xs
xsm
sm
md
lg

“เจนี่” เล่าชีวิต 2 ปีเป็นแม่ฟูลไทม์ เหนื่อยมาก ไม่มีสังคม พับโครงการลูกคนที่ 2 ส่วนเรื่องคดีด่าลูกขอปกป้องตามกฎหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เจนี่” เล่าชีวิต 2 ปีเป็นแม่ฟูลไทม์ เผยอยู่กับลูก 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีสังคม ไม่ได้พบเจอใคร เวลาทั้งหมดทุ่มเทให้ลูกไม่มีเวลาส่วนตัวของตัวเอง บอกพับโครงการลูกคนที่ 2 ไปก่อนเพราะเหนื่อยมาก ส่วนเรื่องคดีฟ้องร้องชาวเน็ตที่คอยตามด่าลูกสาวนั้น หลังจากที่จับคนร้ายได้บางส่วนก็ไม่มีคอนเมนต์ทางลบอีกเลย ไม่รู้จะพูดอะไร ถ้าทำลูกก็คือจบขอปกป้องตามกฎหมาย

หลังจากกลายเป็นคุณแม่ ก็ไม่ค่อยได้เห็น “เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร” ออกงานสักเท่าไหร่ในช่วง 2 ปีผ่านไป โดยล่าสุดนางเอกสาวเริ่มกลับมารับงานบ้างแล้ว ซึ่งวันนี้ (12 ก.พ.) เจนี่ไปร่วมงาน lyon & lday, Lab to Real และ KVKX Shoot & Share นักข่าวก็เลยได้มีโอกาสอัปเดตชีวิต 2 ปีที่ผ่านมา โดยเจนี่เล่าถึงทริปพักผ่อนกับครอบครัวล่าสุดที่ไปอเมริกาให้ฟังว่า….

“ช่วงที่อยู่ที่โน่นก็น่ากลัวพอสมควรเพราะโอมิครอนกำลังมา ตัวเลขสูงมาก 2 วันสุดท้ายก่อนที่เจนจะมาเมืองไทยคนติดวันละ 1 ล้านคน เจน น้อง มิก (มิกกี้ นนท์ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร) ต้องระวังตัวเองมากๆ คืออยู่กันแบบหวาดระแวง น้องไปจับอะไรเราก็พยายามล้างมือให้ตลอด ใส่มาสก์ให้น้องประจำ

เป็นทริปแรกของน้องเลย เราก็กลัวมาก สองจิตสองใจกันว่าจะยังไงดี ด้วยความที่เราอยากให้เขามีทริปของเขาเอง แล้วเขาก็ยังไม่ได้ไปไหนเลย ก็เตรียมตัวอย่างดีที่สุด ด้วยความที่เป็นทริปเด็ก ก็จะมีสวนสนุกเว้นวัน พาไปดูสัตว์ พาไปที่เล่นเยอะ ที่ดิสนี่ย์เขาชอบมาก คนเยอะมาก เยอะแบบเดินเบียดกันเลย เรากลัว สักพักก็กลัว ตอนกลับก็ยังกลัว ตรวจกันวันเว้นวันเลย ตอนขึ้นเครื่องก็น่ากลัว กลัวน้องเอามาสก์ลง ซึ่งน้องก็เอามาสก์ลง เราก็ต้องคอยดึงใส่ให้เขา เขาไม่มีร้องไห้เลยบนเครื่องบิน ด้วยตัวเขาติดเจนมาก พอเขานอน เขาก็จะให้แม่อุ้ม

ก่อนขึ้นเครื่องแม่มีตื่นเต้น แต่ปรากฏไม่มีเลย ราบรื่นตลอดทริป ราบรื่นคือแม่ไม่ได้นอนเลยนะ เจนต้องคอยดูแลเขา คุณพ่อจะนอนตลอดทริป ก็ลูกไม่เอาพ่อ ลูกอยากให้แม่กอดนอน”

