xs
xsm
sm
md
lg

“เฟี้ยว์ฟ้าว” ลั่น! เทวดาช่วย คืนเงินลูกทัวร์ทันก่อนถูกลูกทัวร์ฟ้อง เดินหน้าฟ้องอดีตผจก. เรียกเงินหลักล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เฟี้ยว์ฟ้าว” เปิดใจล้มทัวร์ แถมฟ้องหมิ่นอดีตผู้จัดการ เรียกเงินหลักล้าน ขอบคุณเทวดาช่วย คืนเงินลูกทัวร์ทันก่อนถูกลูกทัวร์ฟ้อง หลังถูกคู่กรณีใส่ร้ายป้ายสีทำให้เสียชื่อ แถมไล่คู่กรณีให้ไปศึกษาพรหมวิหาร 4

ทำเอานักแสดงสาว “อิม อชิตะ สิกขมานา”หรือ “เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้”ถึงกับเดือดขั้นสุด หลังโดนอดีตผู้จัดการส่วนตัวที่ทำงานร่วมกันมา 5 ปี หักหลังแอบฉ้อโกงเงินค่าทำทัวร์ของบริษัทอิม เป็นจำนวนเงินสูงถึงหลักล้านบาท ทั้งยังใส่ร้ายป้ายสีทำให้เจ้าตัวเสื่อมเสียชื่อเสียง

ล่าสุด เวลา 11.00 น. วันนี้ (26 ม.ค.2565) อิมพร้อมด้วยทนายความส่วนตัว “นายรัชพล ศิริสาคร”หอบหลักฐานเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขน เพื่อให้ดำเนินคดีกับอีกฝ่าย โดยอิมประกาศจะฟ้องหมิ่นประมาท และเรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 7 หลัก

อิม : “จริงๆ เหตุการณ์นี้มันเกิดจากเมื่อคราวที่แล้ว เราก็พยายามที่จะเงียบตลอด กับอดีตผู้จัดการเก่า ที่เขาทำเรื่องไว้ ทีนี้เราก็เลยพยายามที่จะนิ่งและเงียบ เพื่อให้เขากลับตัวกลับใจและคิดได้ ในความคิดของหนู เขายังคิดไม่ได้ เขายังไปยุยงปลุกปั่น ให้ลูกค้า ลูกทัวร์ อาจจะได้รับความเสียหาย รวมทั้งตัวหนูด้วย คือต้องย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เราได้ทำทัวร์พม่า แล้วคนบริสุทธิ์อย่างลูกทัวร์เยอะมาก ประมาณ 3 บัส เราได้นำเงินของลูกทัวร์ทั้งหมด ไปนำแจกจ่ายให้กับเอเจนซี่ แล้วก็อดีตผู้จัดการ ให้เขาไปดำเนินการ เขาก็จะนำเงินของเราทุกบาททุกสตางค์เรา ไปแจกจ่ายดำเนินการทำทัวร์

แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันมาก่อน คือสถานการณ์โควิดในตอนนั้น มันเป็นครั้งแรกของโลก มันเกิดขึ้นก่อนที่เราจะบินไป 3 วัน ทีนี้ค่าใช้จ่ายมันจ่ายตามแลนด์ของประเทศพม่าแล้ว จ่ายเอเจนซี่แล้ว ทีนี้เราเลยประกาศเลื่อนเมื่อสถานการณ์โควิดดีเมื่อไหร่ เราจะพร้อมบิน ต่อมาเราก็ได้เห็นข่าว ว่าสายการบินจะทยอยคืนเงินให้ หนูก็เลยถามอดีตผู้จัดการ ว่าพี่ได้เงินจากสายการบินคืนหรือยัง เขาก็บอกกล่าวกับหนูว่ายังไม่ได้คืน

หลังจากนั้นผ่านมา 2 ปี เข้าเดือนกันยายน มีลูกค้ารายหนึ่ง ที่ไม่เกี่ยวกับทัวร์ ที่จ้างหนูทำงานอีกงานหนึ่ง ได้โทร.มาคุยกับหนู ว่าน้องอิมพี่โอนเงินให้กับหนูแล้วนะ ทำไมน้องอิมไม่มาทำงานให้กับพี่ หนูเลยตอบกลับไปว่า หนูได้เงินแค่เพียงบางส่วนอยู่เลย เขาก็บอกว่าพี่โอนให้ผู้จัดการน้องอิมครบแล้วนะคะ เราก็คุยเล่นกันว่าไม่จริงหรอก เราก็เลยอึ้งว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเลยส่งหลักฐานมา ในการโอนเงินให้กับอดีตผู้จัดการหนู ประมาณ 7 หลักได้ค่ะ ซึ่งสิ่งนี้หนูได้รับไม่เท่าไหร่ หนูเลยเกิดความคิดกับเขาในใจ เพราะคิดเสมอว่าเขาเป็นคนในครอบครัว คือมีความไว้ใจมากๆ เพราะร่วมงานกับหนูมา 5 ปี

