“สมปอง” เผยเตือน “ไพรวัลย์” แล้ว มีปัญหากับใครก็ได้ยกเว้นสื่อ แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง มีความมั่นใจสูง เลยไม่ค่อยฟังใคร แต่ยังไงตนก็ปล่อยให้อีกฝ่ายล้มไม่ได้ เพราะถ้าล้มตนก็ล้มด้วย ยืนยันกับ “มินยง” เป็นแค่เพื่อนกัน แต่ที่แสดงออกทั้งหมดเพราะทำตามแรงยุ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
ยังคงเป็นที่จับตามองอย่างต่อเนื่องสำหรับอดีต พส. ชื่อดังอย่าง “ทิดสมปอง นครไธสง” กับ “ทิดไพรวัลย์ วรรณบุตร” ซึ่งช่วงนี้กลายเป็นเทศกาลดรามาของทิดไพรวัลย์ซะส่วนใหญ่ เลยทำให้รุ่นพี่อย่างสมปองต้องออกโรงตักเตือนกันบ้าง ซึ่งทิดสมปองก็เผยว่าน้องของตนเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองสูง เพราะประสบความสำเร็จมาด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องของ “มินยง คิม” ก็เป็นแค่เพื่อนที่สนิทกัน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
“ไพรวัลย์เป็นคนน่ารักครับ ไพรวัลย์เป็นคนคอลเอาต์ให้กับพระเณร ให้กับคนที่ทุกคนรู้นะครับก็ไม่สามารถที่จะเอ่ยได้มาตลอดอยู่แล้ว เมื่อวันนึงเขาออกมา เขาดูแลแม่เขา ซึ่งเขาก็ดูแลดีมากและเขาดูแลมาตลอดนะครับ ทำงานของเขา เขามีความเป็นตัวเอง เพราะเขาเรียนเก่งมากด้วยตัวเอง เขาประสบความสำเร็จในการไลฟ์ด้วยตัวเขาเอง เขาทำทุกอย่างมาเอง ฉะนั้นเวลาใครบอกอะไรต้องยอมรับว่าเขาจะฟังครึ่งนึง เพราะตอนที่เขากำลังสร้างเนื้อสร้างตัว เขากำลังเรียน ไม่มีใครไปนั่งท่องช่วยเขา เขาทำงาน เขาไลฟ์ ไม่มีใครไปกดกล้อง เตรียมน้ำให้เขาดื่มนอกจากทีมงานเขา
พอวันนึงที่เขาประสบความสำเร็จ แล้วพอมีคนมาบอกนั่นบอกนี่ มันเหมือนพิมรี่พายแหละ อาจารย์ ศาสตราจารย์ นักวิชาการอยากจะสอน ไปต่อคิว เพราะคิวยาวมาก (ทำเสียงเลียนแบบพิมรี่พาย) ไพรวัลย์กับพิมรี่พายอายุเท่ากันครับ เด็กรุ่นนี้เขามีความมั่นใจสูงมาก เพราะเขาประสบความสำเร็จด้วยตัวเขาเอง ฉะนั้นการที่จะเหมือนผมซึ่งผมเป็นคนกลางเก่ากลางใหม่ เราจะฟังผู้ใหญ่เยอะ เราจะฟังทันที หลายอย่างปฏิบัติตามทันที หลายอย่างขอเวลาตรึกตรองนิดนึง
ในขณะที่เด็กรุ่นใหม่เขาจะไม่ฟังไว้ก่อน จนผมไปบอกเขาเมื่อวันก่อนนี่เองว่าไพรวัลย์เราก็ต้องฟังนะ บางอย่างพูดตรงๆ ว่าได้ตังค์น้อย แต่มันได้ออกสื่อ ไปสัมภาษณ์ข่าวไม่ได้ตังค์หรอก แต่มันได้ออกสื่อไง พี่ๆ สื่อมวลชนรักเรา เชียร์เรา อาจจะว่าเราบ้างนิดหน่อยถ้าเราไม่ดี เราไม่น่ารัก เราดื้อ หรือเขาอาจจะได้ข้อมูลไม่ครบ ก็อาจจะมีว่าเรา มันเป็นอารมณ์ของข่าวอยู่แล้ว แต่เราต้องแคร์สื่อ
