“อาเล็ก” หยอดหวาน ยิ่งรู้จัก “โบว์” ยิ่งประทับใจ เป็นความสดใส กระชุ่มกระชวย แจงเหตุไม่ลงรูปคู่ เพราะไม่อยากให้คนโฟกัส ความสัมพันธ์ดีขึ้นเรื่อยๆ แอบกดดันวาเลนไทน์ปีแรก เตรียมควงไปงานแต่งเพื่อน มีคิดเรื่องแต่งแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ คบใครก็มองถึงอนาคต กัดสีผมครั้งแรกเพราะโดนยุ ไม่ได้มีโปรเจกต์อะไร
แม้จะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น แต่ก็ยังไม่ใจอ่อนลงรูปคู่ ให้แฟนๆ ได้เห็นกันสักที สำหรับพระเอกหนุ่มหน้าตี๋ “อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ” และนางเอกสาวอารมณ์ดี “โบว์ เมลดา สุศรี” ที่กำลังศึกษาดูใจกันมาร่วม 5 เดือนแล้ว ซึ่งล่าสุดวันนี้ (3 ก.พ.) ในงานสัมภาษณ์ Press Interview ของละครเรื่องเกมปรารถนา เจ้าตัวก็ได้เผยถึงความสัมพันธ์ครั้งนี้ พร้อมเฉลยให้ฟังว่า ที่ตัดสินใจกัดสีผมครั้งแรกในชีวิต ไม่ได้มีโปรเจกต์ใหม่อะไร แต่เป็นเพราะไม่มีอะไรทำต่างหาก
“ไม่มีครับผม เพราะไม่มีอะไรทำ ถึงต้องไปทำสีผมครับ ช่วงนี้ว่างยังไม่มีเปิดกล้องอะไร ไม่เคยกัดสีผม ก็เลยลองครั้งแรกในชีวิต ทำมาแล้วก็ผมเสียดีครับ แล้วก็จัดทรงง่าย แค่เสียนะ มันก็เปลี่ยนลุคเรา ทำอะไรที่ไม่เคยทำ ก็เปลี่ยนบ้าง มันสนุกดีครับ
ส่วนฟีดแบ็กจากคนรอบข้าง ส่วนใหญ่แล้วผู้ใหญ่จริงๆ จะชอบสีดำมากกว่า แค่ถ้าเพื่อนๆ หรือวัยรุ่นอยู่ก็จะโอเค ไม่มีเรฟเฟอร์เร้นซ์ครับ เราแค่ไปบอกพี่ก้อง Hive Salon ว่าอยากกัดสีผม เขาก็เรียกไปหา แล้วก็เลือกสีนี้ให้เลย จริงๆ มันคือสีเทาครับ แต่ว่ามันเริ่มหลุดแล้ว เป็นสีเหลืองๆ น้ำตาลๆ นิดหนึ่ง หล่อไหม (ยิ้ม) ทำมาตั้งแต่ปีใหม่แล้วครับ”
“โบว์ เมลดา” เป็นคนยุให้กัดสีผม ทำทั้งทีก็สุดๆ ไปเลย
“จริงๆ เล็กจะทำสีเฉยๆ แต่โบว์บอกว่าไหนๆ ทำแล้วก็กัดไปเลย จริงๆ กะกัดแค่รอบสองรอบ เพราะคนขู่ไว้เยอะ ว่ามันแสบนะ แต่ไหนๆ ทำแล้วก็เอาให้สุดไปเลย (เชื่อโบว์?) เขายุยงเราก็โอเค เป็นคนขี้ยุอยู่แล้วไง”
แฮปปี้จัดทริปทะเลหวาน ร่วมกับแก๊งเพื่อน
“ไปแสมสารครับ เป็นทะเล ก็ไปเช้าเย็นกลับ แล้วก็ไปหัวหิน 3 วันครับ ไปกับแก๊งเพื่อนๆ ของเล็ก น้องก็ไปด้วย (พาน้องไปเปิดตัวกับเพื่อน?) จริงๆ ก็พาไปเจอเพื่อนมาหลายรอบแล้วครับ ไปกินข้าว ไม่ใช่ไปเปิดตัวหรอก ทริปนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษครับ ก็สนุกดี น้องเขาเป็นคนที่ตลกร่าเริง เข้ากับทุกคนได้ง่ายอยู่แล้ว ก็แฮปปี้ดี”
แจงเหตุไม่ลงรูปคู่ เพราะไม่อยากให้คนโฟกัสความสัมพันธ์ อยากให้ชื่นชมผลงานมากกว่า แต่ก็ไม่ได้ปิด เวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน
“คือเราแค่ไม่ได้อยากให้คนมาโฟกัสขนาดนั้น เราก็ไปเที่ยวปกติของเรา แล้วเราก็ไม่ได้ไปปิดบัง ว่าเราห้ามให้ใครรู้นะ ว่าเรามาด้วยกัน แค่เราไม่ได้อยากไปประกาศให้โลกรู้ ว่าฉันไปด้วยกันนะ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ได้ปิด เราก็แค่ใช้ชีวิตของเราครับ คืออย่างที่บอก ไม่ได้อยากให้คนมาโฟกัส ในเรื่องของความสัมพันธ์ หรือความรักของน้องมากเท่าไหร่ เพราะเขางานเยอะ
คนชื่นชมพวกเรา อันนี้เป็นสิ่งที่พวกเราขอบคุณมากๆ แต่ก็อยากให้ติดตามและชื่นชมผลงานเราด้วย เป็นแบบนั้นมากกว่า เพราะฉะนั้นเล็กเลยรู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะต้องลงรูป และยังไม่ถึงเวลาที่เราจะต้องประกาศ หรือตะโกนให้ทุกคนรู้ ว่าเราไปด้วยกัน ไม่ได้อยากให้คนมาโฟกัสโมเมนต์ที่เราอยู่ด้วยกันขนาดนั้น เลยไม่ได้ลงรูปคู่ แต่ถามว่าเราถ่ายไหม เรามีถ่ายอยู่แล้วแหละ แต่เราไม่ได้ลง เพราะไม่อยากให้คนมาโฟกัสขนาดนั้น แต่เราก็ไม่ได้ปิดบัง ว่าเราไปไหนมาไหนด้วยกัน
ถามว่าต้องเป็นวันที่สถานะชัดเจนแล้วหรือเปล่าค่อยลงรูปคู่ ก็ไม่รู้เลย จริงๆ คือเมื่อไหร่อยากลง ก็ลงนะ แต่ว่า ณ ตอนนี้ อยากให้โฟกัสที่ผลงานเราเป็นหลักก่อนดีกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่า ตอบแบบนี้คือจะไม่ให้คนไปสนใจเรื่องนี้ มันเป็นไปไม่อยู่แล้ว ก็เข้าใจ อย่างที่บอก เราเองทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตปกติ ไปไหนมาไหนเราก็ไม่ได้ปิดบัง น้องก็ไม่ได้ขอ มันเป็นเรื่องที่เข้าใจกัน ว่าทั้งคู่อยากให้คนโฟกัสที่ผลงานของพวกเรามากกว่า”
ปัดไม่กล้าลง เพราะกลัวกระแสดรามา
“ไม่กลัวเลยครับ เล็กเชื่อว่าเราทั้งคู่ ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ต่อให้มีดรามา มันก็เป็นเรื่องปกติ ที่จะมีคนชอบหรือไม่ชอบ มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทุกวันนี้จากที่เห็น เพราะเราเองก็เข้าไปส่องแฮชแท็กชื่อตัวเองบ้างอยู่แล้ว เวลาเราเห็นคนเข้ามาชื่นชม มาเอ็นดูคู่เรา ก็ขอบคุณมากจริงๆ แต่ว่าอย่าเพิ่งกดดัน ให้พวกเราประกาศ หรือว่าเปิดตัวเลยครับ พวกเราเองยังอยากใช้ชีวิต อยากจะเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ แบบไม่มีความกดดัน คิดว่ามันดีกว่า”
ความสัมพันธ์ดีขึ้นเรื่อยๆ ได้เรียนรู้ในสิ่งที่แฮปปี้และไม่แฮปปี้ของอีกฝ่าย
