xs
xsm
sm
md
lg

“เคลลี่” รับคลั่งรัก “พลอย” ไม่เร็วไปศึกษาดูใจ 2-3 เดือนเปิดตัว รับเคยคิดชีวิตนี้อาจไม่เจอใครอีกแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เคลลี่” ยืดอกรับคลั่งรัก “พลอย” หลานสาว “แซม ยุรนันท์” ไม่เร็วไปเปิดตัว ศึกษาดูใจกันได้ 2-3 เดือนแล้ว รับเคยคิดชีวิตนี้อาจไม่เจอใครที่ถูกใจอีกแล้ว โวรักครั้งนี้ทำให้ชีวิตตนกลับมาเป็นเด็ก น้อยใจอยู่วงการบันเทิงมา 20 ปี มีแฟน 4 คน กลับถูกมองเป็นคนเจ้าชู้

ออกตัวเป็นหนุ่มคลั่งรักคนใหม่ของวงการบันเทิงแล้วสำหรับ “เคลลี่ ธนะพัฒน์” ที่ล่าสุดเปิดตัวคบ “พลอยไพลิน ภมรมนตรี” หลานสาวของ “แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี” โดยเคลลี่ได้เปิดใจถึงความรักครั้งนี้กับทางรายการคุยแซ่บShow ทางช่อง วัน31 ว่าโสดมาเวลา 1 ปีกว่าตอนนี้มูฟออน พร้อมมีรักใหม่แล้ว

“ตอนนี้ผมแฮปปี้ครับ สบายใจ ช่วงนี้มีความสุข หลายๆ เรื่องเราก็สบายใจขึ้น ในชีวิตผ่านทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดีมาเยอะ ช่วงนี้เรารู้สึกว่าเราสบายใจแล้วเริ่มมีความสุข ถือว่ามูฟออนได้แล้วครับ (ไปทะเลมา?) เราเป็นคนทำอะไรไม่เคยปิดอยู่แล้ว อะไรใช่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ภาพแรกที่เห็นที่ร้านกาแฟไปทั้งทำงานและเที่ยว ในไอจีเราลงอะไรที่เป็นไลฟ์สไตล์เรา ในสิ่งที่เราแฮปปี้ แต่ผมไม่ได้คิดว่ามันจะไวรัลขนาดนี้ ไม่ได้คิดว่าเพื่อนจะเข้ามาแซวขนาดนี้ ก็น่ารักดี วันนั้นไปนั่งทานกาแฟ เห็นรูปมันน่ารักดี ผมก็เลยลงไป”

น้อยใจอยู่วงการบันเทิง 20 ปี ที่ผ่านมามีแฟน 4 คน กลับถูกมองเป็นคนเจ้าชู้
“เปิดตัวไหม ก็อย่างที่บอกในระดับนึง อะไรที่ผมลงในไอจีแล้วมันคือสิ่งที่เราสบายใจ เราแฮปปี้กับตรงนี้ ผมเป็นคนทำอะไรค่อนข้างเต็มที่ จริงจังไม่ว่าเรื่องของงานหรือเรื่องของความรัก ในด้านของความรักเราทั้งจริงจังและจริงใจ ในครั้งนี้ก็เหมือนกัน ที่ผ่านมาอาจจะผิดพลาดไปบ้าง เวลาทำอะไรทุกวันนี้ เวลาเปิดใจให้ใครมันต้องคิดหนัก มันยากมันไม่ได้ง่าย ที่ผ่านมาก็มีบ้างที่คนมองเราในภาพลบว่าเป็นคนเจ้าชู้ แต่ที่ผ่านมา 20 ปี มีแฟน 4 คน ทุกครั้งที่เราคบกับใครถ้าถามผมก็ตอบ ถ้าคนไหนที่เราคิดว่าเราเปิดใจให้ ผมก็จะบอกว่าใช่ ถามว่าครั้งนี้เปิดใจไหม ใช่ครับ ช่วงนี้กำลังเรียนรู้กัน

