xs
xsm
sm
md
lg

“แอน” ขอเป็นตำนาน! ยอมยกตำแหน่งเจ้าหญิงแห่งวงการให้ “ญาญ่า” ดีใจจุดประกายให้สาววัย 40 กล้ารักกับเด็ก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แอน ทองประสม” เผยพร้อมยกตำแหน่งเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงให้ “ญาญ่า” เพราะเป็นคนน่ารัก นิสัยดี และตนไม่ได้ยึดติดอะไร บอกดีใจที่จุดประกายให้สาววัย 40 กล้าที่จะเปิดใจรักคนอายุน้อยกว่าได้ ย้ำช่อง 3 ให้รีบใช้งานตนตอนนี้ ให้เวลาอีก 2-3 ปีจะพอแล้ว เหนื่อยมากกับบทแบบนี้ ต้องไปนวดหน้าทุกอาทิตย์ ต้องทำตัวเองให้กระฉับกระเฉงตลอดเวลา

ดูเหมือนฟีดแบ็คจากละครที่เล่นคู่กับ “เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข” จะประสบความสำเร็จดีเยี่ยม ล่าสุดเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงอย่าง “แอน ทองประสม” เลยได้ประกบพระเอกรุ่นน้องที่เด็กลงไปอีกอย่าง “กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์” ในภาพยนตร์เรื่อง บัว ผัน ฟัน ยับ ซึ่งสาวแอนเผยถึงเรื่องนี้ว่า เตรียมลบคำว่าเจ้าหญิงแห่งวงการออกจากตนได้เลย เพราะจะได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นจากตนแน่นอน

หนังเรื่องนี้จะลบความเป็นเจ้าหญิงของวงการของแอนเลย ลบภาพนั้นไปเลย ต้องแต่งตั้งคนใหม่แล้วล่ะ เพราะมันค่อนข้างฉีก อะไรที่ไม่เคยได้ยินแอนพูด ไม่เคยเห็นแอนทำ แอนแค่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ฉีกกรอบเดิมๆ ของเรา และมันเป็นเรื่องๆ นึงที่ต่อให้มันจะไม่ได้มีเส้นเรื่องที่จะต้องมีปมอะไรเยอะแยะ แต่มันเป็นละครที่ให้ความสุข นี่คือคุณค่าอย่างนึงที่ให้คนดู เราก็เลยรู้สึกว่าเราสนุก อยากทำ และบวกกับบทแบบนี้ในวัย 40 กว่าอย่างแอนคงไม่มีโอกาสได้ทำ มันเป็นโอกาสที่แอนควรจะคว้าไว้ก่อนที่จะไม่พื้นที่ให้เราอีกแล้ว ก็เลยลองดู

ที่สำคัญก็คือแอนโชคดีที่แอนเกิดมาในยุคที่เจนเก่ายังอยู่ และเจนใหม่ก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว มันเลยเกิดส่วนผสมที่ลงตัว คือวัยอย่างเราสามารถไปอยู่กับรุ่นน้องได้ และเป็นอีกเรื่องราวนึงที่ไม่ต้องยัดเยียดอะไรที่มันสวีตมาก แต่มันสนุกด้วยเส้นเรื่องของมัน มันเลยผสมผสานกันได้ค่ะ นี่แหละคือความต้องการของเด็กผู้ชายคนนึง กับความมีของมากมายของผู้หญิงที่แก่วิชาคนนึง มันก็เลยเป็นส่วนผสมของอีกคนนึงที่ต้องการอยากจะถ่ายทอด เลยมาเจอกัน

มันก็เหมือนปัจจุบันที่แอนมีความรู้สึกว่าคนที่โตกว่าเขาก็อาจจะมีอะไรมากกว่า โลกของเราสองใบมันสามารถมาตกลงกันได้ แอนรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มันมีความน่ารักตรงนี้ และตัวละครแต่ละตัวก็ซื่อๆ หมดเลย และเพื่อนแอนแต่ละคนก็ไม่ใช่คนธรรมดา ที่แคสมานะ เดี๋ยวเขาคงเปิดตัวคนอื่นๆ ด้วยค่ะ”

บอกเสียดาย ถ้า “ค่อม ชวนชื่น” ยังอยู่ คงได้เล่นด้วยกัน
“อยากเล่นกับน้าค่อม ก็เสียดายค่ะ เพราะบ้านนี้เขามีน้าค่อมเป็นเมนหลักของเขา เราก็คิดว่าถ้าเราเล่นค่ายนี้เราก็คงจะได้เจอน้าค่อม แต่ไม่ได้เจอ ก็มีเสียดายนิดนึงค่ะ แอนก็เชื่อเอาเองนะไม่ได้คุยกับเขาหรอก ว่าถ้าเกิดน้าค่อมยังอยู่เราก็คงได้เล่นกันค่ะ 