ขอเล่าก่อนว่าการทำงานกับหนู หนูจะให้เขาสาบานเสมอ ว่าเขาต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตในการทำงาน หนูเลยไว้ใจเขาร้อยเปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นพอลูกค้าส่งรายละเอียดการโอนเงินมา เราเลยเริ่มรู้สึกว่า เขามีพิรุธแล้ว สิ่งที่เราคิดว่าเขาซื่อสัตย์ อาจจะไม่ใช่แล้ว เราเลยไปรื้อเอกสารทัวร์ โทร.ไปหาเอเจนซี่ แล้วเอเจนซี่ก็ร่วมมือกับเขาอีก ในการทำสิ่งที่ไม่โอเค แต่ในความเชื่อของหนู หนูก็คิดว่าเขาหลอกหนู เลยเอารหัสการจองบุ๊กกิ้ง โทร.ไปที่สายการบิน

สิ่งที่หนูตกใจมากๆ คือเงินได้ทำการคืนตั้งแต่เดือนมีนาคม เมื่อ 2 ปีที่แล้วแล้ว สรุปได้ว่าเงินทั้งหมด อยู่ที่อดีตผู้จัดการ แล้วหนูเชื่อว่าเขาหลอกหนูมาตลอด หลอกผู้บริสุทธิ์ที่เป็นลูกทัวร์ด้วย หนูก็เลยไม่ได้แล้ว เรื่องใหญ่แล้ว ก็เลยแจ้งความ พอแจ้งความเอาเอกสารหลักฐานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการจองสายการบิน ที่ชี้นำว่าเข้าข่ายในสิ่งที่เขากระทำไว้ หลังจากนั้นเอเจนซี่ ก็แสดงสปิริตที่ดีมาก ยอมรับว่าได้ร่วมกับเขา ในการที่ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยการเอาเงินไปอยู่ที่เขามานานมาก

ทีนี้หนูต้องการที่จะเคลียร์กับลูกทัวร์ หนูก็เลยติดต่อไปที่แลนด์พม่า ขอเงินคืนเพื่อจะเอาเงินมาคืนลูกทัวร์ ตามกฎต่างๆ ที่การท่องเที่ยวกำหนดไว้ ซึ่งจริงๆ ตามกฎท่องเที่ยว มีอยู่ว่าถ้ายกเลิกให้คืนเงินทั้งหมด ทีนี้เลยเราก็เลยบอกว่าอดีตผู้จัดการ ได้เอาเงินมาคืนแล้วต่อหน้าตำรวจ สารภาพผิดแล้ว หลังจากวันนั้นเราก็ติดต่อแลนด์พม่า เพื่อที่จะได้เงินเพิ่ม เอามาแจกจ่ายลูกทัวร์หารเท่าๆ กัน ในส่วนที่ยุติธรรมที่สุด แต่ด้วยการเมืองและสถานการณ์โควิดของพม่าทำให้ติดต่อค่อนข้างยาก แต่เขาก็เป็นมิตรที่ดีกับเรา เขาพยายามช่วย คือเงินจริงๆ ของพม่าเนี่ยได้แจกจ่ายโรมแรมแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวแล้ว

ซึ่งพม่าเขาก็เอาเงินส่วนตัวของเขา ให้เรามาอีก 20,000 บาท ด้วยความเอ็นดูอิม แต่พฤติกรรมของอดีตผู้จัดการ ได้แอบขโมยเงินของอิม ไปคืนลูกทัวร์บางท่านซึ่งเป็นพฤติกรรมที่มันไม่โอเค จริงๆ แล้วมันต้องหารกันทุกๆ คน ทีนี้เราทำการคืนเงิน 30 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่ได้รับเงินจากที่อดีตผู้จัดการคืนมา แต่ว่าเอเจนซี่เรายังไม่ได้คืนนะ อิมก็เอาเงินส่วนตัวทั้งหมดของอิมนี่แหละค่ะ อัดให้เต็มเลย เพื่อมาเติมเต็ม

แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝัน คนที่เขาก่อเรื่อง คืออดีตผู้จัดการ ได้รวมกลุ่มลูกทัวร์ แล้วก็ใส่ร้ายป้ายสีอิม เป็นศัพท์ที่รุนแรงกับชีวิตอิมมากๆ ทีนี้เหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย เพราะอิมได้คุยกับพี่ชายว่าจะล้มทัวร์นี้ แล้วเราจะคืนเงินให้กับทุกคน อิมก็ว่าดี เพราะดูแล้วสถานการณ์โควิดน่าจะอีกนาน ลูกทัวร์จะได้เอาเงินไปใช้ในชีวิตของเขา เขาจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น เราก็โอเค และพยายามที่จะดึงลูกทัวร์เข้ามาในกลุ่ม

ซึ่งเอกสารที่เราได้มาจากอดีตผู้จัดการ เป็นเอกสารที่ปลอมแปลง ทำให้เรารู้ชื่อค่อนข้างยาก แต่ก็มีลูกทัวร์บางท่าน ที่เราคืนให้ 30 เปอร์เซ็นต์ เราถามเขาว่ารู้จักลูกทัวร์คนอื่นๆ อีกไหม ช่วยดึงเข้ามาในกลุ่มหน่อย เพราะเราจะทำการคืนเงิน พอรวบรวมกลุ่ม เราก็ได้ชี้แจงว่าเราจะคืนเงินให้ แต่กลับกลายเป็นว่า ลูกทัวร์บางท่านได้ใช้ถ้อยคำที่รุนแรงกับหนู หนูเลยคุยกับพี่ชาย ว่าเขาไม่สงสารหนูเหรอ อิมเป็นตัวสู้ให้เขา อิมปกป้องเขา กับสิ่งที่อดีตผู้จัดการทำมา แต่มันก็คือศักยภาพของหนูอยู่แล้ว เพราะหนูคือเจ้าของทัวร์ แต่ความในใจ คือเราอยากให้ลูกทัวร์เข้าใจหนูบ้าง

หลังจากนั้นลูกทัวร์ ก็มีทะเลาะกันในไลน์กลุ่ม เราจึงต้องอธิบายเรื่องราวความเป็นจริงทั้งหมดให้ฟัง ลูกทัวร์เลยเอ็นดูหนูและเริ่มเข้าใจ เราก็เลยทำการคืนเงินให้ทุกๆ คน ด้วยความยุติธรรม ทั้งๆ ที่เงินของเอเจนซี่ยังไม่ได้คืน เพิ่งได้คืนเมื่อ 4-5 วันนี้เอง หนูเอาเงินส่วนตัวหนู ใส่อัดทับเพื่อให้เขาจบ ให้เขามีชีวิตที่ดี แล้วมันก็เป็นสปิริตของหนูด้วย ทีนี้ลูกทัวร์บางท่านเลยมาคุยกับอิม บอกว่ารู้ไหม ทำไมตอนแรกเราไม่เข้าใจคุณอิม ทำไมถึงมองคุณอิมไม่โอเค เพราะว่าอดีตผู้จัดการหนู ได้ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องมากๆ สิ่งที่เขาก่อขึ้นมา คือรุนแรงกับผู้บริสุทธิ์ 100 กว่าคน กับหนูและครอบครัวหนูอีก

ซึ่งแฟนคลับและลูกทัวร์ ได้ส่งหลักฐานมาให้หนู กับสิ่งที่เขายั่วยุปลุกปั่น ใส่ร้ายป้ายสี ทำให้หนูถูกมองไม่ดี หลังจากนั้นเราก็คุยกันด้วยดีค่ะ ลูกทัวร์ก็ส่งหลักฐานมาให้หนูด้วยความสงสาร บอกว่าคุณอิมโดนเยอะจริงๆ เนอะ เขาก็ขอโทษนะ ที่ตอนแรกมองเราไม่ดี พอเราได้ส่งหลักฐานเอกสาร เรื่องที่เขายอมรับในคดีความที่เราล้มให้เขา เพราะเราอยากให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น อยากให้เขาคิดได้ แต่เขาคิดไม่ได้จริงๆ ค่ะ