“ความสัมพันธ์มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ เราเรียนรู้กันมาได้ 4-5 เดือนแล้ว ทุกอย่างมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นสเต็ปของความสัมพันธ์ทั่วไป เหมือนกับของทุกๆ คน มันก็จะมีช่วง ที่เราไม่ได้เรียนรู้แค่นิสัยแล้ว แต่เรียนรู้ชีวิต เรียนรู้ถึงเบื้องลึกของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งมันก็อาจจะไม่ได้สวีตอย่างเดียว ไม่ได้แฮปปี้อย่างเดียว มันมีเรื่องที่เราต้องทำความเข้าใจกันมากขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ดี เล็กรู้สึกว่าเราต้องรู้ทั้งเรื่องที่ดี เรื่องที่แฮปปี้และไม่แฮปปี้ของเขา ตอนนี้มันค่อนข้างไปถึงขั้นที่จริงจังมากขึ้นกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ครับ ตอบไม่ได้หรอก ว่ามันใกล้หรือยัง
ส่วนที่ไม่แฮปปี้มันเป็นเรื่องธรรมดาครับ แค่ในช่วงแรกๆ ของการคุยกัน ทุกอย่างมันจะดูสวยหรูไปหมดแหละ ในความคิดเล็กนะ คนจีบกันใหม่ๆ มันก็มุ้งมิ้งไปหมด แต่ว่าพอถึงจุดหนึ่ง ที่เราจริงจังกับความสัมพันธ์ มันคงไม่ได้มีแค่โมเมนต์มุ้งมิ้งเนอะ มันก็ต้องเรียนรู้ความรู้สึกของอีกฝ่าย เรียนรู้ความคิดความอ่าน ประสบการณ์หรือสิ่งที่เขาเจอมา ทุกๆ อย่างมันต้องเรียนรู้กัน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันก็จะไม่มุ้งมิ้งแล้ว จะเป็นความจริงแล้ว”
ตั้งแต่เริ่มคุยกับ “โบว์” ยังไม่โดนโจมตี มีแต่ประสบการณ์ดีๆ ด้วยกัน
“จริงๆ กับน้องเนี่ย เล็กไม่โดนโจมตีเลยนะ เท่าที่เล็กเสพข่าว เรารู้สึกขอบคุณคุณผู้ชม คุณผู้ดู และแฟนๆ ทุกคนที่สนับสนุนคู่เรา แต่เล็กรู้สึกว่า มันไม่ใช่แค่เล็กหรอก การที่เราโตมาถึงอายุเท่านี้แล้ว เจออะไรต่างๆ มามากมาย เลยรู้สึกว่าการที่เราจะมีใครสักคน หรือการที่คนสองคนจะมาคบกัน มามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มันจะไม่ได้มีแต่ความสวยงาม ทุกอย่างมันคือประสบการณ์ แต่ตอนนี้โชคดีที่เราสองคนยังมีแต่ประสบการณ์ดีๆ ด้วยกัน เล็กก็เลยแฮปปี้ แต่ชีวิตคู่มันยากอยู่แล้วเล็กว่า”
รับกดดัน วาเลนไทน์แรกของความสัมพันธ์นี้
“อันนี้กดดันสุดกว่าทุกคำถามเลย คือเรารู้สึกว่าวันวาเลนไทน์ วันสำคัญเหล่านี้ มันคือวันที่เราจะแสดงความรัก ความปรารถนาดีให้กับอีกคนหนึ่ง วันวาเลนไทน์ วันแม่ วันพ่อ วันเกิด วันอะไรเนี่ย ซึ่งเล็กรู้สึกว่า มันเป็นวันธรรมดาวันหนึ่งแหละ มันก็สำคัญตรงที่เราสามารถแสดงได้เป็นพิเศษ ก็มีแหละ แต่วันนี้วันที่ 3 กดดันมากอันนี้กดดันสุดเลย (แสดงว่ามีคิดๆ ไว้แหละแต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นในรูปแบบไหน?) เรียกว่ายังไม่ลงเอย (หัวเราะ)"
รู้หลายคนจับตา แต่ขออย่าเอาไปเปรียบเทียบกับคู่อื่น
“ก็โฟกัสคู่อื่นด้วยนะครับผม สิ่งที่สำคัญคืออย่าเอาไปเปรียบเทียบกัน มันเป็นเรื่องธรรมดาไง มันต้องมีการเปรียบเทียบ ว่าอุ้ย…คนนั้นทำให้คนนี้แบบนั้น คนนั้นทำให้คนนี้แบบนี้ ทำไมอาเล็กทำแค่นี้อะไรแบบนี้ กดดันมากเลย แต่อยากทำนะไม่ใช่ไม่อยากทำ กดดันแต่ก็อยากทำให้เขาแฮปปี้”
