ไม่ค้านสายตา “นิต้า มานิตา” ตัวเต็งจ๋าวัย 25 ปี คว้าตำแหน่ง “นางสาวไทย 2565” คนที่ 53 สวยออร่าพุ่งสมมงฯ รับรางวัลเงินสด 8 แสน
เรียกว่าเป็นค่ำคืนบีบหัวใจแฟนนางงามทั่วประเทศ สำหรับรอบตัดสินการประกวด “นางสาวไทย 2565”ในวันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2565) ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ CentralWorld Live ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
บรรยากาศการประกวดรอบไฟนอลเป็นไปอย่างคึกคัก ด้วยเสียงเชียร์จากเหล่าแฟนคลับนางงามที่มาร่วมลุ้น และให้กำลังใจตลอดการประกวด โดยมี “อารม์ กรกันต์ สุทธิโกเศศ” และ “แพรว แพรววนิต เรืองทอง” รับหน้าที่พิธีกร
โดยการประกวดฯ เริ่มต้นขึ้นเมื่อเหล่าสาวงามทั้ง 24 คน เปิดตัวด้วยการแสดงสุดอลังการ พร้อมแนะนำตัวทีละคน จากนั้นคณะกรรมการประกาศผลผู้เข้ารอบ 12 คนสุดท้าย ได้แก่ หมายเลข 1 ไข่มุก ศรณ์ศรฏฐ์ วิทยาเรืองสุข, หมายเลข 6 มุก อัญพัชร์ ปิติประจักษ์วัชร, หมายเลข 8 ดาด้า กีรดา อัครปรีดี, หมายเลข 10 พลอย วรัมพร ปั้นอินทร์, หมายเลข 11 เกรพส์ จันทรรัสม์ เอี่ยมเล็ก, หมายเลข 12 อร อรณพรรณ ณ เชียงใหม่, หมายเลข 15 โบนัส ฑิฆัมพร ทุ่งทะเล, หมายเลข 16 นิต้า มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์, หมายเลข 17 นิกกี้ อธิชา เรนนี่, หมายเลข 18 นิดา วนิดา ดอกกุหลาบ, หมายเลข 19 ไข่มุก วาริศา ศรีนุกูล และ หมายเลข 23 ฮันนี่ ภรณ์นภัส ปุณณสิริวัฒน์
ก่อนจะเพิ่มดีกรีความแซบให้เวทีด้วยการอวดโฉมในชุดว่ายน้ำ และต่อด้วยการประกวดรอบชุดราตรี ที่สวยสง่าสะกดทุกสายตา โดยในรอบนี้ คณะกรรมการได้คัดเลือกผู้ผ่านเข้ารอบ 5 สุดท้าย ซึ่งสาวผู้โชคดี ได้แก่ หมายเลข 1 ไข่มุก ศรณ์ศรฏฐ์ วิทยาเรืองสุข, หมายเลข 6 มุก อัญพัชร์ ปิติประจักษ์วัชร, หมายเลข 16 นิต้า มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์, หมายเลข 17 นิกกี้ อธิชา เรนนี่ และ หมายเลข 18 นิดา วนิดา ดอกกุหลาบ
โดยสาวงามทั้ง 5 คน ได้แสดงไหวพริบปฏิภาณในการตอบคำถามกันอย่างเฉียบขาด ก่อนจะพักความตื่นเต้นด้วยการอำลาตำแหน่งของ “เมย์ ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์”นางสาวไทย คนที่ 52 ประจำปี 2563 จากนั้นเป็นการตอบคำถามของผู้เข้ารอบ 3 คนสุดท้าย ในคำถามเดียวกันเพื่อวัดกึ๋นหาเจ้าของตำแหน่งสูงสุดของเวทีนี้ ซึ่ง 3 สาวที่ผ่านเข้ามาตอบคำถาม ได้แก่ หมายเลข 6 มุก อัญพัชร์ ปิติประจักษ์วัชร, หมายเลข 16 นิต้า มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ และ หมายเลข 18 นิดา วนิดา ดอกกุหลาบ
ในที่สุดก็มาถึงวินาทีประวัติศาสตร์ที่ทุกคนรอคอย ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เมื่อพิธีกรประกาศผู้ที่ครองตำแหน่ง “นางสาวไทย” ประจำปี 2565 ได้แก่ตัวเต็งจ๋า หมายเลข 16 “นิต้า มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์” รับวชิรคฑา พร้อมสวมสายสะพาย และมงกุฎ “อิสตรีวิจิตรา (The Adamas) ที่สุดแห่งความเลอค่าที่ อีกทั้งรางวัลเงินสด 800,000 บาท และรางวัลอันทรงคุณค่าอื่นๆ อีกมากมาย
ขณะที่หมายเลข 6 “มุก อัญพัชร์ ปิติประจักษ์วัชร” คว้ารองอันดับ 1
ด้าน หมายเลข 18 “นิดา วนิดา ดอกกุหลาบ” ซิวรองอันดับ 2
สำหรับรองอันดับ 3 ตกเป็นของ หมายเลข 17 “นิกกี้ อธิชา เรนนี่”
ตามด้วยรองอันดับ 4 ได้แก่ หมายเลข 1 “ไข่มุก ศรณ์ศรฏฐ์ วิทยาเรืองสุข”
หลังจากนี้ นางสาวไทย คนที่ 53 ประจำปี 2565 จะร่วมปฏิบัติภารกิจสาธารณะกุศลมากมาย เพื่อเป็นตัวแทนหญิงไทยแห่งยุคสมัยใหม่ ในฐานะภูมิปัญญาแห่งอนาคต รวมถึงเป็นกระบอกเสียงให้กับสังคม ส่งเสริมและยกระดับการศึกษาให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ด้อยโอกาสทางศึกษา และเป็นทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวไปตลอดระยะเวลาของการครองตำแหน่ง