กำลังเป็นเรื่องที่สังคมกำลังติดตามสำหรับเรื่องราวของอดีต “พระมหาสมปอง” หรือ “ทิดสมปอง สมปอง นครไธสง” ในหลายๆ ประเด็นที่คนยังคาใจกันอยู่ ซึ่งวันนี้ (8 ก.พ.65) ทิดสมปอง ได้ออกมาเคลียร์ในรายการโหนกระแส ทางช่อง3 โดยพิธีกร “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้ให้ทิดสมปองออกมาเคลียร์เป็นประเด็นจนสิ้นสงสัยกันไป
“ผมอยากใช้ชีวิตอย่างสง่างาม และเปิดเผยกับสังคมครับ 40 วันที่ผ่านมาที่ผมได้มาเป็นฆราวาส นี่ขนาดว่าดูฤกษ์สึกมาแล้วนะครับก็ยังวุ่นวายหลายอย่าง นี่ถ้าไม่ดูฤกษ์ก็คงจะหนักกว่านี้ หลายสิ่งหลายอย่างเป็นปรากฏการณ์ชีวิตมากมาย เราไม่รู้อนาคตจริงๆ เราต้องมาเรียนรู้ใหม่ เหมือนเด็กอนุบาลเลย”
อยากกราบขอโทษ “ติ๋ม ทีวีพูล” ที่ตนไปไม่ลามาไม่ไหว เหมือนลูกน้อยใจแม่
“ถ้าพี่ติ๋มดูอยู่ผมขอโทษครับ มันเหมือนน้องน้อยใจพี่สาว ลูกน้อยใจแม่ หลายสิ่งหลายอย่างที่พี่เขาหวังดี ตักเตือนเรื่องการคบเพื่อน การวางตัวในสังคม พี่เขาคอยติว คอยสอนผมตลอด จริงๆ พี่เขาไม่ต้องสอนขนาดนี้ก็ได้ แต่เขาก็สอนและดูแลอย่างดี พี่เขาจะมีกฎ มีกติกา ข้อห้ามหลายสิ่งหลายอย่าง สำคัญที่สุดเลยคือเรื่องเพื่อน การคบเพื่อน สีเทานะ จะมีคำพูดอย่างนี้ค่อนข้างบ่อย แล้วผมเป็นคนรักเพื่อน ผมมีเพื่อนเยอะ แกอยากให้ระมัดระวังการคบเพื่อน อยากให้เรานิ่งๆ ก่อน พี่เขาเป็นห่วงจริงๆ ช่วงนี้เพิ่งสึกออกมาแกก็อยากให้วางตัวดีๆ สัก 4 เดือน ให้นิ่งๆ ก่อน
ผมผิดเรื่องมารยาท ไม่รู้กาลเทศะ ไม่ไปลามาไหว้ ขอโทษจากใจจริงที่รู้สึกผิดหวังต่อผมในเรื่องนี้ผมออกมาเลย ให้ทีมงานเก็บของโดยไม่ได้ปรึกษาใคร เป็นความไม่ได้เรื่องได้ราวของผมเอง คือผมไม่กล้า ผมเกรงใจก็ออกมาเลย เป็นความสิ้นคิดของผม ผมคิดน้อยไปจริงๆ
อีกเรื่องที่ผิดคือรับเงินมาแล้ว 1 ล้านล่วงหน้า 4 เดือน เขาจ่ายมาให้ผมแล้วจริงๆ ผมกำลังคุยกับคุณเต้ (ลูกชายเจ๊ติ๋ม) เพื่อจะคืนเงินให้ เราไม่ทำงานให้เขาเราก็ต้องคืนเงินอยู่แล้ว ผมอยากเคลียร์กับพี่”
ยันไม่มีเรื่องธุรกิจสีเทาล้านเปอร์เซ็นต์ วอน “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ช่วยพูดให้เคลียร์อย่าอ้ำๆ อึ้งๆ ลั่นกระทบกับงาน
