“อู๊ด เป็นต่อ” รับจำต้องขึ้นราคาร้านชาบูในบางสาขา ส่วนที่เหลือตรึงราคา แม้หมูแพง ขอแบกรับภาระไว้เอง ลั่นจากเดิมปิดไปแล้ว 60 สาขา ตอนนี้ตั้งเป้าฟื้นธุรกิจให้ได้กลับคืนมา 30 สาขาในเดือนเม.ย.
หลังจากที่เคยเจ็บหนักกับวิกฤตโควิดทำให้ต้องปิดสาขาร้านชาบู อู๊ด เป็นต่อไปมากถึง 60 สาขา เสียหายเป็นล้าน ล่าสุดวันนี้ “อู๊ด เป็นต่อ” ธีระชาติ ธีระวิทยากุล ได้อัปเดตสถานการณ์ร้านอีกครั้งในช่วงโอมิครอนระบาด รวมทั้งสถานการณ์หมูแพงว่า ยังตรึงราคาขายอยู่ที่ 199 บาท นอกจาก 3-4 สาขาเท่านั้นที่ยอมให้ปรับราคาเป็น 299 เนื่องจากค่าเช่าที่แพง ที่เหลือขอแบกรับภาระไว้เอง
“ตอนนี้ก็โอมิครอน หมูแพง เดี๋ยวเราจะพูดแบบรวมๆ นะพี่น้องครับ สถานการณ์หมูแพงตอนนี้เราตรึงราคาให้กับลูกค้าอยู่ เรายังให้ลูกค้าแฟรนไชส์ขายในราคาปกติ คือราคาเดิมของเราคือ 199 บาท เราจะตรึงราคาให้อยู่แบบนี้ เพราะถ้าหมูแพงไปกว่านี้เราค่อยว่ากันอีกที แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ หมูราคากิโลกรัมละ เกือบ 300 บาท บางร้าน 270 บาท เมื่อก่อนนี้มันอยู่ที่ประมาณ 150-160 ไม่เกินนี้ คือจะขึ้นมากกว่านี้ก็ได้
แต่ด้วยความสมดุลของลูกค้าเรา ของประชาชนมันสมดุลกัน คือจะขึ้นราราแค่ไหนก็ไม่มีปัญหา แต่พอตอนนี้มาขึ้นแบบนี้ปุ๊บ คือเราเป็นห่วงลูกค้าของเรา ที่เขารักเรา เขาสนับสนุนเรา ที่เขายังชอบในรสชาติของเราอยู่ และเราก็ขออนุญาตขึ้นเป็นบางสาขาแค่นั้นเอง
ขอบคุณมากเลยที่ให้พูด จากเดิม 199 ขึ้นเป็น 229 เฉพาะบางสาขานะครับ บางสาขาเท่านั้น หมายถึงสาขาที่เขามีค่าเช่าพื้นที่แพง พนักงานเยอะ ค่าเช่าที่เขาไม่ได้รับส่วนลดอะไรก็แล้วแต่ ด้วยเจ้าของที่และด้วยสัญญา เราก็เลยขออนุญาตขึ้นราคา ซึ่งไม่กี่สาขา แค่ 3-4 สาขาด้วยซ้ำ ที่ขออนุญาตขึ้นตรงนี้ แต่เราก็ขอยืนยันว่า เราขอแบกรับภาระนี้ไว้ แบกจริงๆ ที่แบกนี่ไม่ได้สบายนะครับ ที่แบกตรงนี้ไว้เพื่อที่ให้คนที่มาใช้บริการ มาใช้บริการได้อยู่ ส่วนโควิด ส่วนโอมิครอน เราก็มีมาตรการป้องกัน ผมคิดว่าคนไทยฉลาด คนไทยเป็นคนที่กลัวโรคเหมือนกัน เขาจะออกมาก็เมื่อจะทานอาหาร และหลังๆ พฤติกรรมก็ไม่ได้นั่งแช่ ไม่ได้นั่งแบบทานเสร็จแล้วนั่งคุยกัน ไม่ใช่แล้ว ทานเสร็จปุ๊บใส่มาสก์กลับบ้าน นี่คือที่เราเห็นจะเป็นแบบนี้แล้วครับ”
ต้องขึ้นราคาบางสาขาเพราะถึงที่สุดแล้ว
