“ณิชา” ยอมรับ! เป็นคนคลั่งรักคนหนึ่ง คิดไม่ถึง “โตโน่” จะลงรูปหยอกในไอจี บอกช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอ ต้องคอยหาเวลาตรงกัน กินน้อยและไม่ออกกำลังกายทำโดนบ่น ดูไม่น่าเข้ากันได้ แต่ไลฟ์สไตล์คล้ายกันมาก ชมฝ่ายชายน่ารัก นุ่มนิ่ม และขี้เขิน ขอลุยงานเต็มที่ ยังไม่คุยเรื่องอนาคต เลิฟซีนหนักไม่ต้องขออนุญาต วาเลนไทน์ยังไม่มีแพลน ลั่นทุกวันคือวันพิเศษอยู่แล้ว
ดูเหมือนไม่น่าคลิกกันเท่าไหร่ แต่กลับเป็นความสบายใจให้กันตลอด สำหรับคู่ของสาว “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” กับหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ที่เดี๋ยวนี้เริ่มลงรูปหยอกเอินกัน ผ่านทางไอจีมากขึ้นแล้ว ทำเอาแฟนคลับฟิน อมยิ้มกันถ้วนหน้า ล่าสุดวันนี้ (3 ก.พ.) มีโอกาสคุยกับสาวณิชา ในงาน Press Interview ของละครเรื่องเกมปรารถนา เลยขออัปเดตความหวานกันสักหน่อย ว่าจะยอมใจอ่อนใช้สถานะแฟน เหมือนคู่อื่นๆ เขาบ้างหรือยัง
“ในละครดูคลั่งรัก ก็เอามาจากตัวเองค่ะ ก็ค่อนข้าง ขอยอมรับว่าเป็นคนคลั่งรักพอสมควร (หัวเราะ) รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เวลาที่รู้สึกดีกับใครก็ช่วยได้ (ต้องจินตนาการพระเอกหน้าเหมือนใครหรือเปล่า จะได้คลั่งรักง่ายๆ?) ไม่ค่ะ เราก็ต้องอยู่ตามเรื่อง ก็ต้องเป็น มิลิน กับ อนาวิน อะไรอย่างนี้”
ในชีวิตจริงก็มีโมเมนต์คลั่งรักอยู่พอสมควร
“(หัวเราะ) ก็มีคิดว่ามีบ้างค่ะ น่าจะมี แต่ไม่ได้แบบว่าต้องพยายามแสดงออก แต่ว่าก็เป็นของมันไปแบบนี้ ถามว่าคลั่งรักใคร ก็มีคุณพ่อคุณแม่ น้องหมา (หัวเราะ) (คุณพี่ปีศาจด้วย?) ก็จะรวมด้วยก็ได้ค่ะ (ยิ้ม) เป็นความรู้สึกดีๆ ให้กันก็โอเคค่ะ”
ไม่คิดว่า “โตโน่” จะลงรูปหยอก ผ่านไอจีมากขึ้น
“ก็ไม่คิดเหมือนกันค่ะว่าเขาจะลง เพราะว่าเราหน้าสดมาก และบางอันเขาเอาไปแต่งสีจนหน้าหนูแบบคนป่วยคนโทรมเลย ก็มีลงบ้างนิดๆ หน่อย เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอ ต่างคนต่างทำงานหนักมาก เจอกันทีก็มีถ่ายรูปเก็บไว้บ้างค่ะ ก็ไม่เคยถามว่าให้ปรึกษาก่อนลง ก็ลงไปแล้ว คนเห็นไปแล้วไม่รู้จะพูดทำไม ก็ลงไป ก็ตลกดีค่ะ”
ถ่ายละคร 7 วัน ทำเจอกันน้อย ต้องคอยเวลา
“ช่วงนี้เจอกันน้อยค่ะ ต้องพยายามหาเวลาให้เจอกันหน่อย เพราะทำงานถ่ายละคร 7 วันเลยจริงๆ วันไหนทีกองไม่ถ่านหรือเสร็จแล้วก็มีนัดทานข้าวกันบ้าง”
เล่าที่มาคลิปในไอจี โดน “โตโน่” บังคับให้กินข้าว
