“ใบเตย อาร์สยาม” คัมแบ็กงานเพลง บอกตัวแม่กลับมาแล้ว คงคอนเซ็ปต์สั้นเสมอหู ฟังแล้วจะอยากขึ้นโต๊ะ สวมชุดหวิว หอบเค้กเซอร์ไพรส์ “ดีเจแมน” เปย์นาฬิกาหรูเป็นของขวัญ ชีวิตครอบครัวลงตัวดี เพราะจับมือกันแน่นพอ โอดสามีถามทุกวัน อยากได้ลูกชายปีเสือ ส่วนตัวยังไม่พร้อม ขอกลับมารับงานเต็มที่ 7 ปีที่รอคอยจะได้รับปริญญาแล้ว ไม่มีใครแก่เกินเรียน
เรื่องความเซ็กซี่ไม่เคยเป็นสองรองใคร สำหรับลูกทุ่งสาว “ใบเตย อาร์สยาม” หรือ “ใบเตย สุธีวัน กุญชร” ที่ล่าสุดได้ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ ‘ที่พึ่งทางไลน์’ feat. URBOYTJ ออกมาให้แฟนคลับได้หายคิดถึง เรียกว่าถูกใจเหล่าบรรดาลูกสาวมากที่สุด แบบฟังแล้วต้องอยากลุกขึ้นมาเต้น และแน่นอนว่าชุดของคุณแม่ ก็ยังคงคอนเซ็ปต์สั้นเสมอหูเหมือนเดิม
วันนี้ (10 ก.พ.) ได้เจอสาวใบเตย ที่ร่วมมาสร้างโชว์สุดพิเศษ ให้สื่อมวลชนได้เก็บภาพ ก็เลยขอถามถึงการคัมแบ็กงานเพลงครั้งนี้กันสักหน่อย พร้อมอัปเดตชีวิตรัก หลังสวมชุดสุดหวิว หอบเค้กเซอร์ไพรส์วันเกิดสามี “ดีเจแมน พัฒนพล” และการอดทนเรียน 7 ปี จนได้ใส่ชุดครุยรับปริญญาแล้ว
“คือจริงๆ ใจพร้อมมาก เพราะเราคิดถึงความเป็นเรา คิดถึงคอนเสิร์ต ที่ได้เจอคนเยอะๆ เป็นหมื่นๆ ที่เราได้ไปเล่น คือความเป็นนักร้อง ทำงานเพลงออกมา สิ่งที่เราต้องการมากที่สุด ก็คือการเล่นคอนเสิร์ตให้คนดู เราไม่ได้อยากทำอย่างอื่น นอกเหนือจากการได้ขึ้นโชว์ ได้เต้น สิ่งที่อยู่ในเอ็มวีทั้งหมด ต่อหน้าแฟนเพลงทั่วประเทศ”
ขอบคุณบริษัท หาอะไรใหม่ๆ มาให้ทำตลอด
“เอาจริงๆ ก็อยากหามาตลอดนะคะ แต่เป็นคนหาด้วยตัวเองไม่ได้ ก็นี่แหละมีบริษัทหาทำมาให้ (หัวเราะ) ก็ดีใจ ขอบคุณมากๆ เลย คือตัวเราจริงๆ แล้ว ไม่ได้มองว่าคัมแบ็กหรืออะไร แต่ว่าที่ผ่านมา เราก็ได้ทำมาตลอดอยู่แล้ว เพียงแค่หยุดไปตั้งแต่แต่งงาน มีน้อง ช่วงโควิดพอดี แต่อันนี้เราก็คิดว่าเป็นอีกหนึ่งการทำงาน ในฐานะนักร้อง ว่ามันก็จะต้องมีซิงเกิ้ลตลอด จนกว่าจะหมดสัญญาถึงจะไม่ทำแล้ว อันนี้ก็เป็นโปรเจกต์ เป็นเพลงที่ไม่คาดถึง ว่ามันจะได้กลับไปเหมือน 10 ปีที่แล้ว”
ตั้งใจทำให้โดนใจ เหล่าลูกสาวชาว LGBT มากที่สุด
“ที่สุด เรามาเพื่อลูกสาวที่สุด เชื่อว่าเพลงนี้ใครฟังแล้ว ก็อยากจะขึ้นโต๊ะเต้น เข้าใจคำว่าขึ้นโต๊ะไหม ก็เป็นฟีลนั้น แต่ว่าด้วยความที่ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังกับยอดวิวขนาดนี้ เพราะเรารู้สึกว่าสถานบันเทิง มันยังเปิดไม่ได้ เพลงเรามันต้องทำงานด้วยสถานบันเทิงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว แต่สุดท้ายเรารู้สึกดีใจ ที่ต่อให้ไม่ได้ขึ้นโต๊ะ แต่อยู่ในห้องน้ำก็เปิดเต้นกันหมด ในรถในอะไร (คิดถึงฟีลขึ้นโต๊ะไหม?) คิดถึงมาก ท่าช้าง บริคบาร์ ใดๆ นะคะ”