“คือสุดแล้ว ซึ่งเราก็ประชุมกับเจ้าของสาขาว่า ขออนุญาตขึ้นราคาได้ไหมครับ เพราะค่าเช่าพื้นที่มันแพง บางที่นะ แค่ 300 ตารางเมตร 6-7 หมื่น ต่อเดือน เราก็ให้เขาขึ้น เพราะว่ามันต้องเป็นห่วงเป็นใยกัน อันนี้เฉพาะค่าเช่านะ ไหนจะค่าลูกน้อง ค่าของ ค่านี่ค่านั่น มีนเยอะ เราก็ให้เขาขึ้นราคาบ้าง ให้เขาต่อสู้นิดนึง แต่ไม่ให้ขึ้นเยอะ และหมูที่ใช้คือมันมีหลายเกรดนะ ที่ใช้คือเราคัดสรรแล้ว เราไม่ได้ซื้อตามซูเปอร์มาร์เก็ตซึ่งไม่รู้ว่าเขาเก็บมากี่วันแล้ว เราออกจากฟาร์มก็ไปส่งเลย”
บอกจากปิดไปแล้ว 60 สาขา แต่ตอนนี้ตั้งเป้าให้ได้ 30 สาขา
“ถามว่าหมูเพียงพอไหม ตอนนี้ก็เพียงพอนะ เพราะทุกวันนี้เราใช้หมูอาทิตย์หนึ่งประมาณ 2-3 ตัน เราไม่ได้ซื้อทีละ 10-20 กิโล เราใช้อาทิตย์หนึ่ง 4 ตัน เผื่อเหลือเผื่อขาด บางทีก็ของขาด แต่เขาก็ไปหามาให้ แต่ต้องคัดคุณภาพอย่างเดิม เหมือนเดิม ผมอยากให้รสชาติเหมือนเดิม ความสะอาดเหมือนเดิม การบริการเหมือนเดิมที่เราตั้งเป้าไว้ ถึงแม้จะปิดไปแล้ว 60 สาขา ณ ตอนนั้น พอประกาศล่าสุดก็มีคนอยากเปิด เราก็เปิดมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ได้ 25 สาขา ถ้าเมษายนนี้ ไม่มีอะไรอีก ก็จะให้ได้ 30 สาขา จะสู้ไปเรื่อยๆ ครับ
ตอนนี้เหลือทั้งหมด 25 สาขา แต่จะพยายามให้เป็น 30 สาขาในช่วงเมษายนนี้ แล้วเดี๋ยวดูว่าจะได้เท่าไหร่ ถ้ารู้สึกว่าเราสู้ไม่ไหว พื้นที่มีความเสี่ยง เป็นพื้นที่สีแดง เป็นพื้นที่มีคนติดเชื้อ อันนี้เราก็ต้องยอมปิด เพราะถ้าเปิดไปแล้วไม่มีคนเข้าอยู่ดี เราจะต้องตัดทีละส่วนที่เป็นปัญหา ที่มีปัญหา มีโรคที่แก้ไขไม่ได้ เราก็ปิด”
ร้านที่ปรับราคาแฮปปี้ ลูกค้าเข้าใจ ขอบคุณทุกกำลังใจทำให้มีแรงสู้
“ทุกคนเหมือนเดิม ทุกคนแฮปปี้ ทุกคนส่งข้อความมาให้กำลังใจ ไม่ว่าจะเป็นแฟนเป็นต่อ หรือแฟนอู๊ดโดยตรง หรือแฟนคลับของร้านชาบูก็ดี อันนี้ถึงจริงๆ กำลังใจส่งถึงเรา ทำให้เรารู้สึกว่ามีแรงต่อสู้ มีแรงทำงานในสิ่งที่เราได้ทำต่อไป ลูกค้าเข้าใจ และยังใช้บริการเหมือนเดิม ที่น่ารักก็คือ มีการเตรียมตัว มีการสวมมาสก์ มีแอลกอฮอล์มาเอง ถ้ามาเป็นครอบครัว ก็จะรีบไปนั่งรีบสั่งรีบทาน ก็รีบกลับครับ
ถามว่าถ้าหมูลดราคาเราจะปรับราคาลงไหม เราจะพยายามให้ปรับลง แต่ตอนนี้เราก็ทำราคากลางๆ เอาไว้นะ เราตรึงเอาไว้เพื่อที่จะให้อยู่ 199 ก็มีบางสาขานะ ถ้าหมูลงจริงๆ ก็ค่อยว่ากันอีกที เราอาจจะมีการปรับลงตาม หรือถ้าไม่ปรับ เราอาจจะหาวัตถุดิบอื่น เช่นพวกทะเล เนื้อสัตว์นอกมาเติมให้ มาเสริมให้ ถ้าไม่ปรับนะ แต่ถ้ามีการปรับเราจะแจ้งให้ทราบอีกที แต่ถ้าลงปรับให้แน่นอนครับ”