“คือหนูเป็นคนกระเพาะเล็กค่ะ ถ้าเทียบกับคนอื่น หนูเป็นคนทานได้ไม่เยอะ แต่พยายามนะคะ เพราะอยากอ้วนขึ้น แต่ว่าบางทีมันไม่ไหวจริงๆ บางทีชอบสั่งของเยอะ อยากกินโน่นบ้าง อยากกินนี่บ้าง พอมาถึงอาหารจานหลักก็เริ่มอิ่ม ซึ่งจานหลักมันก็เป็นเนื้อดีๆ พี่เขาก็เลยจะบ่นนิดนึงว่าทำไมไม่กินให้หมด เสียตังค์มาแล้ว แต่ก็เข้าใจ โดนเกือบทุกครั้งเลยค่ะ (หัวเราะ) ก็บ่อยที่โดนแบบนี้ แต่ก็พยายามปรับปรุงตัว พยายามจะไม่วู่วามเวลาสั่งอาหาร
เขาก็ไม่ได้ดุหรอกค่ะ แต่เขาบ่นเฉยๆ เวลาหนูกินน้อย บอกว่ากินเหมือนแมวดม กินแค่นี้ทำไม แล้วก็ทำงานเยอะ ทำไมไม่รู้จักกินให้ร่างกายแข็งแรง ให้มันอ้วนหน่อย ยาวค่ะ เวลาโดนที (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้กินให้เขา คือเราอยากกินให้เราอ้วนขึ้นอยู่แล้วด้วยค่ะ ก็ดีที่เขาเป็นแรงผลักให้ เพราะเราก็อยากมีน้ำมีนวลขึ้นอยู่แล้ว”
อีกเรื่องที่โดนบ่น คือการออกกำลังกาย
“น่าจะเรื่องออกกำลังกาย บางทีทำงานทุกวันจนแทบไม่ได้ออกกำลังกายเลย พอว่างหนูก็อยากพักอยากนอน แต่เขาก็บอกว่าถ้าไม่เหนื่อยมากก็ออกกำลังกายบ้างก็ได้ เพราะเขาเห็นหนูทำงานหนักมากจนบ้านหมุนนิดนึง เขาก็เลยเป็นห่วงเรื่องนี้ สุขภาพ ร่างกาย การพักผ่อนของเราค่ะ ก็จะบ่นเรื่อยๆ”
ไม่รู้มุมอ่อนโยนมีไหม แต่ก็พาไปกินอะไรดีๆ ตลอด
“ไม่รู้ค่ะ แต่เขาจะมีแบบนี้แหละค่ะ อยากพาไปกินอะไรดีๆ อยากพาไปกินอะไรเยอะๆ พาไปกินบุพเฟ่ต์บ้างจะได้กินเยอะๆ ก็จะเป็นแนวนี้ค่ะ”
ไม่ต้องขออนุญาต เวลาจะเข้าฉากเลิฟซีน เพราะไม่ค่อยถามเรื่องนี้กันเท่าไหร่
“ไม่เลยค่ะ พอเป็นการทำงาน ก็จะไม่ค่อยไปยุ่งเท่าไหร่ ก็ปล่อยให้เราทำหน้าที่นักแสดงให้เต็มที่ เขาก็ด้วยเหมือนกัน เวลาทำงานกับใครหรือว่ามีซีนอะไรจะไม่ค่อยถามกันเท่าไหร่ ไม่ถามดีกว่า ก็ทำหน้าที่เราไปเลย ถ้าจะมีปรึกษาก็จะเป็นเรื่องเวลาเจอปัญหาหรือซีนยากๆ ก็จะปรึกษา เพราะบางทีพี่เขาก็โตกว่า เราก็อยากได้ความคิดเห็นด้วย เพราะถ้าความคิดเราคนเดียว มันอาจจะแคบไปนิดหนึ่ง ก็ปรึกษากันบ้าง”
“เกมปรารถนา” เลิฟซีนหนัก ไม่ได้ฟีดแบ็กอะไร เพราะพี่เขาคงไม่ได้ดู
“ยังคะ สิ่งนี้ไม่น่าจะเป็นอะไรเท่าไหร่ (หัวเราะ) เขาไม่ดูหรอกมั้งคะ (หัวเราะ) เขาจะไม่ค่อยดูละครยาวๆ เพราะเขาไม่ชินกับการเห็นณิชาไปเป็นอีกคนหนึ่ง จะดูบ้างไม่ดูบ้าง แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะดูถึงตอนเลิฟซีน (หัวเราะ) ถามว่าอยากให้เขาดูไหม ถ้าเขาดูได้ ก็ดูได้ค่ะ แต่ถ้านั่งดูอยู่ด้วยกัน ก็คงรู้สึกแปลกๆ (หัวเราะ)”
ไม่มีแอนนิเวอร์ซารี เพราะไม่ได้นับ
“ไม่มีแอนนิเวอร์ซารี (หัวเราะ) เพราะไม่มีวันอะไร เลยเป็นอย่างนี้มาเรื่อยๆ ถ้าให้นับปีก็จำไม่ได้ ต้องไปถามแม่ค่ะ (หัวเราะ) ถ้าที่คุยกันคือ ทำงานลุยกันให้เต็มที่ค่ะ ไม่ได้คุยกันระยะยาวเบอร์นั้น แค่รู้สึกว่าทั้งหนูก็ยังอยากทำอะไรอีกเยอะมาก พี่โน่ก็มีโปรเจกต์ที่อยากทำเหมือนกัน ก็เลยคุยกันว่าจะลุยงาน เป็นตัวเอง ทำงานของตัวเองให้เต็มที่ที่สุดและซัปพอร์ตกันก็แค่นั้นค่ะ มันยังไม่อยู่ในหัวหนูเลย (หัวเราะ) ไม่รู้ว่าผู้หญิงไทยอายุ 25 เขาเริ่มคิดกันหรือยัง แต่ของหนูมันยังไม่ถึงสเต็ปนั้นเลย