อุบตอบเตรียมอะไรไว้ เพราะกลัวโป๊ะ แต่วันนั้นจะควงไปงานแต่งเพื่อน
“โบว์เขาต้องดูสัมภาษณ์อยู่แล้วไหม ผมบอกก็โป๊ะสิ ถามว่าโบว์เขามีพูดอยากได้อะไรไหม เขาก็ไม่ได้บอกหรอกครับ น้องก็ไม่ได้บอกว่าอยากได้อะไรหรืออยากไปไหน ไม่ได้บอกเลย แต่ว่าวันที่ 14 วันวาเลนไทน์ตรงๆ เรามีแพลนด้วยกันอยู่แล้ว เราไปงานแต่งเพื่อนครับผม แต่ว่ายังไม่ได้แพลนถึงว่า ของเราจะยังไงดี”
ไม่ได้พาไปเปิดตัว เพราะรู้จักกันหมดแล้ว จะออกไปรับช่อดอกไม้ก็ไม่ติด
“ไม่เห็นแปลกเลย คือเล็กพาน้องไปเจอเพื่อนๆ จนตอนนี้โบว์กับแฟนเพื่อนๆ สนิทกันมากกว่าเล็กสนิทกับเพื่อนๆ แล้ว แล้วเดี๋ยวที่ไปงานแต่ง ก็ไปด้วยกันแบบเป็นแก๊ง คือรู้จักกันหมดแล้ว เล็กก็เลยไม่ได้รู้สึกว่า เป็นการเปิดตัวอะไร แค่ไปงานแต่งด้วยกันเฉยๆ เขาไปรับช่อดอกไม้ก็แล้วแต่ คือมันก็เป็นกิจกรรมสนุกๆ ในงานแต่ง ถ้าเกิดอยากเล่นก็ไปเล่น ไปร่วมได้ ไม่ได้ว่าอะไร (ถ้าเกิดรับได้ขึ้นมาเราก็ยุ่งเหมือนกันนะ?) อย่าทำให้ผมกดดันมากกว่านี้ได้ไหม(หัวเราะ)”
ด้วยความที่โตกว่า ก็พยายามให้ “โบว์” ไม่ต้องเจอคำพูดไม่ดี ไม่อยากให้เสียชื่อเสียงเพราะเรื่องแบบนี้
“อันนี้พูดกับพี่ๆ ตรงๆ เลยว่า คือจริงๆ น้องเขาเป็นคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด แค่นี้ไม่เห็นเป็นไร คิดแบบนี้ใช่ไหมแต่ตัวเรารู้สึกว่า เราเจออะไรมาเยอะ เรารู้สึกว่าเราโตกว่าแหละ เรารู้สึกว่ามันต้องรอบคอบมากขึ้น เพราะว่าอีกอย่างหนึ่งน้องเป็นผู้หญิงด้วย แล้วการจะทำอะไรต่างๆ แล้วยิ่งตอนนี้น้องฮอตมาก ขยับตัวที่หนึ่งคนก็สนใจ คือยิ่งอยู่ที่สูง เราไม่อยากให้น้องต้องเจอคำพูดที่ไม่ดี หรือเจออะไรที่ไม่ดีจากในโซเชียล หรือจากคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นอะไรที่รอบคอบได้ อะไรที่เราไม่เสี่ยงได้ เราก็เลือกทำตรงนั้นดีกว่า ก็คอยคุยกันเรื่องพวกนี้ด้วยแหละครับ ต้องคอยระมัดระวัง ไม่ให้ตัวน้องและตัวเรา ต้องมาเสียชื่อเสียงเพราะเรื่องแบบนี้”
“โบว์” ฮอตมาก แต่เป็นหนุ่มคนเดียวที่พิชิตใจ จนมีหนุ่มๆ หลายคนอิจฉา
“ผมว่าผมก็ฮอตเหมือนกันนะ (ยิ้ม) (เราคิดว่าเรามีไม้เด็ดอะไรที่พิชิตใจสาวคนนี้ได้?) ต้องถามโบว์ไหม พิชิตได้แล้วเหรอ ต้องถามน้อง แต่เราจริงใจครับ”
จะไปไหนมาไหน ก็บอกแม่น้องก่อนตลอด บางครั้งแม่ไม่ว่าง ก็พาไปส่งที่กองให้ด้วย
“จริงๆ ก็คือบอกตลอดครับผม อย่างที่พี่ๆ รู้แหละ ว่าน้องจะตัวติดกับคุณแม่ อยู่กับคุณแม่สองคน และเวลาจะไปไหนมาไหน ก่อนหน้านี้ก็คือจะไปด้วยกัน แต่ช่วงนี้เหมือนน้องทำบ้านอยู่ คุณแม่ต้องไปคุมช่างบ่อย แม่จะฝากน้องกับเราบ้าง วันไหนแม่ยุ่งมาก แล้วถ้าวันไหนเล็กว่าง มารับน้องไปส่งที่กองหน่อยได้ไหม ถ้าเราว่างเราก็ไปให้”