กลับมาทวงบัลลังก์ตัวแม่คืน
“จริงๆ ไม่เคยมองว่าตัวเองเป็นได้ถึงขนาดนั้น แต่ว่าขอบคุณมาก ที่ทุกคนในคอมเมนต์ตามกระแสโซเชียลต่างๆ บอกว่าแม่กลับมาแล้ว แม่คัมแบ็ก เราดีใจมาก สุดท้ายแล้วเราทำเพราะเราก็รักแฟนเพลงมากๆ เราคือนักร้องจริงๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ให้ทุกคนมองแล้วกัน ว่าแม่กลับมาแล้วจริงหรือเปล่า วันนี้ก็กลับมาแล้วจริงๆ ค่ะ”
คงคอนเซ็ปต์สั้นเสมอหู
“ที่สุด ทิ้งไม่ได้ ทิ้งไม่ได้จริงๆ เป็นสไตล์เราแหละ ชุดนี้ไม่ติดอะไรเลย คุณสามีเห็นแรกๆ ก็อุ้ย ตกใจเหมือนกัน ไม่เห็นเมียใส่อะไรแบบนี้นานมาก แต่เขาก็รู้ว่าเราคือใบเตยเนาะ ณ วันนี้ในส่วนของการทำงานนางไม่ค่อยว่าอะไร เพราะชีวิตจริงแต่งยิ่งกว่านี่อีก (หัวเราะ)”
จัดหนักจัดเต็ม หอบเค้กเซอร์ไพรส์วันเกิดสามี
“จัดเต็ม ก็ดี เพราะปกติไม่ค่อยได้เซอร์ไพรส์อะไรพี่แมนนะคะ ก็นานๆ ที”
อยากใส่อะไรแซบๆ เพราะน้ำหนักลดลงแล้ว เลยจัดชุดสีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ แบบเว้าทั้งตัว
“ก็คือ เหมือนช่วงนี้รู้สึกว่า เราลดน้ำหนักมา จนได้ตัวเลขที่เราพอใจ ก็เลยอยากกลับมาใส่อะไรที่แซบๆ เหมือนเดิม เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ตั้งท้องคลอดลูกมาเนี่ย เราแอบปกคลุมเยอะ เพราะรู้สึกยังไม่มั่นใจในส่วนของสรีระ อย่างวันนี้ก็รู้สึกว่าโอเคแล้ว เราได้บริหารร่างกายจนถึงจุดที่พอใจ ใส่อะไรแล้วก็ดูดีมากขึ้น”
บอกสามีเซอร์ไพรส์แบบงงๆ ถามใส่อะไรของหนูเนี่ย
“ก็โอเค (สะกิดเลยไหม?) อ๊าย (หัวเราะ) แต่คือเอาจริงๆ นางชอบอวบๆ นะ ไม่อยากให้หนูผอมอย่างนี้ ชอบให้หนูอวบๆ กว่านี้ แต่สุดท้ายก็เหมือนชอบแหละ โอเคแหละ แฟนรูปร่างดี เป็นใครใครก็ชอบ กับชุดนี้ตอนแรกนางก็บอกว่า หนูใส่อะไรของหนูเนี่ย ขนาดนี้เลยเหรอ คือวันนั้นตอนเช้า เราหลอกพี่แมนว่าเราไปอควอเรียม ให้เขาออกจากบ้าน นางก็บอกว่าหนูพาลูกไปดูสัตว์น้ำ คือใส่ขนาดนี้เลยเหรอ (หัวเราะ) ก็เลยตามเลย เขาก็เซอร์ไพรส์มาก ก็คงงงๆ ว่าทำไมอะไรขนาดนี้ พอกลับมาบ้านก็ดีใจไป (เราใส่ชุดนั้นไปอควอเรียมมาจริงๆ เหรอ?) จริงค่ะ แต่มีเสื้อคลุมนะคะ (หัวเราะ)”
เปย์หนักของขวัญวันเกิด ให้นาฬิกาหรูแบรนด์ดัง
“สำหรับใบเตย ใบเตยมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ เราให้ของขวัญกับพ่อของลูก แต่จริงๆ เราเองก็เคยให้กันมามากกว่านี้ด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าปีนี้พี่แมนเขาเน้นไปที่การดูแลสุขภาพ ชอบใช้อะไรที่มันเกี่ยวข้องกับสุขภาพ ดังนั้นพอให้นาฬิกาเขาไปและเขาได้ใช้ เราก็ดีใจค่ะ”