เมื่อ 4-5 วันก่อน อดีตผู้จัดการยังได้โทร.ไปหาลูกค้าหนู ใส่ร้ายป้ายสีหนู แต่งเติมถ้อยคำให้หนูดูแย่ ทั้งๆ ที่หนูไม่ได้กระทำ ซึ่งหลักฐานทุกอย่าง หนูโกหกไม่ได้อยู่แล้วเพราะเป็นหลักฐานตราครุฑ วันนี้เลยจะมาเรียกร้องความเป็นธรรมกับชีวิตหนูบ้าง ที่ผ่านมาให้อภัยเขามาตลอด เงียบมาตลอด โดนมาตลอด มีการคอมเมนต์ในโซเชียล ที่เกี่ยวกับเรื่องทัวร์ เราก็พยายามที่จะเงียบ และคุยหลังบ้านให้ดีที่สุด เพราะไม่อยากให้อดีตผู้จัดการมีเรื่องมีราว อยากให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น

แต่เมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมา เขายังคิดไม่ได้ สิ่งที่เขากระทำมันผิดค่ะ ต้องเกริ่นก่อนนะคะว่าอิมทำงานในวงการบันเทิง อยู่เบื้องหน้า พิธีกร งานแสดง โฆษณา พรีเซ็นเตอร์ และเบื้องหลัง การผลิตรายการ ผลิตงานโฆษณา ออกแบบผลิตภัณฑ์ ทำทัวร์ และตอนนี้มีโปรเจกต์ที่กำลังจะผลิตหนังอีก สิ่งที่เขาเอาอิมไปพูดแบบนี้ มันทำลายชื่อเสียงที่อิมสะสมมา โดยถ้อยคำที่เขาแต่งเติม ที่ไม่เป็นความจริง ทำให้อิมเสื่อมเสียในธุรกิจอีกหลายๆ อย่างในชีวิต และเสื่อมเสียชื่อเสียงในวงการบันเทิงอีกด้วยค่ะ

ส่วนเรื่องนี้มีผู้ใหญ่คนหนึ่ง หนูต้องขอบคุณมากๆ เลย คนนี้ตอนแรกหนูกลัวมากเลย หนูไม่กล้าที่จะโทร.คุยกับเขา เพราะหนูเกรงใจ แต่ก็อยากแสดงความบริสุทธิ์ เลยตัดสินใจโทร.ไปหาผู้ใหญ่คนหนึ่ง คนนี้คือสำคัญจริงๆ ค่ะ สำคัญมากๆ ทำให้หนูได้หลักฐานมา อดีตผู้จัดการคนนี้ ได้ไปพูดใส่ร้ายหนู ให้กับผู้ใหญ่คนนี้ฟัง ผู้ใหญ่คนนี้ก็บอกว่าพี่ผ่านอะไรมาเยอะพี่รู้ถ้าคนคนหนึ่งเคยเป็นลูกจ้าง ที่เคยอยู่ด้วยกัน รักเหมือนพี่เหมือนน้อง แต่พอออกมาแล้วเอาเจ้านายมานินทาว่าร้าย พี่โตบอก ว่าพี่ควรจะเลือกฟังใคร แล้วเขาก็เลยสงสารหนู บอกว่าอิมสบายใจได้พี่โตพอ เขาก็เลยเอาหลักฐานอันหนึ่งมาให้อิมอีก มันเลยทำให้หลักฐานของหนูที่อยู่ในมือตอนนี้ แข็งมากๆ เลย”

วันนี้นำหลักฐานและเอกสารทั้งหมด ที่โดนใส่ร้ายป้ายสี มาแจ้งความกับตำรวจ
อิม : “สิ่งที่เขาว่าร้าย สิ่งที่เขาใส่ร้ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการแชต การคุย ลูกค้า ลูกทัวร์และผู้ใหญ่คนนั้น ส่งหลักฐานทั้งหมด เพราะเขาสงสาร ทำให้หนูคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว เขาทำผิด เขาควรได้รับในสิ่งที่เขากระทำ ไม่อย่างนั้นเขาจะคิดไม่ได้เลย สิ่งที่เขาทำอย่าง 4 วันที่แล้ว มันก็ผิดศีล 5 แล้ว การที่เขาใส่ร้ายป้ายสี เบียดเบียนอิม แต่งเรื่องมันก็ผิดศีล 5 มันไม่ได้จริงๆ”
ยอดเงินทั้งหมด ที่ไปซัปพอร์ตให้ลูกค้า รวมแล้วเป็นหลักล้าน

