xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) ชมช็อตเด็ด “เจนนี่” เผชิญหน้า “เก้า เกริกพล” คาศาล ต่างฝ่ายต่างขอโทษ ถอนฟ้องกันเรียบร้อย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในที่สุดก็จบแล้ว สำหรับคดีที่ “เก้า เกริกพล เพชรรัตน์” ยื่นฟ้อง “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น”หรือ เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ ในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ เพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอ เพื่อเธอคนเดียว” โดยผลการไกล่เกลี่ยเมื่อปลายปีที่แล้ว ทางด้านของเจนนี่ยืนกรานจะไม่จ่าย 3 ล้าน ตามที่เก้าเรียกร้อง ขอจ่ายแค่ 1 ล้านบาทเท่านั้น พร้อมขอความเห็นใจจากอีกฝ่าย อยากให้คดีจบเพราะตนไม่อยากเครียดเนื่องจากกำลังตั้งครรภ์



ความคืบหน้าวันนี้ (2 ก.พ. 2565) เวลา 09.00 น. เจนนี่ได้เดินทางมาที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ พร้อมกับสามี “ยิว ฉัตรมงคล สมแก้ว”คุณแม่, น้องสาว “ลิลลี่ นารีนาท เชื้อแหลม”และทีมทนายความ เพื่อเข้าไกล่เกลี่ยอีกครั้ง ด้านเก้ามาพร้อม “ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต” ซึ่งวันนี้เป็นครั้งแรกที่เจนนี่และเก้าเผชิญหน้ากัน โดยใช้เวลาในการไกล่เกลี่ยนานเกือบ 8 ชั่วโมง กว่าจะหาข้อสรุปกันได้

งานนี้มีเฮ เพราะทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ เจนนี่ยินดีจ่ายค่าเสียหายให้เก้า แต่ไม่ขอเปิดเผยตัวเลข เนื่องจากเป็นคำสั่งศาลห้ามพูดอะไรที่จะก่อให้เกิดดรามาไม่จบไม่สิ้น ลั่นเป็นตัวเลขที่แฮปปี้ทั้งคู่ พร้อมเล่าวินาทีต่างฝ่ายต่างขอโทษกันไม่ถือโทษโกรธกันแล้ว อนาคตเล็งชวนเก้ามาร่วมงานอีก โดยเก้าสามารถนำเพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอ เพื่อเธอคนเดียว” ไปร้องได้โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ ซึ่งวันนี้ได้มีช็อตเด็ดเกิดขึ้น เมื่อทั้งคู่ต่างยกมือไหว้สวัสดีกันก่อนเดินทางกลับ เป็นภาพที่ทำเอาหลายคนรู้สึกประทับใจไปด้วย ที่ศึกครั้งนี้จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง

เจนนี่ : “วันนี้ก็จบกันด้วยดีเป็นที่เรียบร้อยค่ะ ถอนคดีกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนข้อตกลงไม่ขอลงรายละเอียดลึกๆ แล้ว เพราะไม่อยากต่อความยาวให้เป็นประเด็นกันอีกแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปขอให้มีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นทั้งน้องแล้วก็เจน”

ยิว : “รู้สึกว่าเขาก็พอใจ”

เจนนี่ : “วันนี้ที่คุยกันยาวนานอาจจะเป็นเพราะว่าเป็นครั้งแรกที่เจอกันด้วย ที่ผ่านมาเราไม่ได้คุยกันโดยตรง พอได้มาเจอกัน ทุกอย่างลงตัวไปได้ด้วยดีทั้งคู่ ไม่ได้เจอหน้ากันมาเกือบ 2 ปีเลย ก็ดีใจ คนเคยทำงานมาด้วยกันแล้วเพลงมันประสบความสำเร็จมาถึงขนาดนี้ ก็ได้มาเจอกันนี้ก็ดีใจ ได้คุยกันเป็นการส่วนตัวได้ปรับความเข้าใจกัน อนาคตก็อวยพรกันและกันว่าขอให้มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น (เป็นจำนวนที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกไหม?) ใกล้เคียงค่ะ เป็นที่พึงพอใจสำหรับเราทั้งคู่ค่ะ สบายใจกันทั้งคู่ก็โอเค”