ถ้าให้นึกภาพตอนนี้ก็ไม่เห็นภาพตัวเองที่จะเป็นครอบครัวด้วย แต่ถามว่าในอนาคตมันต้องมีอยู่แล้วแต่ว่าในตอนนี้มันยังสนุกกับการทำงาน การใช้ชีวิตของตัวเอง ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ลองทำ และอยากลองทำให้เต็มที่ก่อน ในตอนนี้ ณ ปัจจุบันยังสนุกกับบางอย่าง ยังอยากทำบ้าง ก็ปล่อยให้ต่างคนต่างไปทำให้มันสุด ให้มันเต็มที่ค่อยว่ากันเมื่อถึงเวลาก็คงคิด”
ดูไม่น่าเข้ากันได้ แต่ไลฟ์สไตล์คล้ายมาก ยิ่งรู้จักยิ่งสบายใจ
“จริงๆ ไลฟ์สไตล์ค่อนข้างคล้ายกันมากอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ มีหลายๆ เรื่องที่มีความคิดไปในทางเดียวกัน หรือ ถึงแม้จะไม่ได้คิดไปในทางเดียวกัน แต่ก็คุยกันได้และเข้าใจกันได้ด้วย ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเข้ากันได้ขนาดนี้เหมือนกัน ตั้งแต่ร่วมงานกันครั้งแรกเรารู้สึกว่า ภาพเราช่างไม่น่าจะเข้ากันได้ (หัวเราะ) แต่พอรู้จักกันไปเรื่อยๆ ได้เห็นหลายๆ มุมของเขามากขึ้นนอกจากการทำงาน เราก็เริ่มรู้สึกว่า…เออ มันดูสบายใจ แล้วก็ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เป็นตัวเองกันทั้งคู่ จนมาถึงวันนี้ก็ยังโอเคอยู่ค่ะ”
แทบไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อกันเลย
“แทบจะไม่เลยค่ะ แทบจะไม่เปลี่ยนตัวเองเลย แต่ก็มีบ้างที่ โอเค ต้องหาเวลามาเจอกัน หรือบางอย่างที่เป็นนิสัยไม่ดีเล็กๆ น้อยๆ ของเรา เขาก็ทำให้เราดีขึ้นในจุดนั้นมันก็เป็นเรื่องดี แต่ไม่เคยรู้สึกเลยว่าต้องเปลี่ยนตัวเอง
ถามว่าหรือเขาเป็นคนปรับเข้ามาหาเราเอง ไม่ค่ะ (หัวเราะ) มันก็มีบางเรื่องแต่เป็นเรื่องเล็กมากจริงๆ มันไม่ได้มีอะไรมากที่ต้องมาปรับไลฟ์สไตล์หรือพยายามเป็นคนอื่น เพราะว่าเรามันเริ่มมาจากการที่เราค่อยๆ เริ่มมา เราไม่ได้คิดอะไรเยอะ ก็เลยเป็นตัวเองจริงๆ ทั้งคู่และเผอิญว่าเข้ากันได้พอดี”
ไม่รู้ฟีดแบ็ก จากแฟนคลับ “โตโน่” แต่คิดว่าน่าจะโอเค
“ไม่รู้เหมือนกัน ก็น่าจะโอเคค่ะ คือ เป็นคนที่ไม่ได้อ่านหรือเสพคอมเมนต์อะไรเยอะเลยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเป็นแบบไหน เราไม่ได้รู้จักแฟนคลับของพี่เขาทุกคนเราก็ตอบไม่ได้ แต่คิดว่าน่าจะโอเคนะคะ (แต่ตั้งแต่คบมาก็ยังไม่ได้เจอกระแสอะไรแรง?) ใช่ค่ะ คิดว่าคงไม่มี หรือหนูไม่ได้อ่านก็ไม่รู้ (หัวเราะ)”
ภาพดูเป็นชาวร็อกแข็งกระด้าง แต่จริงๆ ละเอียดอ่อน น่ารัก อบอุ่น นุ่มนิ่ม และขี้เขิน