เป็นทริปที่แตกต่างจากที่ตนเคยไปอเมริกามาเลย ที่ผ่านมาจะเน้นช้อปปิ้ง
“ต่างกันเลย ที่ผ่านมาแม่จะช้อปปิ้งไง นี่ไม่ได้เข้าร้านเลย แม่เบื่อเลย แม่ต้องคอยเอ็นเตอร์เทนลูก เป็นทริปของลูกจริงๆ เราไปกันแค่ 3 คน เป็นทริปลุยจริงๆ โหดมาก แต่ก็ได้อะไรกลับมาเยอะ ทำให้ทุกคนระวังตัวเองมากขึ้น ด้วยปกติเราเองก็ระวังกันมากๆ อยู่แล้ว แต่พอมาเห็นคนไม่ใส่มาสก์เราจะทำตัวไม่ถูก 2 ปีที่ผ่านมาคือเราเจอแต่คนใส่มาสก์ตลอด พอเราเจอคนไม่ใส่เราจะถอยออกมานิดนึงว่าเอ๊ะ! ยังไงดี เราก็เดินหลีกไป ถ้าตัดเรื่องพวกนี้ไปก็ถือว่าเป็นทริปที่สนุกมาก แต่ตอนนี้เราทุกคนก็ยังต้องระวังตัวเอง โดยเฉพาะเด็กยุคใหม่ ไปเที่ยวไหน ไม่ว่าจะในเมืองไทยหรือว่าที่อื่นก็ต้องระวังตัวเองกันมากๆ น้องตรวจ ATK แบบใช้น้ำลาย เขาก็ร้อง ร้องจนไม่กล้าลงคลิปเลย สงสาร”

เผยทริปอเมริกาทำให้เห็นพัฒนาการที่เติบโตของลูกสาว จากนี้ขอจัดทริปปีละครั้ง เพราะแม่เหนื่อยมาก
“เขาโตขึ้น ช่วยเหลือตัวเองได้เยอะขึ้น ก็ถือว่าเป็นทริปแรกในการเปิดประสบการณ์ลูก แล้วก็เป็นทริปวัดใจพ่อแม่ด้วยว่าพ่อแม่จะตายยังไง ทริปต่อไปขอปีละครั้งดีกว่า มันเหนื่อย เหนื่อยแม่ จัดกระเป๋า เตรียมทุกอย่าง ต้องดูแลเขาด้วย เราไม่ได้มีพี่เลี้ยง ทุกอย่างก็เลยเป็นหน้าที่แม่คนเดียวเลย ไหนจะคอนเทนต์อีก ต้องสวยอีก(หัวเราะ) ออกกำลังกายอีก ดูแลลูกอีก”

พับโครงการลูกคนที่2
“พักก่อน พักก่อน (อยากมีไหม?) ยัง พูดแล้วง่วงเลย (หัวเราะ) มันเหนื่อยจริงๆ นะ การที่จะดูแลเด็กคนนึงมันใช้พลังงานเยอะมากๆ เจนคือ 100 เปอร์เซ็นต์ ก่อนหน้านี้ 2 ปีที่ยังไม่ได้ถ่ายละคร ตื่นมาก็คือลูก สลับกับปั้มนม ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น เวลาของตัวเองไม่มีเลย โดนลูกเอาไปหมดแล้ว ทุกอย่างเป็นของลูก ทุกวันนี้งีบตอนกลางวันนะ ลูกก็จะถือไมค์มาร้องเอลซ่าใส่หู เจนไม่ได้มีเวลาเป็นของตัวเองเลยค่ะ”

เล่าสังคมยุคใหม่ทำให้ตนและลูกไม่มีสังคม ไม่ได้ออกไปเจอใคร ซึ่งก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร
“เขาชอบมากออกกำลังกาย เขาเป็นเด็กลุยมาก แทบจะเป็นเด็กผู้ชายเลยแหละ เป็นเด็กห้าวๆ เขาก็คงเห็นพ่อแม่ออกกำลังกายทุกวัน ไม่มีวันไหนไม่ออก วันพักก็ยืดๆ แต่ก็ยืดในห้องออกกำลังกายอยู่ดี ก็ปลูกฝังเขา พอเขาเข้าห้องออกกำลังกายรู้เลยว่าเขาจะต้องหยิบอุปกรณ์นี้ เดี๋ยวต้องยกขึ้น ต้องย่อ เขาเป็นเด็กออกกำลังกายเลย

เขาเลียนแบบเรา ตอนนี้เจนไม่มีสังคมเลยเพราะไม่ได้ออกไปหาใครเลย ตอนนี้เหมือนโลกยุคใหม่ที่เราไม่ค่อยได้เจอใคร เด็กๆ ก็ไม่ค่อยได้มีสังคมที่จะออกไปหาเพื่อนๆ ได้สะดวก เจนก็เลยไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ต้องกังวลมากนัก”