ได้ทั้งเคลียร์คดีและเคลียร์ใจกัน บอกจากนี้เอ็มวีเพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอฯ” จะยังคงอยู่
เจนนี่ : “ต่างคนก็ต่างขอโทษกัน ต่างอวยพรกัน ตอนนี้โล่งใจที่สุด ไม่อยากมีคดีติดตัวแล้ว ไม่อยากต้องมาศาลแล้ว จะ 6 เดือนแล้วด้วย เหนื่อยค่ะ มาวันนี้ก็ตั้งใจเป็นอย่างมากว่าจะเคลียร์ทุกอย่างให้จบวันนี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่คิดไว้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันมีบทเรียนเสมอ เหมือนวันนี้ก็เป็นบทเรียนที่จะทำให้เจนโตขึ้นและพัฒนาตัวเองไปอีกขั้นนึง

ก็ไม่มีอะไรติดใจกันแล้ว สามารถร่วมงานกันได้ มีงานเข้ามาก็ยินดี เพราะว่าเจนก็ชอบทำงานอยู่แล้ว ก็คุยกับน้องว่าถ้ามีงานเข้ามาพี่ก็ยินดีนะ ถ้าทางน้องยินดี ทางเราก็ยินดีมากๆ (เพลงเลิกคุยทั้งอำเภอ ถ้ามีโอกาสจะชวนน้องมาร้องด้วยกันอีกไหม?) ถ้ามีงานเข้ามาก็ยินดี เอ็มวีก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม แค่ชดเชยเรื่องเงิน ตัวเอ็มวีจะยังคงอยู่ จากนี้ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว เราบอบช้ำกันมาทั้งคู่แล้ว ไม่อยากจะพูดถึงตรงนี้กันอีกแล้ว จากนี้ขอให้พูดกันถึงเรื่องอื่น คิดว่าทุกคนคงจะเบื่อหน่ายกับเรื่องนี้กันมากแล้ว”

รับที่ผ่านมาพลาดเรื่องของสัญญา จากนี้จะรอบคอบขึ้น
เจนนี่ : “ก็ต้องโตขึ้นในทุกๆ เรื่อง ทั้งสัญญา เอกสารต่างๆ ตอนนี้กำลังเปิดรับซีซั่นใหม่อยู่ ก็รอดูการแข่งขันว่าจะได้ใครเข้ามาร่วมงาน จากนี้ก็จะดูแลสัญญาให้ดีที่สุด เจนบอกทุกคนเสมอ ใครจะเข้ามาตรงนี้ต้องเคยเห็นเรามาบ้างแล้วแหละว่ามีอะไรเคยเกิดขึ้นบ้าง เขาต้องรับให้ได้ เราเองก็บอกเขาว่าเราจะแก้ไขปรับปรุงในส่วนไหนบ้าง มาดูกันในข้อสัญญา ถ้ารับได้ก็ไปกันต่อ รับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ก็ยอมรับว่าที่ผ่านมาเราพลาดตรงเรื่องเอกสารจริงๆ”

ที่ผ่านมาทุกข์ใจกับเรื่องนี้มาก
เจนนี่ : “มากค่ะ มันหลายอย่าง มันเป็นเรื่องของความรู้สึก เรื่องของโซเชียงต่างๆ งานต่างๆ ก็มีผลไปหมด วันนี้มันก็โล่งขึ้นถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เพราะเราก็เด็กใต้ด้วยกัน”

ทางด้าน “เก้า” และ “ทนายเจมส์” ก็ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนถึงการเจรจาไกล่เกลี่ยในวันนี้ว่า….
ทนายเจมส์ : “วันนี้จบแล้ว เคลียร์ลงตัว ปรับความเข้าใจกันทั้งสองฝ่ายและทุกคนเลย ต่างฝ่ายต่างก็อธิบายความในใจกันว่าเป็นยังไงและเข้าใจซึ่งกันและกัน ยอมยุติโดยที่ทั้งสองฝ่ายสมประโยชน์ทั้งคู่ ส่วนข้อตกลงจบที่ยังไง อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าเปิดรายละเอียดได้ไหม เพราะศาลท่านค่อนข้างกำชับไว้ ที่สามารถพูดได้ก็คือสมประโยชน์ทั้งคู่ จบแบบสวยงาม ได้เคลียร์ใจกัน เรื่องตัวเลขมันก็เป็นปัจจัยนึงแหละที่เข้ามาทำให้คดีมันจบ แต่เปิดเผยไม่ได้ว่าแบบไหนยังไง”

เก้า : “ก็โล่งครับ ได้ทำงานของเราต่อ จบคดีด้วยดี ก็ได้พูดถึงสิ่งที่ไม่เข้าใจกัน ก็โอเคครับ ก็เป็นครั้งแรกที่เจอกัน ผมก็อยากจบนานแล้วครับ ก็จบด้วยดีก็โอเคครับ โล่ง ก็ต่างคนต่างขอโทษกันครับ”