“ผมไม่มีเรื่องนี้ 100 เปอร์เซ็นต์ 40 วันที่ผมสึกมาผมจะไปทำอะไรได้ ที่ผ่านมาผมก็ใช้ชีวิตอยู่บ้านพี่ติ๋ม มีออกไปข้างนอกบ้าง ไม่มีสีเทาแน่นอน ขอเอ่ยถึงพี่บุ๋ม แกเป็นพี่สาวอีกคนที่ผมไว้ใจ เป็นพี่สาวที่ผมรักและนับถือ ถ้าประเด็นนี้สังคมเคลือบแคลงว่าผมทำธุรกิจสีเทาเหรอ คนที่เป็นพระมา 30 ปี แถมบวชเณรด้วย ออกมา 40 วันแล้วทำธุรกิจสีเทา ผมอยากให้พี่สาวที่ผมรักมาก พี่ครับสีเทานั้นคืออะไร พี่พูดมาเลยดีกว่า เพราะผมไม่ได้ทำล้านเปอร์เซ็นต์
สังคมจะมองผมยังไง พูดแบบนี้มันกระทบงานผม ฉะนั้นถ้าพี่บุ๋มคิดว่าน้องชายคนนี้มีธุรกิจสีเทาพี่พูดเลย ด้วยความเคารพพี่ ผมไม่โกรธเลย บอกผมตรงๆ เตือนผมได้ ชัดเจนกับผมเลยเพราะผมไม่ได้ทำแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ขายหวยใต้ดินเหรอ เปิดบ่อนการพนันเหรอ ยาเสพติดเหรอ ผมไม่ยุ่งสิ่งเหล่านี้และจะไม่ยุ่งไปตลอดชีวิต ผมชัดเจนว่าผมไม่ทำอะไรสีเทา บอกมาเลยพี่ ไม่ต้องอย่าอ้ำๆ อึ้งๆ ว่าพี่ไม่พูดดีกว่า ให้ไปถามเขาเอง ไม่มีโกรธ ใจกับผม ผมก็ใจด้วย”
อยากรวยเพราะมีหนี้เยอะ ยอมรับผิดเรื่องที่ดินติด ส.ป.ก. 300 ไร่พูดไปเรื่อย แต่หากผิดกฎหมายก็ยินดีให้ทำให้ถูกต้อง
“ผมพูดจริง 3 เดือน 100 ล้าน ก็ผมมีหนี้ ผมก็อยากใช้หนี้ให้เร็ว ผมสึกมาเพื่อการนี้ ผมก็ทำงานหาเงิน และช่วยเหลือสังคม แล้วใครจะไปมั่นใจว่าสึกมาแล้วผมจะมีงาน ตอนแรกคิดว่าจะไปทำไร่ทำสวยด้วยซ้ำ มันเกิดจากที่ผมไปวัดแห่งหนึ่ง พี่ติ๋มพาผม ผมก็สายมู ท่านก็ทักว่าได้แน่ๆ 3 เดือน 100 ล้าน ไม่จริงให้เหยียบเลย พี่ติ๋มเขาก็เตือนว่าเธอไม่ต้องไปรีบหาเงินหรอก ค่อยๆ หาไป ผมรู้ว่าความจริงมันเกิดขึ้นได้ยาก
ที่อยากมีเงินอย่างแรกคือผมอยากเอาไปใช้หนี้ ดูแลครอบครัว น้องๆ ในทีมงาน หลักๆ คือเรื่องที่ดิน มันไม่ใช่ที่ดินผม ญาติพี่น้องอยากมีที่ดินไว้ทำกิน ตอนเป็นพระเราไม่มี แต่เราก็หายืมให้เพราะหน้าใหญ่ใจโต สุดท้ายเขาก็ทำไม่ไหว
ประเด็นนี้ถ้าผมจะผิดก็ผิดที่ผมสนับสนุน หาเงินมาให้เขา แต่เรื่องส.ป.ก. ผมไม่รู้ ผมไม่ยุ่ง มันไม่ใช่หน้าที่ของผม ที่พูดกับพี่บุ๋มว่ามีที่ 300 ไร่ บางทีผมก็พูดใหญ่พูดโต ผมไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ผมพูดทีเล่นทีจริงมันจะเป็นหอกทิ่มแทงผม ทุกคนเตือนผมแล้วว่าอย่าพูดอะไรออกไปก่อน อย่าไปพูดว่าจะทำนั่นทำนี่ เพราะไม่งั้นเราจะหมา ถ้าไม่ได้ทำ บางอย่างยังไม่ได้ทำจริงก็พูดไปแล้ว ผมเองก็เริ่มตระหนักในเรื่องนี้ว่าข้างนอกมันเป็นอย่างนี้ ผมต้องเรียนรู้ให้มาก
