขาก็ขอเลื่อนเหมือนเดิม ก็อยู่ที่ศาลท่าน ถามว่าวันนี้ผมคัดค้านไหม ผมก็คัดค้าน ทางทนายพี่มดดำก็คัดค้านท่านก็มองว่าถ้าเป็นอย่างนี้ ก็นัดขึ้นไวหน่อย เป็นวันที่ 25 เมษายน”

เหตุผลที่ไม่มาตามนัด คือติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ
ทนายไพศิษฐ์ : ต้องเรียนอย่างนี้ครับ ฝั่งคู่กรณีถ้าพูดถึงโจทก์ เท่าที่ผมทราบก็คือ ผมไม่รู้ว่าเขากลับมาจากต่างประเทศหรือเปล่า ในส่วนคดีอาญาที่ทางผมฟ้อง ที่ศาลแขวงพัทยา ที่อัยการฟ้อง มีการออกหมายจับ เท่าที่ผมสอบถามจากพนักงานสอบสวน”

ยินดีไกล่เกลี่ย ในคดีหมิ่นประมาท แต่สุดท้ายวันนี้ก็ไม่ได้คุย
ทนายไพศิษฐ์ : คดีหมิ่นประมาทวันนี้เราก็ต้องแยกกันนะครับ ท้ายที่สุดวันนี้ก็ไม่ได้คุยกัน การไกล่เกลี่ยมันเกิดขึ้นได้ตลอด ไม่ต้องอยู่ในศาลก็ได้ นอกศาลก็ไกล่เกลี่ยได้ เพียงแต่ทางเราไม่ได้รับการติดต่อ ซึ่งถ้าติดต่อมา เราก็พร้อมยินดีคุย ณ วันนี้ยังไม่มีความคืบหน้า”

ภูมิในในตัวเอง การศึกษาบ่มให้เป็นคนที่ถูกต้อง ทำหน้าที่ตามกฎหมาย
รัศมีแข : “เรารู้สึกภูมิใจในตัวเราเอง ตั้งแต่เราโตมา เราโตที่ต่างประเทศ การศึกษาที่เราได้รับ มันบ่มให้มองตัวเราเองว่า เราเป็นคนที่ถูกต้องแล้ว เป็นคนที่คู่ควรที่อยู่ในสังคม อีกหนึ่งความภูมิใจก็คือ การที่เป็นลุง เป็นน้า เป็นหลาน แล้วได้ทำหน้าที่ตามกฎหมายทุกอย่าง แม้ว่าตัวเราจะโดนฟ้องร้องก็ตาม แต่เรามาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์”

ในส่วนของคดีต้องปรึกษาทนาย เพราะไม่รู้ระบบของประเทศไทย
รัศมีแข : อันนี้ต้องปรึกษาทนาย อย่างที่บอกแขไม่ได้อยู่เมืองไทย ไม่รู้ว่าระบบการจัดการที่นี่ทำยังไง เพราะการมาศาลทุกครั้งของแข ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องคดี แขจะคิดทุกอย่าง โอเคที่สวีเดนเป็นแบบนี้ ก็น่าจะประมาณนี้ ตามความรู้สึกของแข”

คุยกับ “มดดำ” แล้ว ให้ทนายเป็นคนจัดการทั้งหมด ไม่เครียดกับเรื่องนี้
รัศมีแข : “กับพี่มดดำก็ได้คุยกัน ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของทนายทั้งหมด พี่มดดำก็ไม่ได้เครียด เราคุยกันว่าเราทำหน้าที่ของเราในส่วนที่ควรจะเป็น ศาลเรียกเราก็มา ส่วนในครั้งหน้าต่อไปจะเป็นยังไงต่อไป ก็ให้เป็นตามกระบวนการตามกฎหมายไป ในส่วนกำลังใจของแข ทุกครั้งที่ต้องมาจัดการเรื่องคดีแบบนี้ ถามว่ากลัวไหม กลัว มีประหม่า นอนไม่หลับ แล้วยิ่งคดีที่เขามาทำร้ายร่างกายแขแล้วด้วย เวลาเรามองย้อนกลับไป ทำไมมันต้องเกิดขึ้น ไม่ได้โอเค

แขรู้สึกว่าแขมองเห็นมูลค่าในตัวแขเอง มูลค่าของตัวแขคืออะไร กว่าแขจะโตมา แขโตมากับเงินสวีดิชคราวน์ที่แม่เลี้ยง ไม่ใช่เงินไทยต้องคูณสี่เลยนะ นั่นคือมูลค่า แต่มูลค่าที่สำคัญที่สุดของแขก็คือความรักที่แขได้จากสามี ความรักที่แขได้จากหลานจากคนรอบข้างเรา ใครตีมูลค่าเป็นจำนวนเงินได้บ้าง แล้วเราต้องมาเสียเวลากับอะไรอย่างนี้อีก เพราะฉะนั้นแขบอกเลยยิ่งยื้อตัวเลขของแขยิ่งขึ้น