ส่วนที่คนคาดหวังในความเป็นแอน แอนโชคดีว่าคนตอนนี้ค่อนข้างเปิดใจนะ ทุกคนจะไม่มีกรอบอะไรที่เราเคยสำเร็จ หรืออยากจะเห็นเราในอีกมุมมองนึง พอมาวันนี้เราไปทำอะไรที่ตีลังกาอีกแบบนึง แล้วเขาจะรับไม่ได้ เคยมีสิ่งนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ แอนว่าเขาเข้าใจในความเป็นมนุษย์มากขึ้น เราไม่ได้เป็นโลกแห่งความฝันอีกแล้ว ในยุคแอนทุกอย่างจะเป็นโลกของความสวยงาม มันเหมือนถูกพูดแค่ด้านเดียวที่สวยงาม แต่ว่าในโลกนี้มันจะมีความจริงๆ และกลมๆ กว่าให้เราได้เห็นในหลายๆ มุม คนก็ค่อนข้างเปิดใจกับคนวัยอย่างแอนที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรประหลาดๆ ได้มากขึ้น”

เตรียมยกตำแหน่งเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงให้ “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์”
“แอนจะมอบให้ญาญ่าแล้วล่ะ คือมันไม่มีอะไรที่มันถาวรอยู่แล้ว เราอยู่มา 30 ปีแล้ว เราเห็นทุกวงเวียนของมันแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าวันนึงมีคนบอกพี่แอนๆ นึกสนุกอยากไปให้อีกคนนึง เราก็รู้สึกว่าถ้าเด็กคนนั้นสามารถเป็นไอดอลในด้านที่ดีของใครได้ คุณให้เขาไปเลย ไม่มีปัญหา เรารู้สึกว่าทุกอย่างมันเป็นอะไรก็ได้ ไม่ได้หมายความว่าพอมันไม่มีแล้วเราจะหมดคุณค่าในตัวเองก็ไม่ใช่ เราก็ยังใช้ชีวิตของเราไป

ที่เลือกญาญ่า เพราะญาญ่าน่ารักไง เขาจิตใจดี เขาทำแต่สิ่งดีๆ และตั้งใจทำงาน อันนี้เราตัดสินส่วนตัวนะ เพราะเจอเขาบ่อย ก็เลยเห็นเขาในทุกด้านค่ะ จริงๆ มันก็มีหลายคนที่เหมาะนะ แต่แอนแค่ไม่ได้ไปใกล้ชิดกับเด็กๆ เหล่านั้นไง แต่กับญาญ่าแอนเจอบ่อย ญ่าไม่กล้ารับหรอก แอนก็พูดไปอย่างนั้นแหละ (หัวเราะ) แอนพร้อมมอบให้ แต่แอนก็ยังเป็นตำนานในปีนั้นอยู่ ไม่ได้หายไปไหน (หัวเราะ) เหมือนนางงามไง เราก็ยังมีตำแหน่งของเราเป็นเรคคอร์ดเอาไว้ แล้วคนใหม่ก็ทำหน้าที่ไป”

บอกอยากประสบความสำเร็จในด้านผู้จัด
“วงการผู้จัด อยากเป็นผู้จัด อยากเป็นที่ยอมรับในอีกอาชีพนึง ไม่ต้องเป็นเจ้าหญิงก็ได้ค่ะ เพราะไม่ใช่ว่าเราจะประสบความสำเร็จในทุกๆ เรื่อง มันก็ไม่เสมอไป แอนแค่รู้สึกว่าทุกอย่างมันมีเวลาของมัน หมายถึงว่ามันมีช่วงที่เราเซบ้าง เรื่องนี้ได้ เรื่องนี้ประมาณนึง เรื่องนี้ดีเชียว เพราะฉะนั้นทำธุรกิจมันยากค่ะ

ดีใจนะคะที่คนบอกว่าละครค่ายเรายกระดับละครไทย เพราะว่าแอนตั้งใจมาก คือแอนตั้งใจจะทำ เป้าหมายเราคือขอให้คนดูมีความสุขแค่นั้นเลย ขอกำไรบ้างเท่านั้นเอง (หัวเราะ) ไม่ใช่ว่าแอนจะไปโฟกัสเบื้องหลังมากขึ้นหรอกค่ะ แอนเกิดมาอยู่ตรงนี้แล้ว ก็คงยึดอาชีพนักแสดงที่เล่นไปตามวัยของตัวเองที่เหมาะสมไปอีกเส้นนึง ส่วนอีกเส้นนึงแอนก็สามารถเป็นผู้จัดของแอนไปด้วยได้ เหมือนกับเด็กรุ่นนี้ที่เขาสามารถมีอาชีพได้หลากหลายมาก คนเรามันเก่งด้านเดียวไม่ได้แล้วในความรู้สึกแอนตอนนี้นะ คนเราต้องมีความสามารถด้านอื่นๆ เอาไว้พลิกตัวในสถานการณ์ที่บางทีด้านนี้มันเริ่มวิกฤต เราก็จะได้กลับตัวไปอีกด้านนึง”