ผมเคยบอกทีมงานตั้งแต่ออกทีวีใหม่ๆ ตั้งแต่ปี 49-50 ว่าเป็นศัตรูกับใครก็ได้ แต่อย่าเป็นศัตรูกับสื่อ เขายกเราสูงก็ได้ เขาดันเราต่ำก็ได้ เขาเชียร์เราก็ได้ เขาว่าเราก็ได้ ฉะนั้นก็อยากให้น้องให้เกียรติสื่อให้มากๆ และเราโตมาจากโซเชียล โดยเฉพาะน้องมันเป็นยุคโซเชียล ผมยังกึ่งๆ นะ ผมยุควีซีดี ยุคทีวี ยุคไปบรรยายเห็นหน้าเห็นตา ไม่ใช่ยุคไลฟ์แบบนี้ ผมเพิ่งเริ่มมาแจมเมื่อ 3 ก.ย. 2564 กับไพรวัลย์นี่แหละ แล้วก็ทำมาตลอด พอมาทำโซเชียลเราต้องแคร์ลูกเพจ แคร์โซเชียล แคร์คำแนะนำบ้าง ไม่ต้อง 100 หรือ 70-80 เหมือนพี่ แค่ 20-30 เขาก็ชื่นใจแล้วในคำแนะนำของเขา สอนน้องไปวันก่อน ผมเชื่อว่าน้องมันเข้าใจ ส่วนผมก็เข้าใจน้องผมว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้”
บอกทำเพราะโดนแรงยุ แต่จริงๆ ไม่มีอะไร
“แม้กระทั่งเรื่องที่กำลังกุ๊กกิ๊กกัน ผมก็แอบถามแล้วว่าอะไรยังไง ซึ่งผมก็รู้อยู่แล้วว่าอะไรยังไง คือไม่มีอะไรเลย แต่เมื่อคุณอยากให้เป็นอย่างนั้นก็ได้ (ยิ้ม) น้องผมก็จัดให้ ผมรู้นิสัยมัน (หัวเราะ) ไม่มีอะไรหรอก เมื่อคนคิดอย่างนั้นก็จับแก้มซะหน่อย (ยิ้ม) คือมินยงกับผมเหมือนกันเลย ผมกับไพรวัลย์เป็นพี่น้องกันยังไง เขาก็เป็นอย่างนั้นครับ ไม่รู้ว่าผมพูดมากไปหรือเปล่า แต่มันไม่มีอะไรไง
แล้วก็ไม่ได้ไปสร้างภาพว่าเอเจนซี่จ้างมาให้จิ้นกันแล้วก็ขายของ แต่เขาสนิทกันโดยความรู้สึกเพื่อนต่างวัย เพื่อนต่างประเทศ เขาก็แค่เอ็นดูกัน ฉะนั้นเป็นกำลังใจให้กับทุกเรื่อง บางวันน้องโดนชม ผมโดนด่า อาทิตย์ที่แล้วเอง อาทิตย์นี้ผมถูกชมน้องโดนด่า มันโลกธรรมครับ มีลาภ ยศ สรรเสริญ นินทา สุขทุกข์ เขาสรรเสริญเราได้ บางวันเขาอาจจะนินทาเราถ้าเราไม่น่ารัก เขาให้ความสุขเราได้ แต่บางทีเขาอาจจะให้ความทุกข์เรา
เหมือนเราเหมือนกัน เราให้ความสุขเขา แต่บางทีเราดันไปให้ความทุกข์เขาก็มี ฉะนั้นก็ให้กำลังใจ และน้องล้มไม่ได้ครับ เพราะเรามาแพ็กคู่ ถ้าน้องล้มคนก็รอว่าผมจะล้มเมื่อไหร่ ฉะนั้นผมปล่อยให้น้องผมล้มไม่ได้หรอกครับ เพราะว่าขาเราติดกันอยู่ ถึงตอนนี้เราจะแยกไปทำงานกัน แต่ขาเราติดกันอยู่ ฉะนั้นถ้าน้องล้มเดี๋ยวผมจะล้มด้วย ผมไม่ให้น้องผมล้มหรอก ผมก็ดึงน้องผมขึ้นมา ให้กำลังใจครับ ก็รู้กันนะไพรวัลย์ มึงกับกูรู้กัน เรารักกันนั่นแหละ”