กลับมาทำงานแล้ว สลับกับสามีเลี้ยงลูก
“ก็ยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์นะ บางอาทิตย์ก็ถ่าย บางอาทิตย์ก็ไม่ได้ถ่าย คนในกองไม่สบายก็ต้องหยุดไป ลูกก็เข้าใจ ตอนนี้นะ เจนว่าอีกปีน่าจะยังไม่เข้าใจ เวลาที่เจนไปไหน สมมติไปทำงานจะบอกเขาว่า เดี๋ยวหม่ามี๊ไปทำงานนะคะ เดี๋ยวหม่ามี๊กลับมานะคะ เป็นเด็กดีนะลูก บ๊ายบาย เขาอาจจะไม่เข้าใจความหมาย แต่ถ้าไปนานแล้วไม่ได้ส่งเขาเข้านอน เขาอาจจะสงสัย

ถ้าเจนทำงาน เจนก็ทำให้สุด แม้ต้องทำงานถึง 4-5 ทุ่มก็ต้องทำให้สุด เพราะว่าเจนไม่อยากกังวลเรื่องเนื้องาน เลยไม่อยากกำหนดเวลาอย่างนั้น เวลาเลี้ยงลูกเราสลับกับสามีค่ะ”

กับคดีฟ้องร้องชาวเน็ตที่คอยตามด่าลูกสาวนั้น หลังจากที่จับคนรายได้บางส่วนก็ไม่มีคอนเมนต์ทางลบอีกเลย
“จริงๆ เราคุยกันตลอด มันไม่ได้เป็นประเด็นในชีวิต เราแค่จัดการไปตามเรื่อง ตามที่เราต้องการ ไม่มีอะไรค่ะ หลังจับตัวได้แล้วคอมเมนต์ไม่มีเลย จริงๆ มันเป็นคนกลุ่มเดียว กลุ่มเดิม ที่เหมือนกับนานมาแล้ว จริงๆ ชีวิต เจนี่ไม่ได้มีอะไร ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้สนใจอะไร อีกอย่างตอนนั้นเราไม่ได้มีลูก หรือต้องการให้เป็นประเด็นขึ้นมา เดี๋ยวจะหาว่าเรารังแก ทำงานในวงการ เจนเข้าใจได้ วันนี้พอเรามีลูกก็รู้สึกว่ามันไม่สมควรรึเปล่า”

ขอทำตามหน้าที่คนผิดต้องได้รับโทษทางกฎหมาย บอกที่ผ่านมาตนก็ทุกข์เหมือนกัน
“เจนก็อยู่เฉยๆ ค่ะ(หัวเราะ) ถามว่าสบายใจไหมที่จับตัวเขาได้ เราได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง ถามว่าสบายใจไหม คือเราทุกข์มานานมากแล้วนะที่เจอเรื่องอย่างนี้ เรารู้สึกเหมือนได้ยกอะไรออกจากชีวิตนิดนึง คือต่างคนต่างอยู่ดีกว่า คดีมันก็ยังไม่จบ เพราะเรื่องพวกนี้มันไม่ได้แค่ 1-2 เดือนจบ มันต้องเป็นไปตามกระบวนการ ต้องเข้าคิวทุกอย่างก็ต้องใช้เวลา (ไม่อยากเผชิญหน้าเองกับคู่กรณี?) คุณปู่คุณย่าคอยเป็นธุระให้ ติดถ่ายละคร คุณปู่คุณย่าก็ไปให้”

กับคู่กรณี ผู้หญิงที่บอกด่าตามกระแสนั้น เจ้าตัวบอกแค่ทำหน้าที่ของตัวเองในแต่ละวันดีกว่า ลั่นถ้ามาทำกับลูกของตน ในฐานะแม่ก็ขอปกป้องลูกตามกฎหมาย
“แล้วยังไง เจนก็เป็นผู้หญิง เราต้องรู้ว่าเราทำอะไรอยู่ มีหน้าที่อะไร ถ้าชีวิตเราโอเคอยู่แล้ว เราไม่ควรไปยุ่งกับชีวิตใคร ไม่ต้องตามกระแส ทำหน้าที่ของเราในแต่ละวันดีกว่า (เอาเรื่องให้ถึงที่สุดไม่ยอมไกล่เกลี่ย?) ให้ตำรวจเป็นคนพิสูจน์ เจนไม่ใช่คนที่จะไม่ยอมหรืออะไร ให้ตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่ค่ะ ผิดว่าไปตามผิดกฎหมายมีอะไรเอาแบบนั้น เอาเป็นว่าแม่ไม่รู้จะพูดอะไร คือถ้าทำลูกก็คือจบ เราก็ปกป้องตามกฎหมาย”



















กำลังโหลดความคิดเห็น