ขอช่อง 3 ให้รีบใช้งานตนซะ เพราะอีก 2-3 ปีคงให้เล่นคู่กับเด็กๆ ไม่ไหวแล้ว
เอาจริงๆ ก็เล่นได้เต็มที่อีก 1-2 ปี รีบๆ ใช้งานแอนเถอะ (หัวเราะ) คืออย่างเล่นคู่กับเจมส์จินี่แอนโหดมากเลยนะ แอนต้องไปนวดหน้าทุกอาทิตย์เลย (หัวเราะ) แอนมาเล่นกับกลัฟแอนก็ต้องไปนวดหน้าอาทิตย์ละ 3 วัน ออกกำลังกาย นอนเร็ว กินผัก กินอะไรที่มันเฮลท์ตี้เพื่อให้เราดูกระฉับกระเฉง มันก็โหดเหมือนกันนะ แอนเลยมองว่าถ้าให้เล่นกับเด็กแบบนี้ แอนให้อีก 2-3 ปี รีบใช้งานแอนให้เต็มที่เถอะ หลังจากนั้นก็จะกลายเป็นหม่ามี๊แล้ว แรกๆ กับเจมส์จิมีกดดัน แต่พอมากลัฟแอนเหมือนมีลูกคนที่สอง คือมันเบาสบายมาก เรารู้สึกว่าถ้าเราเชื่อมั่นกับบท บทจะพาเราไปเอง เราไม่ต้องไปสนใจเรื่องตรงนี้เลย

คนมองเราเป็นไอดอลของผู้หญิงยุคใหม่ เพราะสาวหลัก 4 ก็มีความหวานไง เรายังสามารถที่จะมีรักกับเด็กอย่างนี้ได้ มันเหมือนเราแลกเปลี่ยนการพูดคุย และเราได้มุมมองบางอย่าง ความหมายคือมุมมองนะ ไม่ได้ทำให้เราหน้าเด็กลงหรอก แต่ทำให้เราเข้าใจแชนแนลเขามากขึ้น ทุกวันนี้แอนทำงานเป็นผู้จัด แอนก็ต้องแคสเด็กไปเรื่อยๆ มันก็ต้องรู้จักเด็กลงไปเรื่อยๆ เราจะได้เข้าใจเขาว่าเขาต้องการอะไร มันเหมือนเป็นข้อดีที่แอนได้ทำงานแบบนี้ เขาจะได้เปิดโลกให้เราได้ไปทำงานตัวเองมากขึ้น

ได้จุดประกายให้สาวหลัก 4 มันดีนะ มันเป็นความภูมิใจ แอนว่าทุกคนต้องมีความกล้าหาญที่จะรู้สึก ถ้าเราไม่ได้ไปผิดกติกาอะไรนะ มันควรจะรู้สึกได้กับทุกคน รักมันเกิดได้กับทุกช่องทาง แต่ไม่ค่อยมีคนมาปรึกษาหรอกค่ะ แต่ผู้หญิงอายุ 40 จะบอกว่าชอบจังเลย ชอบดูเรื่องนี้ ทำให้รู้สึกกล้าที่จะไปรู้สึกกับคนอื่น กล้ามองเด็กมากขึ้น บางคนที่อาจจะหมดโอกาสที่จะแต่งงานแล้วอย่างน้อยช่วงชีวิตนึงของตัวเองก็อยากจะไปรู้จักเด็กสัก 1-2 ปีแล้วก็บ๊ายบายกันไป มันก็มีมุมมองนั้นเกิดขึ้นบ้างจากที่ได้ยินมา”

เผยชวนให้ “มาริโอ้ เมาเร่อ” กับ “เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์” ให้มาวิ่งด้วยกัน
“คุณเอ (ทินพันธ์ ตันตินิรันดร์) เขาจะชอบแซว แล้วแอนก็ชอบไปวิ่งกับเด็กๆ ด้วยไง เพราะคุณเอไม่ตื่นเช้า แอนก็ต้องไปวิ่งกับเด็กไง ก็เลยกลายเป็นว่าพวกนี้เป็นพวกตื่นเช้ากัน เราก็ไป ตอนนี้กำลังลากโอ้ไปอยู่ โอ้ยังอิดออดอยู่ อยากให้โอ้มีซิกแพ็ก  แต่ยากนะ เขาเล่นสเก็ตบอร์ดเนอะ เขาไม่ใช่สายวิ่ง แต่เราเห็นคนออกกำลังเราก็มีความสุขตาม แอนว่ามันสนุกดี

แอนไม่ไปสายสเก็ตบอร์ดแบบเขาหรอก แอนก็ไปสายวิ่งของแอนนี่แหละ เคนก็ชวนแล้ว เดี๋ยวจะนัดกัน วิ่งค่ะ เขาต้องมาโลกของแอน (หัวเราะ) แอนจะไม่ไปโลกของเคนแค่นั้นเอง คือพออายุเยอะแล้วมันไม่ควรจะอยู่ในที่ที่มีล้อ ไม่ได้ มันทรงตัวไม่ได้ กว่าจะหายมันนานกว่าเด็กๆ แอนบอกเลยว่าอะไรที่อยู่บนล้อแอนไม่เล่น”













กำลังโหลดความคิดเห็น