“มะปราง” เผยมีซินแสทักว่าดวงจะมีเหตุให้เลิกกับ “โอบ” ภายใน 5 ปี ยอมรับเครียดมาตลอด ดีที่แฟนหนุ่มไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่ตนก็พยายามหาวิธีเสริมดวงทุกอย่างจนในที่สุดก็ผ่านมาได้ บอกทริปเที่ยวยุโรปแฮปปี้ดี แต่คู่ “แกงส้ม-ดาว” หวานกว่าคู่ตนเยอะ
เรียกว่าเป็นเรื่องที่ทำให้นักแสดงสาว “มะปราง อลิสา ขุนแขวง” เก็บเครียดมาตลอด 5 ปีเต็มในช่วงที่คบหากับหวานใจ “โอบ โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์” เพราะว่ามีซินแสประจำตระกูลของฝ่ายชายทักว่ามีดวงจะต้องเลิกกันภายใน 5 ปี ซึ่งสาวมะปรางก็เผยว่าเครียดมาตลอดกับเรื่องนี้ และพยายามประคับประคองความรักให้ดีที่สุดในช่วงที่ผ่านมา
"จำได้ว่าปีแรกที่คบกันเราไปดูหมอดูทางจีนซินแส แต่จริงๆ ตอนนั้นไปดูสีรถ ทะเบียนรถปกติ แต่เราก็ดันไปถามเรื่องความรัก เขาก็ขอเวลาวันเดือนปีเกิด เขาก็ดูดวงว่าเราสองคนไม่ใช่คู่กันนะ เดี๋ยวจะเลิกกันก่อน 5 ปี ตอนนั้นก็ทักอยู่ต่อหน้าแม่เขาด้วยนะคะ เราก็แอบตกใจนิดนึง เราคิดว่าจะชินกับการดูดวงแล้ว แต่ว่าพอได้ยินเองก็รู้สึกแอบนอยด์เหมือนกัน ก็เก็บเรื่องนี้มานาน ลุ้นอยู่ตลอดเหมือนกันว่าจะรอดไหม จะมีเหตุการณ์อะไรทำให้เรามีปัญหากันไหม แต่ก็พยายามทำทุกวันให้มันดีที่สุด ถ้าสุดท้ายมันผ่านมาได้เราก็รู้สึกว่าบางทีบางเรื่องในดวงก็เป็นเรื่องจริง บางเรื่องก็ไม่เกิดขึ้นจริง ก็แล้วแต่วิจารณญาณและความเชื่อ
จริงๆ การทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าเรื่องใหญ่เลยไม่มีนะคะ ตลอด 5 ปีเราก็เก็บคำทักของซินแสมาตลอด ไม่เคยบอกใครเลย เพราะว่าทุกครั้งบางทีคนทักคู่รักดาราว่าเดี๋ยวก็เลิกกัน เอาจริงๆ ถามว่าเชื่อไหม เราก็เชื่อ เพราะมันก็เป็นจริง เพราะเราก็เห็นมาตลอด แต่มันก็เป็นเรื่องปกติที่บางคนจะไปกันรอด บางคนก็ไปกันไม่รอด เราคิดว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น เราก็ยอมรับชะตากรรมนั้น ถ้าเกิดไม่เกิดขึ้นเราก็คิดว่าเฮ้ย มันผ่านไปได้"
บอกดีที่ “โอบ” ไม่เชื่อเรื่องนี้เลย
“วิธีแก้ไม่มีค่ะ คือซินแสบอกไม่ใช่เลย แล้วซินแสเขาบอกว่า ถ้าบ้านใครเชื่อมากๆ เขาบอกไม่ใช่คู่กันก็คือเลิกกันเลยนะคะ เขาก็จะไม่ไปต่อกันเลย แต่ทางโอบบอกว่าเขาไม่ใช่เป็นคนเชื่อ เขาไม่ได้เชื่อเท่าเรา แต่เราเป็นผู้หญิงดูดวงไง ก็คิดว่าจะทำยังไงดี แต่ทางโอบเขาไม่ได้เชื่อขนาดนั้น เขาก็บอกว่าอย่าไปคิดมาก เช็กหมอเดียวค่ะ นี่ขนาดหมอเดียวนะคะเนี่ย (หัวเราะ)
โอบเขาไม่ทักเรื่องนี้เลย เพราะเขารู้ว่าเราเครียดจริงๆ แล้วเขาก็ไม่พูดถึงเลย คือใช้ชีวิตกันปกติ หมอดูก็บอกว่าถ้าคบกันถึง 5 ปีก็ให้พากันมาดูที่นี่อีกรอบนึง แต่ก็ไม่ไปอีกค่ะ เพราะว่าความรักจริงๆ มันก็อยู่ที่เรากำหนดนั้นแหละ อะไรที่ทำให้คู่เราผ่านมาได้เหรอ มันก็เป็นความเข้าใจ มันเป็นความที่เข้ากันแล้วก็อยู่ด้วยกันได้ รู้สึกว่าคู่เรามันไปด้วยกันได้ ณ ตอนนี้"
บอกไม่เคยดูดวงเรื่องความรักอีกเลยหลังจากนั้น