อิม : “เป็นหลักล้านค่ะ มันแบ่งเป็น 3 อันนะ มันมีเอเจนซี่ที่ร่วมกับเขา ตัวเขา แล้วก็แลนด์ บอกตัวเลขได้ค่ะ ตรงนี้สบายอยู่แล้ว ก็หลักล้านค่ะ รวม 3 อันนี้”

ทนาย : “เอเจนซี่เขาค้างเราอยู่ 280,000 บาท ที่แลนด์อีก 180,000 บาท ตรงนี้เราเป็นคนซัปพอร์ตคืนให้ลูกทัวร์หมดเลยครับ เอาเงินส่วนตัวออกไปก่อน เพิ่งได้เงินคืนจากเอเจนซี่คืนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่จากทางแลนด์ยังไม่ได้ เพราะเราก็เข้าใจ”

ตอนนี้ลูกทัวร์ไม่มีติดใจอะไรแล้ว
อิม : “ใช่ค่ะ ลูกทัวร์โอเคค่ะ แล้วหนูก็โอเค คือทัวร์เนี่ยไม่ได้กำไรนะคะ เราเอาตัวเลขให้ทุกคนดูหมดเลย ทุกอย่างที่ทำคือไม่ได้กำไร เราจัดทัวร์ 3 บัส 110 คน มูลค่าต่อคนจำไม่ได้ เป็นแบบ VIP”

ทนาย : “ที่ค้างอยู่คือค่าแรง 180,000 บาท เราก็เอาตรงนี้มาเคลียร์ หารค่าใช้จ่ายทุกคน 110 คนจะต้องเสียคนละพันกว่าบาท ซึ่งเราก็คุยกับเขาโอเคแล้ว”

ได้ทวงถามเงินคืนจากอดีตผู้จัดการอยู่ตลอด แต่เขาก็บ่ายเบี่ยง
อิม : “ได้ค่ะ ตอนแรกกว่าจะได้คืน เขาก็บ่ายเบี่ยงตลอด ว่าเงินอยู่ที่ทางสายการบิน พอคืนเสร็จแล้ว หนูก็รีบจัดคืนให้กับบางส่วน 30 เปอร์เซ็นต์ หลักจากนั้นจังหวะเดียวกันที่หนูไม่รู้ว่าเขาเป็นตัวตั้งตัวตี ที่จะรวบรวมลูกค้าไปแจ้งท่องเที่ยว มาดำเนินคดีหนู ซึ่งหนูก็บอกว่าพี่เบลล์ เราคืนเงินทั้งหมดเลยดีกว่า ตอนนี้รับซัปพอร์ตเขาให้เต็มที่เลยดีกว่า ก็เลยรู้เหตุการณ์ ว่าคุณเป็นคนก่อ แล้วคุณยังมารวบรวมลูกทัวร์ ให้มาดำเนินคดีเรา ทั้งๆ ที่คุณเป็นคนก่อ แล้วอิมเป็นคนแก้ให้ แล้วอิมก็เติมให้สิ่งที่ขาดหายให้เต็ม เพราะฉะนั้นสิ่งที่อิมทำ บริสุทธิ์ใจมากๆ เพราะอิมไม่ได้อยากจะอะไรตรงนี้เลย”

อยากมาแจ้งความ เรื่องที่เขาไปพูดให้เราเสื่อมเสีย เพราะไม่อยากให้มีคนเข้าใจผิด
อิม : “ใช่ค่ะ เราแจ้งความผู้จัดการคนเดียวเลย คนอื่นเขาเอ็นดูหนู ส่งหลักฐานมาให้หนูเยอะแยะเลย”

ทนาย : “ตอนนี้ที่เรามาแจ้งความ เพราะไม่รู้ว่าทางคู่กรณี เขาไปคุยอะไรกับคนอื่นเพิ่มเติมหรือเปล่า เพราะการเป็นการพูดลับหลัง คุณอิมก็จะไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นวันนี้ สาเหตุแรกที่แถลงข่าว เพราะอยากจะบอกว่า ขอให้ระวัง ในการรับฟังข่าวสารจากบุคคลคนนี้ สองคือมันมีข้อความหลายส่วน ที่เป็นเรื่องที่ไม่จริงเข้าข่ายเป็นความผิดในข้อหาหมิ่นประมาท เลยมาแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีครับ เจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องครับ แต่ตอนนี้เรามาแถลงข่าวอยู่ หลังจากนี้เราจะไปแจ้งความต่ออีกทีหนึ่ง”