ชีวิตครอบครัวลงตัวดี เพราะจับมือกันแน่นพอ
“ก็ดีค่ะ แต่เอาจริงๆ มันก็ไม่ยาก และมันก็ไม่ง่ายนะ ที่ผ่านมาตั้งแต่แต่งงานและมีลูก มันก็ต้องจับมือกันแน่นมาก ชีวิตคู่ถ้าจับมือกันไม่แน่นพอ เชื่อว่ายังไงก็อยู่กันไม่ได้ ต้องจับมือกันแน่นพอมากๆ”
ระหว่างทางที่ผ่านมา มีอะไรต้องปรับต้องจูนกันเยอะมาก
“มีเยอะมากค่ะ รายละเอียดชีวิตมันเยอะมาก แต่ใบเตยก็โชคดีตรงที่ใบเตยเป็นคนตรงๆ ในทุกเรื่อง เป็นคนที่ค่อนข้างชัดเจน ฉะนั้นเวลามีอะไรใบเตยก็จะพูดกับพี่แมนตรงๆ และพี่แมนก็เป็นคนที่ยอมใบเตยทุกอย่าง ทุกคนก็น่าจะเห็นกันตามช่องยูทิวบ์ คือใบเตยด่าสามียืนหนึ่ง ซึ่งพี่แมนนี่แหละค่ะที่เป็นฝ่ายยอม ดังนั้นเวลาเราพูดเราอะไรก็ต้องปรับกัน ต้องจับมือกันให้แน่นมากๆ”
โอดสามีพูดทุกวัน อยากมีลูกชายปีเสือ แต่ส่วนตัวยังไม่สามารถ
“ถ้าเป็นตัวสามีคือทุกวันค่ะ ทุกวันในที่นี้หมายถึง พูดทุกวัน พูดทุกวันว่าอยากมีปีนี้เพราะว่าปีเสือมันดีมากถ้าหากมีลูกชาย แต่ใบเตยก็ต้องบอกไปตรงๆ ว่าใบเตยไม่สามารถจริงๆ”
เฉยๆ กับลูกคนที่สอง ปล่อยเป็นเรื่องของอนาคต เพราะ “เวทมนต์” คนเดียว ก็เติมเต็มสุดหัวใจ
“ใบเตยเฉยๆ แล้วนะ ใบเตยรู้สึกเรามีน้องเวทมนต์มาเติมเต็มคนเดียวมันก็ที่สุดในหัวใจแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนรอบข้างก็บอกว่าต้องมีอีกคน (ปีนี้ถ้ายังไม่พร้อม แสดงว่าอาจจะเป็นปีหน้า ?) ให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่าค่ะ เพราะใบเตยเองก็ยังกำหนดอะไรไม่ค่อยได้”
พร้อมลุยงานเต็มที่ เพราะโควิด 2 ปีนี้ ได้อยู่กับลูกเต็มเวลาแล้ว
“พร้อมนะคะ เพราะเราเองก็ยังรักการทำงานมากที่สุด และใบเตยก็รู้สึกว่า 2 ปีที่มีโควิด มันทำให้เราได้อยู่กับลูกแบบเต็มเวลาจริงๆ เพราะถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ใบเตยมีลูกและมีงานคอนเสิร์ตเข้ามาทุกวัน ใบเตยคงไม่ได้ทำหน้าที่คุณแม่เต็มเวลาแบบนี้ แต่ที่ผ่านมาใบเตยก็รู้สึกว่าใบเตยได้ทำหน้าที่ตรงนี้ของใบเตยแบบเต็มที่มากๆ ค่ะ”
ไม่กลัวลูกงอแง ถ้าแม่กลับไปรับงาน โชคดีลูกอยู่กับใครก็ได้
“ไม่ค่อยหรอกค่ะ เพราะวันนี้ใบเตยได้มอบหมายหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงเรียบร้อยแล้ว คือเราเริ่มวางแผนตั้งแต่เขาเข้า 1 ขวบเลยค่ะว่า ให้เขาได้ใกล้ชิดกับพี่เลี้ยงมากที่สุด เพราะถ้าต่อไปเราทำงานตัวเราและตัวลูกจะได้ไม่เสียใจกันมาก แต่ว่าโชคดีอีกเรื่องหนึ่งก็คือน้องเวทมนต์เป็นคนที่อยู่กับใครก็ได้ ไม่งอแง”
ไม่ซีเรียสเลยกับเรื่องลูก เชื่อเด็กจะรู้ว่าใครรักเขาที่สุด
