จากกรณีล่าสุดที่ “นิวนิว เอวเด้ง” ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจส่วนตัวของตนเองว่าตัวเองได้ถูกทำร้ายจากคนที่รักมากที่สุด ทั้งหัวแตก ปากฉีก และเกิดรอยช้ำอีกหลายที่ จนยอมรับว่าครั้งนี้มันหนักเกินไปจริง ถึงขั้นต้องพยายามหนีออกมา พร้อมได้ส่งมอบหลักฐานการถูกทำร้ายให้กับทนายความ “ไพศาล เรืองฤทธิ์”
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ซึ่งหนูโดนคนที่หนูรักเขามาก ทำร้ายร่างกายและจิตใจของหนู ซึ่งครั้งนี้มันหนักจริงๆ ทั้งหัวแตกปากฉีกและรอยช้ำอีกหลายๆ ที่หนูไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้ ขอบคุณพี่ๆ นักข่าวทุกคนที่ติดต่อเข้ามาหนู ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ขอพักรักษาตัวและจิตใจก่อน หนูขอให้พี่ๆ ติดต่อผ่านทางทนายส่วนตัวของหนู ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ (เพจทนายไพศาลช่วยด้วย) หนูขอมอบอำนาจให้ท่านเป็นคนตัดสินใจทุกอย่าง หลักฐานทุกอย่างอยู่กับทนายแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะคะ หนักกว่านี้ก็เคยผ่านมาแล้ว”
จากนั้นผู้สื่อข่าว MGR online ได้ติดต่อยัง “ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์” กับกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์ที่ “นิวนิว” ได้ถูกทำร้าย ไม่ว่าจะเป็นแผลที่ปากที่เกิดจากการโดนต่อย หรือหัวที่โดนถีบ รวมไปถึงรอยช้ำที่แขนเกิดจากการถูกกัด พร้อมยืนยันว่า “นิวนิว” จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และยังฝากข้อกฎหมายไว้ให้คิดว่าบุคคลใดเคยทำผิดหรือต้องโทษมาแล้ว และได้รับการพักโทษ และถ้าก่อความผิดซ้ำ ก็จะถูกดำเนินเพิ่มโทษไปตามกฎหมายที่กำหนดไว้
“เมื่อวานตอน 2 ทุ่มครึ่ง นิวเขาได้ไลน์มาหาผมว่าเขาถูกทำร้าย จากเพื่อนชายคนสนิท และเขาก็ส่งรูปที่เขาถูกทำร้ายมาให้ดู มีแผลที่ตา มีแผลที่หัว ที่มือ ที่ปากก็มีแผลเห็นว่าโดนต่อย ที่หัวนี่โดนถีบหน้า ที่แขนนี่ถูกกัด เราก็ได้แนะนำให้เขาไปโรงพยาบาล เขาก็บอกว่าเขาออกจากตรงนั้นไม่ได้ เนื่องจากคนที่ทำร้ายเขายังอยู่ตรงนั้น เราก็บอกว่าให้พยายามหาทางออกมา สักพักเขาก็โทร.มาอีกทีว่าเขาออกมาได้แล้ว เพราะว่าทางคนที่ทำร้ายเผลอ ไปเข้าห้องน้ำ เขาก็เลยใช้ช่วงเวลานั้น หนีออกมา
แล้วก็ไปที่โรงพยาบาล ต่อสายให้เราคุยกับพยาบาล ทนายก็เลยบอกว่าช่วยให้โรงพยาบาลทำรายงานทางการแพทย์ให้หน่อย ซึ่งทางโรงพยาบาลแจ้งว่าตอนนั้นไม่มีแพทย์อยู่ ก็เลยให้นิวไปที่โรงพักไปแจ้งความดำเนินคดี และก็แจ้งทนายว่าขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด กับคู่กรณีคนนั้น ซึ่งเราไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาเคยโดนทำร้ายมาก่อนไหม เพราะนิวคือลูกความเดิมของเรา และสนิทกันเหมือนเป็นพ่อลูกบุญธรรม เราไม่ได้ยุ่งเรื่องส่วนตัวเขา
ซึ่งน้ำเสียงของนิวเมื่อวานคือร้องไห้ตลอดเวลา เพราะเขาทั้งเสียใจและเขาก็เจ็บตัว และเราก็บอกว่าให้หาที่พัก เขาก็เลยตัดสินใจบินไปหาญาติเขาที่เชียงใหม่เลย ซึ่งจากการที่เราได้ดูหลักฐานแล้วก็เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และพิสูจน์ได้ว่าการกักขังหน่วงเหนี่ยวจริง ก็จะผิดอีกตามมาตรา 310 ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (จะเข้าข่ายถึงพยายามฆ่าไหม?) ไม่ครับ
และจะฝากไว้เรื่องหนึ่งว่าสำหรับบุคคลที่เคยต้องโทษหรือถูกศาลพิพากษามาแล้ว อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเคสนี้นะครับ แต่ฝากให้เป็นความรู้เอาไว้แล้วกัน บุคคลที่ต้องโทษทางอาญาเมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้รับโทษ และบุคคลนั้นได้รับโทษ และได้รับการพักโทษ หรือเพิ่มโทษ หรืออภัยโทษใดๆ ก็ตาม และเมื่อออกมาแล้ว ก่อคดีอาญาซ้ำ ผิดเงื่อนไข ต้องถูกนับโทษเพิ่มเติมต่อ สมมุติคุณถูกจำคุก 1 ปี และคุณโดนพักโทษ มีโทษ 1 ใน 3 ติดไปแล้ว 3 เดือนยังเหลืออีก 9 เดือน แล้วคุณได้รับการพักโทษ แต่พอคุณพ้นออกมาแล้ว ไปก่อความผิดทางอาญาอีก อย่างทำร้ายร่างกาย มาตรา 295 จำคุก 2 ปี ปรับ 40,000 บาท ถ้าคุณสารภาพก็ลดโทษลงเหลือกึ่งนึง เหลือ 1 ปี และโทษที่คุณพักไว้ 9 เดือนก็ต้องเอามารวมกับ 1 ปี เป็นทั้งหมด 1 ปี 9 เดือน แต่ไม่เกี่ยวกับเคสนี้นะครับ เราไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร แต่เพียงแค่อธิบายให้ฟังเฉยๆ
จากนี้จะดำเนินการต่อไปยังไงก็ขึ้นอยู่กับลูกความ ถ้านิวจะประสงค์ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดก็จะที่สุด แต่ถ้าเขาจะพูดคุยเจรจาก็เป็นไปตามประสงค์เขา และล่าสุดที่เขาโทร.มาเขาก็ยังแจ้งว่าประสงค์ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่ตอนนี้เขาต้องการขอเวลาพักรักษาตัวก่อน ยังไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ”