เรื่องนี้ผมก็บอกญาติพี่น้องผมแล้วว่าต้องทำตามกฎหมายครับ จำนวนเท่าไหร่ผมไม่รู้จริงๆ ยึดคืนก็ต้องยึดคืนครับ ถ้าผมผิด ผมก็คือเป็นคนสนับสนุน แต่มันไม่ได้เป็นชื่อของผมเลย ตรวจสอบได้ว่าผมไม่ได้เป็นคนซื้อ จะคืนก็ต้องคืนตามกฎหมาย (เข็ดแล้วกับการพูดไปเรื่อย?) ผมตระหนักจริงๆ แล้ว ว่าการที่เราพูดเล่น พูดใหญ่พูดโต มันโอหัง และคิดน้อยไป ตอนนี้มันชัดเจนมาก”
ยันตอนนี้ไม่ได้มีความรัก กับแม่ค้าออนไลน์ที่เป็นข่าวอยู่ คือเพื่อนสนิท ฝ่ายหญิงมีสามีแล้ว ลั่นน้ำหน้าอย่างมันไม่มีทางเป็นเมียตนได้
“ผมไม่มีความรักครับ เป็นเพื่อนครับ เขาชื่อชมพู่ เป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานานแล้ว ผมไม่ได้เสียคนเพราะเขา เขามีลูกมีสามีแล้ว เขาเป็นคนให้คำแนะนำการทำงานต่างๆ (คนนี้เป็นคนที่ติ๋มไม่อยากให้คุย?) คนนี่แหละครับ คือพี่ติ๋มเขาก็ไม่รู้จัก เพื่อนกันล้านเปอร์เซ็นต์ มองตาผมได้เลยเป็นเพื่อนกันจริงๆ สามีเขาผมก็รู้จักสนิทสนม ไม่ใช่เลยครับ พูดตรงๆ ว่าผมไม่มีวันจะเป็นไปได้ น้ำหน้าอย่างมันไม่มีทางเป็นเมียผมได้ ผมไม่มีทางชอบมัน เป็นเพื่อนกันครับ มันเป็นไปไม่ได้ ผมก็บอกพี่ติ๋มแล้ว ผมยังชวนเขาให้มาทำงานกับพี่ติ๋มกับทีวีพูลเลย”
ไม่มีเรื่องชู้สาวกับ “ติ๋ม ทีวีพูล” แน่นอน
“ไม่มีเลย อย่าไปมองพี่เขาแบบนั้น เขาเอ็นดูผมเหมือนลูก พี่เขาไม่คิดอะไรกับผมแน่นอน ผมมั่นใจเรื่องนี้ตัดไปได้เลย ผมทนไม่ได้กับประเด็นนี้เลย ผมเลยต้องออกมาเคลียร์ ที่ผ่านมาผมไม่ออกรายการไหนเลย ถ้าพี่ติ๋มให้โอกาส ผมพร้อมเข้าไปขอขมา”
วอนประชาชนอย่าเอาตนไปยึดติดกับจีวรอีก ตอนนี้ “พระมหาสมปอง” ได้ตายไปแล้ว มีแต่ “สมปอง นครไธสง” ที่จะเรียนรู้ชีวิตการเป็นฆราวาสที่ขาดหายไปในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
“เลิกเอาจีวรมาคลุมที่ตัวผมซะที ผมสึกมา 40 วันแล้ว ผมรู้ว่ามันต้องใช้เวลา 2-3 เดือน ตอนนี้ผมเป็นทิดแล้ว ไม่ได้เป็นพระ หลายคนยังเอาจีวรมาคลุมตัวผมไว้ ให้ผมทำตัวเหมือนเดิม ให้ผมสำรวมไว้ แต่ตอนนี้ผมเป็นฆราวาสแล้วไง เรามาศึกษาการใช้ชีวิตฆราวาส หลายคนพูดลอยๆว่าบวชมา 30 ปีไม่ช่วยอะไร ผมย้ำเลยว่าศาสนาช่วยผมได้มาก มหาสมปองได้ตายไปแล้ว ตอนนี้ผมคือสมปอง นครไธสง ผมอยากแยกออกให้ชัดเจน ลืมมหาสมปองไปได้แล้ว 40 วันในฆราวาส ให้เวลาให้ผมได้เรียนรู้กับโลกใบนี้ ผมอยากใช้ชีวิต วัยรุ่น วัยกลางคนเหมือนคนทั่วไปบ้าง ให้ผมได้ใช้บ้างเถอะ ผมไม่ใช้อะไรมากมายหรอก”