ก็มีน้อยใจบ้างนะที่ถูกมองแบบนี้ แต่มันก็ผ่านตรงนั้นไปแล้ว มันชินในระดับนึง แต่มันก็มีอยู่ถ้าบางทีใครพูดแรง เฮ้ย...คุณยังไม่รู้จักผมเลย ผมอยู่ในวงการมา 20 กว่าปี ข่าวก็เห็นมาก็รู้ว่าผมเป็นคนยังไง แต่ยังมาว่าเรา มาด่าเราว่าเราเป็นคนเจ้าชู้ ไม่จริงใจกับใคร เราก็เสียใจนะ เราอยู่ในที่แจ้ง เราเป็นคนสาธารณะมา 20 กว่าปี ชีวิตเราแทบไม่ได้มีความเป็นส่วนตัวเลย ดูจากข่าวที่ผ่านมาก็ได้ ก็จะเห็นเองว่าเราเป็นคนยังไง”

ไม่เร็วไปเปิดตัวคบ “พลอย” รับเคยคิดชีวิตนี้อาจไม่เจอใครอีกก็ได้ที่ถูกใจ บอกอีกฝ่ายต้องปรับตัวเพราะอาจจะยังไม่ชินกับการเป็นข่าว
“เราจะคุยกับใคร คบกับใครเราต้องให้เกียรติเขา เรื่องของเร็วไปไหม ต้องบอกว่าเรื่องที่เราจะเจอใครไม่ได้เป็นสิ่งที่เรากำหนดได้ว่าวันนี้ พรุ่งนี้ ก็เคยคิดนะชีวิตนี้อาจจะไม่เจอใครอีกก็ได้ ที่เราคิดว่าเราจะถูกใจ แต่ในเมื่อเราคบคนที่เราสบายใจ เรารู้สึกดีที่เราคุยด้วย อยู่ด้วย ผมว่ามันไม่ได้มีคำว่าเร็วไป แต่นี่ก็ประมาณปีกว่าๆ แล้ว

ตัวพลอยเองเขาอาจจะมีอะไรบางอย่างที่เขายังไม่ชิน อย่างการลงรูป แค่ลงรูปเดียวมันก็เป็นข่าว เป็นประเด็น อาจจะที่เขาเป็นคนนอกวงการ อาจจะไม่ชินเรื่องของการเสียความเป็นส่วนตัว คือเขายังมีความเป็นส่วนตัวสูง ที่เราคุยกันและรู้สึกดีคือต่างคนก็โตที่ต่างประเทศ ตัวพลอยเองก็ทำงานต่างประเทศมา ใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกมากกว่าในประเทศไทย แต่พอมาตรงนี้ การลงรูป บางทีผมก็ลืมตัวนะว่าเราเป็นคนที่เขาจับตามอง บางทีลงรูปไป เอ้า...ทำไมมันเป็นประเด็นขึ้นมา”

ชีวิตกลับมาแฮปปี้ เหมือนได้ย้อนวัยไปเป็นเด็กอีกครั้ง
“ช่วงนี้มีคนแซวว่าทำไมเดี๋ยวนี้ตื่นเช้าจัง คือปกติตื่นมาทำงาน ไปกองถ่าย ยิ่งตอนโควิดนี้เราอยู่บ้าน บางทีเรานั่งอยู่ที่บ้าน ดูหนังบ้าง สังสรรค์กับเพื่อนบ้าง จะตื่นเมื่อไหร่ก็ได้แต่ช่วงนี้กลายเป็นคนตื่นเช้า เนื่องจากเขาทำงานประจำ เรื่องของเวลามันจะต่างกัน ก็เจอกันตอนเช้าไปนั่งทานกาแฟก่อนเขาเข้างาน เหมือนชีวิตย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กๆ นิดนึงนะ”

บอกตอนแรกไม่รู้ว่า “พลอย” เป็นหลานสาวของ “แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี” พร้อมเล่าจุดเริ่มต้นของการมาเจอกัน คุยภาษาอังกฤษทำให้คลิกกันง่ายขึ้น
“ตอนที่เจอกันแรกๆ ก็ไม่รู้นะ แต่พอทราบแล้วก็ไปเจอพี่แซมที่ภูเก็ต เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร พี่แซมมีศักดิ์เป็นอาของพลอย ผมกับพลอยเป็นเพื่อนของกลุ่มเพื่อนผมอีกที ไปเจอกันในงานวันเกิดของเพื่อน น่าจะเป็น 2 คนที่โสดอยู่ในงาน เพราะคนอื่นก็จะแต่งงานกันหมดแล้ว คือตอนแรกยังไม่ถือว่าปิ๊งกัน แค่นั่งคุยกัน ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้คิดถึงขั้นว่าจะจีบคนนี้