“เก้า” เล่าที่ผ่านมาตนเองก็ถูกคนด่าว่าในประเด็นนี้มาเยอะมากไม่ต่างกับ “เจนนี่” วอนจากนี้หยุดด่ากันได้แล้ว
เก้า : “ก็เยอะเลยครับ ก็โดนด่าโดนอะไรเยอะมาก ก็หลังจากนี้จะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำเพลงอย่างเดียวครับ ถามว่าได้เรียนรู้อะไรบ้าง ก็ได้เยอะเลยครับ เป็นประสบการณ์ที่ใหญ่มากครับ โดยเฉพาะเรื่องของการตกลง (อยากบอกอะไรคนที่ว่าเราไหม?) ตอนนี้ผมก็ไม่อยากจะพูดอะไรเยอะ อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดด่ากัน ขอบคุณท่านผู้พิพากษา ท่านประนอม ผู้ใหญ่ใจดีที่คอยซัปพอร์ตผม แฟนคลับของผม และพี่ๆ ทนายที่คอยช่วยผม ขอบคุณมากครับ ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ หลังจากนี้ผมจะตั้งใจทำผลงานของผมให้ดีที่สุดครับ”

ชี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับศิลปินอิสระ จะทำอะไรร่วมกับใครควรทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจนจะดีที่สุด
ทนายเจมส์ : “ก็เผยแพร่ได้ปกติไม่มีอะไร ไม่ต้องลบครับ เรื่องคดีหลังจากนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว คือจบแล้ว วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะต้องมาที่นี่แล้ว หลังจากนี้ไปก็ไปเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ ส่วนในอนาคตจะมาร่วมงานกันหรือเปล่าก็แล้วแต่ข้อตกลง ซึ่งอาจจะต้องมีลายลักษณ์อักษร ก็ไม่กล้าพูดเดี๋ยวจะมาผิดใจกันอีก วันก่อนพูดอย่างนั้น วันนี้พูดอย่างนี้ พอลายลักษณ์อักษรมันโกหกไม่เป็น เป็นประสบการณ์ของทั้งสองฝ่าย ที่จะต้องรัดกุมให้มากกว่านี้ก่อนที่จะร่วมทำอะไรกัน ไม่ใช่แค่เฉพาะ 2 คนนี้นะ ศิลปินทุกคนในประเทศไทยนี้เลย ถ้าเกิดจะทำอะไรกัน ตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรดีที่สุดนะครับ ดีกว่ามาทะเลาะกันทีหลัง

ค่าชดเชยเรียบร้อยหมดแล้วครับ (น้องเก้าได้แล้ว?) ครับ ไม่มีอะไรติดค้างกันเลย วันนี้ทั้งสองฝ่ายเอาความจริงใจมาคุยกันเลย และเปิดใจกันหมด และจบกันเลย ต้องขอบคุณหลายๆ ฝ่าย ศาล ผู้ประนอม เอฟซีของน้องเก้า ผู้หลักผู้ใหญ่ของน้องเก้าที่ช่วยให้คำปรึกษา”

เก้า : “โอกาสกลับมาร้องเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอฯ ด้วยกัน อันนั้นก็แล้วแต่ครับ ถามว่าผมสนใจไหม ก็ได้หมดครับ”

ทนายเจมส์ : “วันนี้ที่ใช้เวลานานมันติดตรงที่เรื่องลิขสิทธิ์มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เวลาเราพูดแบบนึง ในความหมายของความเข้าใจมันอาจจะคลาดเคลื่อน ก็ปรับจูนกัน เรื่องลิขสิทธิ์มันเป็นเรื่องที่อยู่ในอากาศ เป็นทรัพย์สินทางปัญญา เป็นอะไรที่ยังไม่ค่อยมีบรรทัดฐานเท่าไหร่เกี่ยวกับเรื่องนี้พอการคุยกันมันต้องคุยแบบละเอียดยิบ ตรงนี้ไม่ได้ ตรงนั้นได้ เวลาท่านคุย ท่านคุยทีละฝ่าย คุยกับฝ่ายนี้จบ ออกไปก่อน คุยกับฝ่ายนี้ มันก็เลยทำให้ระยะเวลามีเนิ่นนาน รายละเอียดมันเยอะ”















กำลังโหลดความคิดเห็น