เป็นเจ้าแม่ดรามา ที่ขยับตัวทำอะไรก็เป็นข่าวไปหมด สำหรับ “พิมรี่พาย พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์” แม่ค้าออนไลน์สุดฮอต ซึ่งหลังจากหายหน้าหายตาไปประมาณ 1 เดือน กรณีหมอเถื่อนในคลินิก ขายคอร์สโบท็อกซ์-ฟิลเลอร์ 5 พันบาท จนมีเรื่องราวอีนุงตุงนัง ต้องหลบไปพักใจ พร้อมเคลียร์เรื่องการจัดส่งสินค้าหลังบ้าน ที่ถูกท้วงติงหนักถึงความล่าช้า
หลังกลับมาไลฟ์สดขายสินค้าอีกครั้งก็มีประเด็นอยู่เรื่อยๆ แต่ล่าสุด ก็มีเรื่องให้ชื่อพิมรี่พาย ต้องพุ่งติดเทรนด์อีกแล้ว หลังจากที่ เจ้าตัวได้ฉะบิวตี้บล็อกเกอร์ที่ชื่อว่า “อายตา ศรสวรรค์ ใจมั่น”ยูทูปเบอร์ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้าน หลังอีกฝ่ายออกมารีวิวแป้งพัฟของเจ้าตัวทำนองว่าตัวแป้งมีความปกปิดผิวหน้าที่ดูหนาเกินไป แถมยังได้สินค้าตัวแป้งที่สั่งมาแตกละเอียด อีกทั้งราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคุณภาพ ซึ่งก็ดีกว่าที่คิดไว้ แต่ไม่ถึงขั้นประทับใจ ถ้าถามว่าให้ผ่านไหม ปังไหม จึ้งไหม มันดีกว่าที่คิดมาตรฐานไว้ แต่ไม่ได้ดีขนาดนั้น
ด้านพิมรี่พายก็ได้พูดถึงประเด็นนี้ในไลฟ์สด โดยเผยว่า “มีคนโทรเข้ามารัวๆ ว่าอายตารีวิวแป้ง ด่าก่อนแล้วชม มันเป็นธรรมดาไง ถ้าชมก่อนมันจะดูปลอมไง ถ้าชมก่อนจะเหมือนดูจ้าง แต่มึงก็โง่เนอะ มึงเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์มา 10 ปีก็ไม่ดังสักที คือมึงทำงี้ เอาแป้งกดๆ แล้วบอกว่าอุ้ย หนา ลูกกูโซเฟีย 6 ขวบยังทำเป็นเลย เอาแปรงปัดๆ เอา อยากได้หนาก็เอาพัฟกด อยากได้เบาก็เอาแปรง เรื่องมีแค่นั้นเอง แป้งดีๆ ต้องได้ด่าสักนิดนึง จะได้มีคนดู พิมรี่พายทำแป้ง กูไม่สนใจ กูด่าหมด กูไม่ได้ดูหรอกนะ แต่เพื่อนไลน์มาบอกว่ามันด่าก่อนถึงค่อยชม กูบอกว่าเรื่องปกติ ยูทูปเบอร์ต้องด่าก่อน ไม่งั้นคนดูคลิปเขาไม่จบ เดี๋ยวเขาไม่ซัคเซสเรื่องรีวิว ก็อยากฝากบอกว่าคุณๆ ที่มีความรู้เรื่องการแต่งหน้าทุกท่าน หรือคนที่ไม่มีความรู้ก็ดี ให้เพื่อนๆ ใช้แปรงปัดที่หน้าถ้าอยากได้บาง ถ้าอยากได้เข้มก็ให้ใช้พัฟ เท่านั้นเลย จบ”
ต่อมา อายตาก็ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก Eyeta โดยมีแคปชั่นว่า “ดราม่า! อายตาโดนพิมรี่พายด่า เป็นบตบกมาตั้งนานก็ไม่ดังซะที” โดยอายตาเผยว่าเป็นคนที่ติดตามพิมรี่พาย และชื่นชอบที่อีกฝ่ายช่วยเหลือคนอื่น ยังบอกผู้ช่วยเลยว่าอยากทำให้ได้แบบที่พิมรี่พายทำหากตัวเองรวยหรือมีเงิน ย้ำว่าไม่ได้โกรธ แค่อยากจะชี้แจงในมุมที่ถูกอีกฝ่ายพูดถึง
เรื่องแรกคืออายตาเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์มานาน แต่ไม่ดัง ซึ่งก็ถูก ตนทำมา 7-8 ปีแล้ว คนติดตามแค่ล้านกว่าๆ ซึ่งมันก็ไม่ดังจริงๆ ออกไปเดินตามตลาด ก็มีคนจำได้บ้างไม่ได้บ้าง ถ้าเทียบกับคนไทยทั้งประเทศ 70 กว่าล้านคน ซึ่งเราก็ไม่ได้โกรธ แต่แค่รู้สึกว่า ผิดประเด็นไปหน่อย ถ้าเราไม่ดัง ไม่มีสิทธิ์รีวิวของหรือ? พร้อมกับขอโทษด้วยที่ดังได้แค่นี้
สอง เรื่องที่บอกว่า ตัวเองใช้พัฟแทนที่จะใช้แปรง ซึ่งตนไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าใช้แปรงได้ แต่มันเป็นคนละบริบท เพราะในชีวิตประจำวัน ตนก็ใช้แปรง เนื่องจากใช้แป้งร่วมกับรองพื้น แป้งฝุ่น แต่แค่ว่าในบริบทนั้น เป็นการรีวิว และอยากเป็นตัวแทนของคนที่ซื้อของมาใช้ เหมือนลูกค้าทั่วไป ที่ซื้อของไปใช้ ซึ่งก็อยากใช้ของที่ได้มาจากในตลับ เพราะบางคนอาจจะไม่มีแปรง หรือมีมาก มีน้อย คนมีก็ได้ใช้ คนไม่มีก็ใช้พัฟไป ซึ่งตนรับรู้ว่า การใช้แปรงจะบางเบากว่าการใช้พัฟอยู่แล้ว พร้อมกับบอกว่า แต่ตนอาจจะไม่ได้พูดรีวิวให้ชัดเจนว่า ถ้าอยากได้แบบบางเบา ให้ใช้กับแปรง ซึ่งที่ผ่านมาสิ่งไหนไม่เหมาะกับตน ก็บอกไปตรงๆ ว่าไม่เหมาะ
ด้านเอฟซีอายตา ต่างเข้ามาช่วยปกป้อง โดยระบุว่าที่ผ่านมา อายตารีวิวสินค้าตามจริง และซื้อเองทั้งหมด ไม่ได้รับสปอนเซอร์ใดๆ และจนถึงตอนนี้ #พิมรี่พาย ก็พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับมหกรรมขุดเรื่องเก่าๆ มาฟาดเจ้าตัวระเนระนาด พร้อมกับมีคนตั้งคำถามว่า “รอบนี้พิมรี่พายจะนัดอายตากินข้าวอีกหรือไม่” ฟาดไปจุกๆ จ้า