หลังจากงานนั้นก็ได้มีการคุยกันผ่านไลน์บ้าง คือเพื่อนผมจัดงานวันเกิด แล้วจัดหลายวันก็ต้องไปเจอกันต่อ แล้วก็ได้ไปเจอกันอีกครั้ง ได้นั่งทานกาแฟ พอคุยมีความรู้สึกว่าอย่างแรกเลย เราคุยกับเขาเป็นภาษาอังกฤษ คือเราโตเมืองนอกมา ตอนกลับมาเมืองไทย ภาษาไทยเราก็ไม่แข็งแรง พอเราได้พูดภาษาอังกฤษก็รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่เราสบายใจ ความคิดการพูดมันก็จะอีกแบบนึง เวลาที่เราสื่อสารกันมันเหมือนอะไรที่มันคอนเน็กกันมากกว่าในการที่เราได้ใช้ภาษาอังกฤษบางทีเราพูดภาษาไทย ผมอยากพูดแบบนี้ แต่ผมนึกคำไม่ได้ ใช้คำที่มันผิด แต่ภาษาอังกฤษเราเข้าใจเลยว่าความหมายอย่างนี้”

อายุห่างกัน 10 ปี แม้จะโตเมืองนอกแต่มีความเป็นไทยสูง
“เขาเป็นคนเก่งมากเลยครับ เขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้จัดการ เขาเป็น GM ในยุโรปดูแลของสายการบินไทยในหลายประเทศ แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำสายการบินแล้วครับ มาทำงานกับอีกบริษัทนึงในกรุงเทพฯ ครับ เราอายุห่างกัน 10 ปี เขาเป็นคนน่ารักมากคือเขาโตต่างประเทศ แต่เขาก็มีความเป็นไทยมาก เรื่องการดูแลเอาใจใส่รายละเอียดต่างๆ เขามีความเป็นไทยสูงมาก แม้จะโตต่างประเทศที่บ้านเขาก็เลี้ยงเหมือนคนไทย”

ตอนนี้อยู่ในขั้นศึกษาดูใจกัน รับความรักครั้งนี้ทำตนคลั่งรัก
“2-3 เดือนครับ เป็นช่วงที่กำลังศึกษากันอยู่ เราเคยผิดพลาดมาแล้ว บางทีเราก็ไม่อยากออกมาพูดอะไรมากเราไม่อยากผิดพลาดไปอีก หรือทำให้อีกฝ่ายเกิดความเสียหายขึ้นมา ทุกวันนี้เราก็ต้องปรับ ต่างคนก็ต่างเกิดกันต่างครอบครัว ประสบการณ์ก็ต่างกัน เราเจอกันก็ต้องมีการจูน การปรับตัวเข้าหากัน เราผ่านประสบการณ์เรื่องความรักมาแล้วอะไรที่เราเคยผิดพลาด เราก็ต้องแก้ไข ก็ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป

เรื่องความรักเป็นเรื่องสำคัญนะครับ ถึงบอกว่าเวลาเรามีความรักครั้งนึง ผมจริงจังมาก แล้วถ้ามีความรักแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดหรือมีการผิดพลาดก็เสียใจมากเช่นกัน ผมอาจจะไม่ใช่วัยรุ่นเลยอาจจะไม่ค่อยเข้าใจศัพท์ แต่ถ้าถามว่าจริงจังกับความรักไหมก็เป็นนะครับ เวลาเราอินเลิฟกับใคร เราก็จะนึกถึงเขาตลอด เขาจะลอยมาในความคิดเราตลอด ความรักผมรู้สึกว่าครั้งนี้ผมคลั่งรักมาก”













กำลังโหลดความคิดเห็น