“นิต้า” น้ำตาคลอ ภูมิใจคว้ามงฯ เผยตนตรงกับบริบทนางสาวไทยปีนี้ คือส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรม บอกเตรียมกลับไป จ. อำนาจเจริญ เดินสายแก้บนทุกวัด
เคยเดินสายประกวดมาหลายเวที ในที่สุด “นิต้า” มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ ก็คว้ามงกุฎนางสาวไทยปี 2565 มาได้สำเร็จ โดยเจ้าตัวเปิดใจครั้งแรกหลังได้รับตำแหน่ง บอกว่าภูมิใจที่สุดกับมงกุฎนี้ เพราะเดินสายมาหลายเวที และเป็นสิ่งที่แม่พูดกับตนมาตั้งแต่เด็ก พร้อมที่จะทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่แน่นอน
“ภูมิใจในตัวเองมากๆ เลยนะคะ ต้าพยายามมาตลอด และต้าทำทุกกิจกรรมอย่างเต็มที่จริงๆ และดีใจมากค่ะที่วันนี้กรรมการเล็งเห็นแล้วว่าต้าเหมาะสมกับตำแหน่งนางสาวไทยค่ะ คิดว่าเป็นความตั้งใจในทุกๆ กิจกรรมที่ทำให้มีวันนี้ค่ะ อย่างที่ต้าบอกตั้งแต่วันแรกว่าต้าตรงกับบริบทนางสาวไทยในปีนี้มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทูตวัฒนธรรม เรื่องการศึกษา ต้าสนใจเรื่องนี้และได้ลงมือทำจริงๆ ฉะนั้นดีใจจริงๆ ค่ะ
ถามว่าเป็นตัวเต็งแล้วมีความกดดันมั้ย ไม่เลยค่ะ ต้ามาที่นี่คือทำเพื่อตัวเองก่อน เพราะฉะนั้นแล้วดีใจค่ะที่มีคนชอบเรามากขึ้น มีคนรักเรามากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วเราเก็บความรักนั้นไว้ ความกดดันเราก็ทิ้งไป เราแค่ภูมิใจกับตัวเอง ทำทุกอย่างให้เต็มที่ค่ะ รอบที่ตื่นเต้นที่สุด รอบ 5 คนแอบตื่นเต้นนิดนึง เพราะไม่มีช่วงพักเลย ประกาศด้วยความตื่นเต้น
ก็มีความตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ แต่ทุกรอบมันดีมาก อย่างโชว์เปิดสาวๆ ทุกคนก็ตั้งใจมาก ไม่รู้ชอบกันหรือเปล่า แต่พวกหนูตั้งใจกันมากๆ เลยนะคะ (ยิ้ม) และทุกๆ รอบมันดีจริงๆ ค่ะ ตอนที่ใส่หูฟังเขาเปิดเหตุเพลงโอ้นางสาวไทย (หัวเราะ) หนูจะขยับก็ไม่ได้”
บอกมีความเป็นไทยสูงมาก กินเขียดมาตั้งแต่เด็ก
“ถ้ามีคำวิจารย์ว่านางสาวไทยหน้าลูกครึ่งเหรอคะ ก็ตั้งแต่วันแรกที่มาสมัครค่ะ เป็นสิ่งหนึ่งที่คาดไว้เหมือนกัน แต่ต้าก็รู้สึกว่ามีคนข้างนอกนั้นที่อาจจะเป็นลูกครึ่งจีน ลูกครึ่งแขก ลูกครึ่งฝรั่ง ลูกครึ่งแอฟริกาในไทยที่ถูกคำพูดแบบนี้ว่าไม่ใช่คนไทย ต้ามาตรงนี้ก็เป็นตัวแทนของคนเหล่านั้นด้วยเหมือนกันว่าถ้าคุณเกิดและเติบโตในเมืองไทย คุณก็คือคนไทยคนนึงค่ะ
หนูค่อนข้างมีความเป็นไทยเยอะค่ะ คุณแม่สอนด้วยวิถีไทยมาตลอดเลยค่ะ ตอนเด็กๆ กินเขียดทอดนะคะ (หัวเราะ) คุณพ่อเป็นฝรั่ง แต่คุณพ่อไม่ได้พยายามที่จะทำให้เราไปเติบโตที่เมืองนอก คุณพ่ออยากให้เติบโตที่เมืองไทย เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่อยู่กับต้ามาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้มันก็คือความเป็นไทยค่ะ