ในแง่ของกฎหมายสามารถเรียกค่าเสียหายได้ แต่สุดท้ายก็ต้องอยู่ที่ศาล
ทนายไพศิษฐ์ : “จริงๆ แล้วการเรียกค่าเสียหาย ก็เรียกได้แหละ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องอยู่ที่ศาลอยู่ดี”

ทนายชินพรรธน์ : “ในคดีนี้คุณมดดำเป็นจำเลยที่ 1 คุณรัศมีแขเป็นจำเลยที่ 2 ในส่วนของค่าเสียหายเขาไม่ได้เรียก เขาเรียกในส่วนลงขอโทษผ่านสื่อ โฆษณาคำพิพากษาผ่านสื่อก็จะมีอยู่แค่นั้น”

ทนายไพศิษฐ์ : “ท้ายที่สุดถ้าเราคุยกันไม่ได้ในคดีนี้ ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการต่อไป สืบพยานสู้คดีกันต่อไป (อายุความคดีกี่ปี?) คดีนี้อายุความหลายปีเหมือนกันครับ แต่จริงๆ แล้วเราไม่ต้องพูดถึงอายุความนะครับ ตอนนี้มันฟ้องเรียบร้องแล้ว”

ทนายชินพรรธน์ : “เราต้องเข้าใจก่อนว่าในคดีนี้ทางคุณมดดำและคุณรัศมีแขยังไม่ได้เป็นจำเลย ยังอยู่ในระหว่างไกล่เกลี่ย ศาลยังไม่มีคำสั่งซึ่งก็เป็นหน้าที่ของทนายความ”

ทนายไพศิษฐ์ : “คือวันนี้ที่มาเรามาโดยหลักจำเลยไม่ต้องมาก็ได้ แต่ที่เรามาวันนี้จากที่ศาลท่านสั่งให้มา แต่ท้ายที่สุดที่เรามีเจตนาจะมาคุยด้วยเต็มใจ อยากคุยจริงๆ ท้ายที่สุดก็ไม่ได้คุย

การยื่นค้านครั้งหน้า ถ้าอีกฝ่ายไม่มาอีก ต้องจำหน่ายคดี ยกฟ้อง
ทนายไพศิษฐ์ : ศาลท่านมองว่าถ้าครั้งหน้าไม่มาอีก ศาลก็ต้องกำชับเลยว่า ถ้านัดหน้าไม่มา ก็ต้องจำหน่ายคดี ยกฟ้องไปเลย แล้วแต่ท่านสั่ง ซึ่งในนัดหน้าวันที่ 25 เม.ย.”

ในส่วนคดีทำร้ายร่างกาย ยังยืนยันเอาเรื่องเต็มที่
รัศมีแข : “ก็ต้องเป็นไปตามแบบนั้น เราอยู่ในประเทศที่มีกฎหมาย แล้วกฎหมายก็คุ้มครองสิทธิของเราอยู่แล้ว กับสิ่งที่แขสูญเสียไป หน้าแขอาจจะไม่เป็นอะไรตอนนี้ด้วยเวลาที่รักษาหาย แต่ว่าความรู้สึกของแขข้างในใครรักษาได้บ้าง สิ่งนี้แหละที่มีมูลค่าที่สุด”

ทนายไพศิษฐ์ : “คดีอาญาเราฟ้องที่ศาลแขวง พัทยา นัดอีกประมาณวันที่ 16 มี.ค. ที่ศาลแขวงพัทยา ซึ่งคดีที่ศาลแขวงพัทยาศาลประทับฟ้องแล้วนะ นัดต่อไปคือนัดสอบคำให้การเขาก็ต้องไปศาล แต่ในส่วนของคดีที่พนักงานสอบสวนส่งให้อัยการฟ้องก็เดินอยู่เหมือนกัน ถ้าพูดกันสั้นๆ คดีอาญาเราเดินอยู่สองเส้นทาง เส้นทางทนายฟ้องเอง กับเส้นทางตำรวจ ผมพยายามติดตามตลอดก็คือว่าพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนส่งให้อัยการแล้ว แต่ตัวผู้ต้องหาไม่ยอมไปพบพนักงานอัยการก็เลยออกเป็นหมายจับขึ้น”









กำลังโหลดความคิดเห็น