“เขาไม่ใช่คนแข็งกระด้างนะคะ จริงๆ เขาเป็นคนละเอียดอ่อน จริงๆ เขาค่อนข้างใส่ใจความรู้สึกคนรอบข้าง ไม่ใช่แค่กับหนูนะคะ เขาจะคิดเผื่อไปอีกสเต็ปหนึ่ง ที่บางทีเราก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะคิดไปถึง ว่าเขาคิดเรื่องนี้ สำหรับหนู หนูว่าเขาเป็นคนนุ่มนิ่มดี บอกไม่ถูก (หัวเราะ) เขาไม่ใช่คนแข็งกระด้างแต่แค่ภายนอกเขาจะเป็นคนพูดเสียงต่ำ หน้าดุนิดหนึ่ง แต่จริงๆ เขาน่ารัก อบอุ่นดีค่ะ แล้วก็ขี้เขินมากค่ะ หนูว่าหนูเขินน้อยกว่าเขาอีก หรือพอเขาเป็นผู้ชายอาจจะต้องคิดเยอะนิดนึงในการตอบถึงผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เขาก็ขี้เขินอยู่ค่ะ (หัวเราะ)”
ที่บอกว่านุ่มนิ่ม เพราะใส่ใจดูแล เทคแคร์ดีมาก
“การดูแลเทคแคร์ การใส่ใจรายละเอียดของเขา เขาดูเป็นผู้ช้ายผู้ชายแต่เขาใส่ใจในความรู้สึกเล็กๆ น้อยๆ หรือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มากพอสมควร มีความเซนซิทีฟแต่ไม่ได้เป็นคนขี้กังวลนะคะ เขาอ่อนโยนกว่าที่ทุกคนคิด แค่ข้างนอกอาจจะดูแข็งแรงแข็งแกร่ง”
เข้าใจอีกฝ่าย ไม่ค่อยพูดถึงเยอะ แอบชอบด้วยซ้ำ
“ไม่ค่ะ ไม่ได้มองแบบนั้นเลย หนูชอบด้วยซ้ำ เหมือนมันเป็นพื้นที่ของเราเองมันไม่จำเป็นที่เราต้องแชร์หรือพูดตลอดเวลาให้ใครมารับรู้ความสัมพันธ์ หรือ เห็นรูปตลอดเวลา เราก็ดีใจสำหรับคนที่เขาซัปพอร์ตเราสองคนแต่ด้วยธรรมชาติเราเป็นคนแนวนี้อยู่แล้ว พอเขาเป็นแบบนี้เหมือนกัน เลยรู้สึกว่ามันสบายใจดี เป็นแบบนี้ก็เป็นตัวเราเองทั้งคู่ เราสบายใจแบบนี้ค่ะ”
วาเลนไทน์ติดถ่ายละคร ยังไม่มีแพลนหวาน
“หนูมีแพลนถ่ายละครค่ะ (หัวเราะ) ก็มีแพลนแค่นั้นค่ะ แต่กับพี่โน่ยังไม่มี พวกเราได้ซีเรียสมันก็เป็นวันวันหนึ่ง แต่โอเคมันก็เป็นวันที่ทำให้คนอาจจะได้แสดงความรัก แต่มันไม่จำเป็นต้องเป็นวันนั้นวันเดียวหรอกค่ะ วันอื่นก็ได้”
ทุกวันคือวันพิเศษ ไม่เฉพาะแค่วาเลนไทน์
“ใช่ค่ะ เวลาเรามีความรู้สึกที่ดีกับใครมันก็น่าจะรู้สึกทุกวันนะ ไม่น่าจะแบบอยู่ดีๆ วันนึงแล้วอยากทำอะไรเต็มที่ เป็นอะไรแบบนี้เรื่อยๆ สบายใจดีค่ะ ถามว่าหวังเซอร์ไพรส์ไหม หนูเป็นคนเฉยๆ กับการเซอร์ไพรส์ด้วยค่ะ ก็ถ้าจะเซอร์ไพรส์ทุกปีในวันวาเลนไทน์ มันก็คงไม่เซอร์ไพรส์ (หัวเราะ) แต่ถ้าบางปี ไม่ต้องวาเลนไทน์ก็ได้ แต่เขาเซอร์ไพรส์ขึ้นมาเราจะรู้สึกประทับใจมากกว่าสำหรับตัวหนูนะ ไม่ได้หมายถึงทุกคน”
ใช้สถานะคนที่รู้สึกดี
“สถานะคนที่เรารู้สึกดี และรู้สึกชอบที่จะอยู่ด้วย ไม่รู้เหมือนกัน แล้วแต่ใครจะให้เป็นอะไรก็ได้ เพราะเราก็ไม่ได้มานั่งนิยามกันเองเหมือนกัน เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ค่ะ”