ภูมิใจกับตัวเอง และดีใจที่ทำให้แม่ภูมิใจด้วย
“คำว่านางสาวไทยเป็นคำที่... คือไม่รู้วันนี้มีใครได้ดูคลิปหรือเปล่า แต่ว่าคุณแม่เคยพูดกับหนูตอนเด็กๆ จับขาต้าสองข้างแล้วร้องว่า ขาตรงๆ เป็นนางสาวไทย (ยิ้ม) มันก็เลยเป็นความรู้สึกที่จากเด็กคนนั้นในวันนั้นมาอยู่บนเวทีนางสาวไทยในวันนี้ และได้รับเกียรติสวมมงกุฎในตอนนี้ ก็คือภูมิใจในตัวเองมากค่ะ (เสียงสั่น)
เดี๋ยวต้องโทร.หาคุณพ่อคุณแม่ค่ะ แม่ติดตามอยู่ที่บ้าน คุณแม่เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบออกสื่ออยู่แล้วค่ะ เราก็ไม่กดดันเขา ให้เขาดูอยู่ที่บ้าน บอกแม่ไว้ว่าอย่าหัวใจวายนะ เพราะนางอยู่บ้านคนเดียว แต่ก็มีเพื่อนๆ แม่ รับรองว่าตอนนี้แม่รับโทรศัพท์ไม่หยุดเลย เพราะลูกสาวมงฯ ลงแล้ว (ยิ้ม) ก็หวังว่าคุณแม่จะภูมิใจ แต่คุณพ่อต้องโทร หาอีกทีนึง เพราะตอนนี้เขาอยู่อเมริกา ต้องดูเวลาอีกทีนึง”
ตั้งใจมาทำตามบริบทการประกวดปีนี้จริงๆ
“วันนี้ภาคภูมิใจมากค่ะ เพราะเราตั้งใจมาเวทีนี้ เพื่อบริบทของมันจริงๆ ต้าอยากจะโฟกัสเรื่องการศึกษา เรื่องวัฒนธรรมจริงๆ เพราะฉะนั้นแล้วมงกุฎและตำแหน่งนี้ต้าจะทำมันอย่างเต็มที่มากที่สุดค่ะ ที่บอกว่าจะไลฟ์สดทั้งปี ไม่ใช่แค่ไลฟ์สดนะคะ มีสปอนเซอร์หลายคนจะเดินทางไปทั่วประเทศค่ะ จะมีการสอนวิชาหุ้น ซึ่งหนูก็ไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ) แต่หนูก็อยากให้เด็กๆ ได้เรียนด้วย มีพี่ๆ จากอำนาจเจริญคือกลับไปแน่นอนนะคะ ต้องกลับไปแก้บนทุกวัดที่บนไว้ด้วยค่ะ (หัวเราะ) ก็จะทำทุกอย่างจริงๆ พร้อมกับตำแหน่งนี้มากค่ะ ตั้งใจที่จะทำงานมาก
หนูไม่อยากให้มองว่านางงามก็คือแค่ผู้หญิงคนนึงที่อยู่บนเวที ต้าตั้งใจที่จะรับตำแหน่งนี้เพื่อมาทำงานให้กับประเทศจริงๆ ค่ะ ขอบคุณแฟนๆ นางงามด้วยค่ะ ตั้งแต่วันแรกกระแสมันก็ดี แต่เราก็ไม่คิดว่ารอบพรีลิมฯ เมื่อวานนี้มันจะดีขนาดนี้ มีเวลาเลื่อนฟีดเฟซบุ๊กไม่ได้เยอะค่ะ แต่ทุกอันคือมีแต่รูปหนูเด้งขึ้นมา มีคอมเมนต์เด้งขึ้นมาเยอะมากๆ อ่านไม่หมดเลย
เราดีใจมากๆ ที่คนชื่นชอบในตัวเรา เพราะเราก็ประกวดมาหลายเวที เราพยายามทุกที่จริงๆ ดีใจที่ความพยายามนั้นมันเห็นผลแล้ว และภูมิใจในตัวเองมากค่ะ ต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจจากทุกคนจริงๆ ค่ะ และฝากติดตาม นิต้า มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ คนนี้ในฐานะนางสาวไทยด้วยค่ะ (ยิ้ม)”