แจ้งข้อหาหมิ่นประมาท และเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่ม 7 หลัก
ทนาย : “เป็นประมวลกฎอาญามาตรา 326 หมิ่นประมาทผู้อื่น ซึ่งทำให้คุณอิมได้รับความเสียหาย โทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท อันนี้เป็นโทษสูงสุดครับ แล้วก็จะเรียกร้องค่าเสียหายอีกต่างหากครับ”

อิม : “คือเรียกร้องตามกฎหมายค่ะ ตามที่ทนายบอก แล้วก็เรียกร้องค่าเสียหายอีก 7 หลักค่ะ เพราะว่าชื่อเสียงที่หนูสะสมมานาน ก็ไม่ได้น้อยๆ เราอยู่วงการมาทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง หนูทำงานอีกเยอะแยะมากมาย อย่าที่ได้เกริ่นไปเมื่อสักครู่นี้ แล้วหนูก็เป็นที่ไว้วางใจให้กับลูกค้าอีกหลายท่าน สิ่งที่เขากระทำ มันทำให้หนูเสื่อมเสียชื่อเสียง และสิ่งที่หนูสะสมมานาน ในความซื่อสัตย์ซื่อตรง มันทำให้หนูอาจจะดูไม่โอเค เพราะฉะนั้นหนูขอเรียกร้องความเป็นธรรม”

เลือกมาแจ้งความ ไม่ไปฟ้องร้องที่ศาล
ทนาย : “มันก็เป็นสิทธิ์ของเราอยู่แล้วครับ ที่เราจะดำเนินการตรงไหนก็ได้ หรือว่าจะฟ้องตรงก็ได้ ในส่วนนี้เราเลือกที่จะมาแจ้งความ ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีครับ จะฟ้องเองไหม อันนี้ต้องพิจารณาอีกทีหนึ่งครับ แต่ว่าน่าจะให้ทางตำรวจดำเนินคดีเป็นหลักครับ”

ลั่น! คนไม่รู้จักพอ ก็จะนำไปสู่ความไม่สุจริต
อิม : “ในความคิดของหนูดีกว่า คนเราถ้ามันไม่รู้จักพอ มันจะนำไปสู่ความไม่สุจริต คนเราเวลาทำงานกับเจ้านาย แล้วเอาเจ้านายมาพูดเสื่อมเสียชื่อเสียง ก็เหมือนที่ผู้ใหญ่คนนั้นบอกหนูค่ะ ที่เขาให้หลักฐานหนูมา คนคนนั้นควรคบหรือไม่คบ พิจารณาเอาเองค่ะ”

จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เอะใจเรื่องการเงินย้อนหลัง แต่ยังไม่อยากพูด เพราะกำลังรวบรวมหลักฐานอยู่
อิม : “มี แต่หนูอาจจะยังพูดไม่ได้ มีอีกเยอะ แต่ขอไม่พูดตรงนี้ เพราะตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐาน แล้วก็อะไรอีกหลายๆ อย่าง หนูขอเอาแค่ตรงนี้ ที่ทำให้หนูเดือดร้อน แล้วหนูก็เอ็นดูผู้บริสุทธิ์อีก 3 บัส ที่หนูออกมาพูดในวันนี้ เขาบริสุทธิ์ หนูก็บริสุทธิ์ ครอบครัวหนูก็บริสุทธิ์ กับสิ่งที่เขาก่อ เขาควรยอมรับผิด แล้วหนูอยากจะบอกว่า สิ่งที่เขาเป็นอยู่ทุกวันนี้ เขาควรศึกษาคำว่า พรหมวิหาร 4 ให้มากๆ

หนูรู้ว่าหลายๆ คนรู้ ว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่ ถ้าคุณศึกษาเรื่องพรหมวิหาร 4 คุณจะไม่ก่อสิ่งต่างๆ ให้เกิดขึ้น เมื่อไม่กี่วันนี้เลย คุณไปเรียนรู้มาแล้วครองศีลให้ได้ คิดได้กลับตัวกลับใจเถอะค่ะ ค่อยๆ เรียนรู้ ค่อยๆ ปล่อยวาง ไม่แน่นะคะ ชีวิตคุณอาจจะดีขึ้นก็ได้ในอนาคต เขาถึงได้บอกไงคะ คนไหนที่เคยมีชีวิตที่ไม่ดี ถ้ากลับตัวกลับใจ นั่นคือมนุษย์ที่ประเสริฐ แต่ถ้ามนุษย์คนไหน ที่ประพฤติไม่ดี แล้วยังคิดไม่ได้ ควรปรับปรุงตนเองให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้ทำความเดือดร้อนกับตนเองและผู้อื่นค่ะ”

