หลังจากเดินทางมาประเทศไทยอยู่หลายครั้ง ล่าสุด มีรายงานว่า นักแสดงชื่อดังของบอลลีวูด “กากัน มาลิค” ผู้รับบท “เจ้าชายสิทธัตถะ” ในเรื่อง Sri Siddhartha Gautama ก็ได้เตรียมที่จะบินมาประเทศไทยอีกครั้ง เพื่อเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดธาตุทอง พระอารามหลวง ที่ตนเคยปวารณาตนเป็นศิษย์วัดไว้
“การเล่นบทบาทของ เจ้าชายสิทธัตถะ ในเรื่อง Sri Siddhartha Gautama เปลี่ยนชีวิตและทัศนคติของผมไปอย่างสิ้นเชิง” นักแสดงหนุ่มเคยให้สัมภาษณ์ถึงความเปลี่ยนแปลงจากการรับบทเด่นในภาพยนตร์ Sri Siddhartha Gautama ก่อนยังบอกด้วยว่า ตั้งแต่นั้นมาเขาก็มีความรู้สึกว่าอยากทำอะไรบางอย่าง “เพื่อเป็นการรับใช้เพื่อนมนุษย์” และค้นหาความสุขที่แท้จริงในความเป็นมนุษย์
ก่อนหน้านี้ นักแสดงคนดังได้ประกาศตัวว่า เป็นพุทธศาสนิกชนและมีการเผยแพร่คำสอนผ่านช่องทางโซเชียลของตัวเองสม่ำเสมอ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเดินทางมาประเทศไทยหลายครั้ง รวมถึงเจ้าตัวยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง “ชมรมไตรรัตนภูมิ” เพื่อจะมุ่งเน้นไปในด้านการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้ตระหนักถึงหลักการแนวคิดและแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาต่อไปอีกด้วย
“กากัน มาลิค” เกิดเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ เมืองมุมใบ รัฐมหาราษฎร์ ประเทศอินเดีย มีพี่ชายสามคน และน้องสาวหนึ่งคน เขาได้เข้ารับการศึกษา ในโรงเรียน Hansraj ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองเดลี พร้อมเข้าร่วมการแสดง Ramleela และเขาก็ได้เล่นบท “ราม” อยู่เสมอ
เจ้าตัวเริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาทางโทรทัศน์ (Times of India, Shoda, Birla Sun Life Insurance) มิวสิกวิดีโอ, นักออกแบบ และนายแบบ โดยเขาเคยได้รับรางวัล Mr.Photogenic ในการประกวด Mr.India เมื่อปี พ.ศ. 2547 อีกด้วย
ในปี พ.ศ. 2556 กากัน มาลิค ได้เปิดตัวการแสดงในงานภาพยนตร์นานาชาติ ด้วยบทบาทที่สำคัญในเรื่อง “Sri Siddhatha Gautama" ตัวภาพยนตร์ได้รับรางวัล “Delhi International Film Festival” พร้อมทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ในประเทศศรีลังกา และส่งให้ “กากัน มาลิค” ได้รับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยม ในเทศกาลภาพยนตร์ “World Buddhist Film Festival” ในปี พ.ศ. 2557
ชีวิตส่วนตัวนักแสดงดังได้แต่งงานแล้วกับเพื่อนรักของเขาสมัยมัธยมปลาย เมื่อตอนอายุ 22 ปี ภรรยาของเขา มีนามว่า Pooja และทั้งสองได้อาศัยอยู่ด้วยกันที่เมืองมุมใบ โดย “กากัน มาลิค” ได้กล่าวว่า “ผมมีสีดาของผม ที่คอยให้การสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ผมเป็นอย่างมาก ผมจึงไม่มีความกังวลใจในเรื่องใดๆ อีก”