“ไม่ซีเรียสเลยค่ะ เพราะใบเตยเชื่อว่าถ้าเด็กเขาโตขึ้น เขาก็จะรู้ว่าใครรักเขาที่สุด และใครคือพ่อกับแม่ของเขา แต่ ณ วันนี้ใบเตยก็รู้สึกว่าใบเตยโอเคนะ เพราะถึงใบเตยจะออกมาทำงาน แต่พอกลับไปถึงบ้านใบเตยก็ได้เจอกับเขาอยู่ดี ก่อนนอนเราก็ต้องกู๊ดไนท์กัน”
ขอบคุณหลายคนชื่นชม ในการทำหน้าที่แม่
“ขอบคุณค่ะ แต่จริงๆ ใบเตยเองก็อยากจะทำหน้าที่แม่ให้ได้มากกว่านี้ในหลายๆ ด้านนะคะ เพราะใบเตยก็ยังมีหลายหน้าที่ที่ใบเตยยังบกพร่อง อย่างเช่นการทำอาหารให้ลูก แต่ก็พยายามให้ความสุขเขาในมุมที่ใบเตยทำได้”
7 ปีที่รอคอย ในที่สุดก็เรียนจบแล้ว
“ทุกคนก็จะถามว่าเรียนมาตอนไหนเหรอ คือเอาจริงๆ ก็หลายปีแล้วนะ ก็หลายปีจริงๆ แต่มันมาคาบเกี่ยวกับช่วงโควิดนี่แหละที่กินเวลาไปประมาณ 3 ปี และมีการงดรับปริญญา จนกระทั่งเริ่มมารับกันอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งมหาวิทยาลัยของใบเตยก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ใบเตยเราจบคณะวิทยาลัยศิลปะการร้องและการดนตรี สาขาขับร้องค่ะ สายตรงเลย”
เผยโมเมนต์ได้รับปริญญา เป็นหนึ่งความสำเร็จที่ดีใจที่สุดในชีวิต
“ตอนแรกที่เขาโทร.มาให้ไปรับปริญญาใบเตยตกใจมาก เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แบบ…เหมือนเราลืมไปเลย คือเรื่องการรับปริญญาตอนแรกใบเตยตั้งใจว่าจะก่อนแต่งงาน แต่ปรากฎว่าพี่แมนดันขอแต่งงานก่อน และพอหลังจากแต่งงาน เราก็รู้สึกว่าเราวางมือเรื่องนี้ไปเลย แค่มหาวิทยาลัยโทรมาว่าจบแล้ว ก็คงจะแค่ไปรับใบจบ แต่พอมาเป็นตอนนี้ แต่งงานแล้ว มีลูกแล้ว มันก็เลย เฮ้ย! จริงเหรอคะ ใช่หนูหรือเปล่า
ซึ่งพอทางมหาวิทยาลัยแจ้งว่าพร้อมที่จะให้นักศึกษาได้รับปริญญาแล้ว เราก็โอเค เขินๆ เหมือนกันค่ะ เพราะอย่างที่บอกตอนแรกแค่คิดว่าไปรับใบจบก็พอ แต่พอน้องลุกซ์ (น้องชาย) บอกว่าไปรับเถอะ มันก็ดีนะ เป็นตัวอย่างที่ดีกับลูก เราก็โอเค และก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในชีวิตที่ดีใจที่สุดเลยนะ เพราะว่าสุดท้ายแล้วเริ่มต้นของชีวิตคือพ่อแม่อยากให้ใบเตยได้รับปริญญา อยากให้เรียนจบ ซึ่งนี่ก็เป็นของขวัญให้กับพ่อแม่ค่ะ”
เตรียมชุดครุยไปรับ วันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้
“วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค่ะ ที่ไอคอนสยาม ก็ไปกันทั้งครอบครัวเลยค่ะ”
ไม่มีใครแก่เกินเรียน เพราะการศึกษาสำคัญที่สุดในชีวิต
“ใบเตยอยากจะบอกว่า ไม่มีใครแก่เกินเรียน ใบเตยทำงานมาตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่เรามีความคิดว่า พ่อแม่เราอยากให้จบ ฉะนั้นเราต้องทำให้ได้ไม่ว่าจะเว้นกี่ปีหรืออะไรก็ตามแต่ ต้องสู้ค่ะคนเรา การศึกษาสำคัญที่สุดในชีวิต”