“แต่ตอนที่หมอดูทักถามว่าอยากจะไปต่อหรือหยุด คือตอนนั้น เราก็คิดนะตัวเราไปต่ออยู่แล้ว แต่เราก็ไม่รู้ว่าทางบ้านเขายังไง เพราะเขามีเชื้อจีน เราก็ไม่รู้ว่าทางบ้านเขาซีเรียสกับเรื่องนี้มากแค่ไหน เราก็เลยคิดว่าถ้าเขาบอกให้เราเลิกกันก็คงต้องตามนั้น แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรทางแม่เขาก็น่ารักมากไม่ได้พูดอะไรเลย แล้วคือเป็นซินแสประจำบ้านโอบด้วย คือเป็นเรื่องใหญ่โตค่ะ เพราะเขาก็จะไปดูที่นี่กันประจำ
ก็เลยคาใจเรามาตลอด 5 ปี แต่ก็ไม่ได้บอกโอบ คือคุยกันวันแรกตั้งแต่ดูเสร็จเขาก็รู้แล้วว่าเราเครียดมากจริงๆ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรไม่อยากจะไปย้ำเตือนตรงนั้นด้วย จากนั้นก็หาวิธีเสริมดวงหมดเลย ตอนนี้เน้นเสริมอย่างเดียว ไม่ดูแล้วค่ะ (หัวเราะ) แต่นอกจากซินแสคนนี้ก็ไม่ได้ไปเช็กดวงกับใครอีกเลย ถ้าจะดูก็ดูเกี่ยวเรื่องงานปกติ จะไม่ถามเรื่องความรัก คือถ้าเจอหมอดูคนไหนเขาพูดเราก็ฟังได้ แต่ก็จะพยายามไม่เอาใจไปผูกมากแล้วมันจะเครียด ไม่ใช่เราไม่เชื่อนะ เรื่องงานหรืออะไรต่างๆ บอกให้เปลี่ยนอะไรเราก็เปลี่ยน เรารู้สึกว่าเราเป็นคนเชื่อ"
กลายเป็นเชื่อเรื่องการเสริมดวงทุกอย่าง
“ที่เขาให้เสริมก็คือเน้นสีชมพู เราก็เลยเปลี่ยนเป็นสีชมพู ทุกอย่างในชีวิตประจำวันก็จะชมพู ฟ้า เหลืองบ้าง มันก็จะมีหลายสิ่งที่เหมาะกับเราในแต่ละด้าน คือหนูดูเชี่ยวชาญเหมือนกันเนอะ (หัวเราะ) ทุกวันนี้เวลาจะออกจากบ้านก็ต้องแต่งตามตารางสี ปริ๊นต์แปะเลยค่ะ ปี 2565 ก็คือต้องอัปเดตใหม่ ปีที่แล้วจำได้เลยว่าจันทร์-อังคารต้องสีเหลือง สีดำไม่ได้เลย ปีนี้ก็จะเยอะหน่อย ตอนแรกโอบเขาก็ไม่เชื่อ แต่ว่าหลังๆ เขาก็เริ่มใส่ตามเหมือนกันค่ะ อะไรว่าดีเขาก็รู้สึกว่าแฮปปี้ดี
หลังจากผ่านมา 5 ปีก็ดีขึ้นหลายระดับเหมือนกันนะคะ เราก็ใช้ชีวิตตามปกตินั่นแหละ ก็เชื่อในสิ่งที่ดีต่อไป แล้วเดี๋ยวสิ่งดีๆ มันเกิดขึ้นเอง ก็แพลนเสริมดวงอาถรรพ์เลข 7 ต่อ (หัวเราะ) ก็หลายสีแน่นอนค่ะ ก็คงเหมือนเดิม เราเชื่อว่าเราค่อยๆ อยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ ดูแลกันไปแบบนี้โอเคดีกว่า"
เผยคู่ “แกงส้ม ธนทัต ชัยอรรถ” และ “ดาว ณัฐภัสสร สิมะเสถียร” หวานกว่าคู่ตนเยอะ
"ดีค่ะ คือตั้งใจว่าจะไปกันอยู่แล้ว เราก็ไปได้แค่สองประเทศที่สามารถเข้าได้ก็ไปเท่านั้น ทริปปนี้ก็คือไกด์ทำแพลนเองทุกอย่าง จองทุกอย่างเองหมด มันก็เป็นบรรยากาศที่เหมือนเราไม่ได้ไปมานาน ก็ตื่นเต้น พยายามที่จะถ่ายรูปให้เยอะที่สุด เพราะไม่รู้ว่าเราจะได้ไปอีกเมื่อไหร่ กลับมาก็ต้องทำงาน ก็ถ่ายรูปถ่ายวิดีโอไว้เยอะเลยค่ะ อย่างสวิตเซอร์แลนด์เราไม่เคยไปเราก็ไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่นั่น ไปขึ้นเขาถ่ายรูปสวยๆ ส่วนปารีสเราก็ไปทานอาหาร ไปใช้ชีวิตปกติ"
คู่เรากับคู่แกงส้ม-ดาวเขาหวานกว่าเยอะ เขางุ้งงิ้งกันสองคนตลอดเวลา ของเราไม่ค่อย ส่วนมากจะแยกไปกันสองคนมากกว่า ต่อหน้าคนอื่นไม่ค่อยกล้า ก็จะตั้งกล้องกันบ้าง ถ่ายกันเอง คู่นั้นเขาก็ถ่ายให้บ้าง แต่บางทีถ้าเราแยกกันไปสองคนแล้วก็จะตั้งกล้อง"