แม่ไม่ห่วงอะไรเป็นพิเศษ มีแต่อย่าให้น้องกินเยอะ
"ไม่มีอะไรเป็นพิเศษห่วงสุดก็คงเป็นเรื่องอย่าให้น้องกินเยอะนะ (หัวเราะ) เป็นเรื่องที่แม่พูดบ่อยที่สุดจริงๆ"
ไม่รู้เข้ากับแม่ได้ดีหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย
"ไม่รู้ว่าใช้คำนั้นได้ไหม ก็คือไม่ได้มีปัญหาอะไรครับผม เราเองก็เคารพ แล้วก็ด้วยความที่บางทีก็เกรงใจ เพราะปกติแม่อยู่กับน้องตลอด แล้วเราไปพาน้องออกมา จะไปไหนมาไหนแม่ก็จะรู้ตลอด ไม่ใช่แค่ฝั่งน้อง ฝั่งผมก็ด้วย ไปไหนมาไหนก็บอกพ่อแม่ตลอด”
รับคาดหวังกับความรักครั้งนี้ เพราะโตขึ้นเยอะแล้ว รู้สึกต้องเป็นเซฟโซนให้อีกฝั่งหนึ่งได้
“เราก็ต้องคาดหวังอยู่แล้ว แต่ว่าตัวเราเองก็โตขึ้นเยอะด้วย ความคาดหวังของเรา มันจะมีความโตขึ้นของเรา มาอยู่ในความคาดหวังด้วย เราจะไม่ใช่แค่แบบ…โอ้ยเธอ ฉันรักเธอ เธอรักฉัน วันหนึ่งเธอเลิกกับฉัน ฉันตายสิ แต่เรารักกันเราจูงมือไปด้วยกัน เราต้องมาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เราต้องเป็นเซฟโซนให้อีกฝั่งหนึ่งให้ได้ เรียกรู้สึกว่าการเป็นคู่ชีวิต มันแทบจะต้องเป็นทุกอย่างให้กัน เพราะฉะนั้นมันต้องใช้เวลามาก แล้วความคาดหวัง มันก็คงมีแต่เราทั้งคู่ ต้องมีสติในความสัมพันธ์ครั้งนี้”
มีคิดเรื่องแต่งงาน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ รู้ว่ายังไปได้อีกไกล
“จริงๆ ก็คิดครับ ก่อนหน้านี้คือช่วงที่เล็กโสดก็เคยสัมภาษณ์แบบนี้ แล้วก็เล็กก็พูดว่าเพื่อนทั้งแก๊งเล็กเนี่ย เราเป็นคนเดียวที่ไม่มีใครคุยด้วย พอมาตอนนี้เรามีคนคุยด้วย เพื่อนๆ ก็แต่งงานกันไปจะครบแก๊งแล้ว (หัวเราะ) คือตัวเราเองก็ไม่คิดแหละ เล็กเชื่อว่ามันเป็นวัยเนอะ 32 แล้ว ปีนี้จะ 33 เป็นวัยที่ ถ้าคนที่อยากมีครอบครัว มันก็คงเป็นอะไรที่ต้องคิดแล้ว แต่ว่าก็ยังรู้สึกว่า เรายังไปได้อีกไกลครับ ยังรู้สึกว่ายังไม่ต้องตอนนี้ก็ได้ ไม่รีบ แต่ถามว่าคิดไหมคิดแน่นอน”
เป็นไปได้ก็อยากให้เจ้าสาวเป็นคนนี้ เพราะคบใครก็มองถึงอนาคตอยู่แล้ว
“โอ้โห..เล็กเป็นคนที่เวลาคบใคร เล็กต้องไปถึงแบบนั้นอยู่แล้วไม่เคยคิดว่าจะต้องคนนี้เดี๋ยวก็เลิกไม่เคยคิดแบบนั้น เป็นคนที่คบกับใครก็มองถึงอนาคต”
ชอบที่ “โบว์” เป็นคนน่ารัก ทำให้สดใสกระชุ่มกระชวย ยิ่งรู้จักยิ่งประทับใจ
“น้องเป็นคนน่ารัก ก่อนหน้านี้เราเห็นแต่มุมที่โพซิทีฟมุมน่ารักสดใสของเขา คือก่อนหน้านี้ไปนานๆ ก็รู้สึกว่าเขาทำให้เรากระชุ่มกระชวย สนุกสนานสดใสขึ้น พอเราเห็นมุมอื่น ก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า มันก็มีอีกหลายอย่างที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจ”