ให้เวลากลับตัวกลับใจมานานมากแล้ว แต่ก็คิดไม่ได้
อิม : “อิมให้เวลาเขากลับตัวกลับใจมานานมาก นานจริงๆ อิมพยายามเงียบ นักข่าวต่อหาอิมตั้งหลายครั้ง ว่าเกิดเรื่องอะไร หนูพยายามเงียบ พยายามคิดตลอดเลย เผื่อวันหนึ่งเขากลับตัวกลับใจได้ ไม่เป็นไร แต่เมื่อ 4 วันที่ผ่านมาเขาก็ยังไม่หยุด เขาไม่หยุดเลยตลอด 1 เดือนหรือ 2 เดือน หนูก็เลยต้องเอาความยุติธรรมของกฎหมาย ดำเนินคดีกับเขา เพื่อให้เขาหยุด เรียกร้องสิทธิ์ของตัวหนู”

เหมือนเทวดาช่วย ตัดสินใจคืนเงินลูกทัวร์ทัน เลยไม่โดยแจ้งความ ไม่อย่างนั้นคงเป็นเรื่องใหญ่
อิม : “ไม่มี ก็จังหวะที่หนูเล่าให้ฟังเมื่อสักครู่ ว่ามันบังเอิญจังหวะเดียวกัน เหมือนเทวดาช่วยหนูนะ คือลูกทัวร์จะไปรวมตัวกัน เพราะอดีตผู้จัดการเขาบอกว่า เดี๋ยวเขาจะทำเอกสารให้ด้วยนะ แล้วมันเป็นจังหวะที่หนูคุยกัน ว่าคืนเงินเลยดีกว่า จังหวะเดียวกันเลย หนูก็เลยบอกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงด้วยถ้าวันนั้นหนูไม่คืน ก็คงเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน เพราะเราคิดว่าเอาเงินคืน เขาจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะกว่าประเทศจะเปิดอีกตั้งนาน จังหวะพอดี เราก็เลยรู้ว่ามันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง”

ครั้งนี้ไม่ยอมความ ขอเรียกร้องสิทธิ์ความเป็นธรรม
อิม : “เรียกว่าหนูขอเรียกร้องสิทธิ์ความเป็นธรรมดีกว่าค่ะ เพราะหนูยอมตลอดเลย แล้วก็มีหลายท่าน อาจจะเข้าใจหนูผิด แล้วชื่อเสียงที่สะสมมาไม่ใช่น้อยๆ การงานที่ทำมาก็ไม่น้อย เพราะฉะนั้นขอเรียกร้องสิทธิ์ความเป็นธรรมให้กับหนูค่ะ”

ทนาย : “ก็ต้องบอกว่าคดีหมิ่นประมาท มันเป็นคดีที่ยอมความกันได้ ถ้าหากว่าเขาติดต่อมา แล้วคุณอิมพอใจในข้อเสนอของทางคู่กรณี ก็สามารถที่จะยอมความกันได้ แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ทางคุณอิมและคู่กรณี ว่าตกลงกันได้มากน้อยเพียงใด”

ยกให้ทนายจัดการ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิต
อิม : “หนูว่าเรื่องแบบนี้ ให้ทนายจัดการเลยดีกว่าค่ะ เพราะว่าทุกอย่างที่หนูพูดไปเป็นเรื่องจริง แล้วก็มีเอกสารทางกฎหมายที่ตำรวจ หนูขอจบ คือหนูขอบคุณมากๆ เลยนะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่แฝงอยู่ ทำให้เป็นประสบการณ์ชีวิต ต่อจากนี้จะได้เรียนรู้มากขึ้น เกี่ยวกับการเชื่อใจคนใกล้ตัว ทุกอย่างต้องมีเอกสาร แล้วก็ไม่ควรไว้วางใจใครมาก ต้องพิจารณาไตร่ตรองให้มากกว่านี้”







กำลังโหลดความคิดเห็น