xs
xsm
sm
md
lg

ล้างตารอ! “ต่อ” เลิฟซีนเร่าร้อนในหนังใหม่ เพิ่มน้ำหนัก 15 กิโล ไม่ย้ายค่าย รักนาดาวมาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ต่อ ธนภพ” ทำการบ้านหนักเพื่อหนังเรื่องใหม่ โอดยากมากต้องเพิ่มน้ำหนัก 15 โล เขินสุดๆ กับฉากเลิฟซีนเร่าร้อน ได้อะไรเยอะกับเรื่องนี้ ปัดย้ายสังกัด หลังร่วมถ่ายปฎิทินช่องวัน แจงสัญญานาดาวยังอยู่เหมือนเดิม ไม่เหงาน้องๆ ทยอยกันออก ยอมรับการตัดสินใจ ความรักแฮปปี้ วาเลนไทน์นี้ยังไม่มีแพลน

แค่เห็นทีเซอร์ก็รู้สึกอยากดูไม่ไหวแล้ว สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “One for the Road วันสุดท้าย .. ก่อนบายเธอ” ที่ได้นักแสดงขวัญวัยรุ่น “ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร” มาเป็นหนึ่งในตัวละครหลัก ซึ่งล่าสุดวันนี้ (21 ม.ค.) ในการสัมภาษณ์ Press Interview ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว เจ้าตัวก็ได้เผยว่า ลงทุนเพิ่มน้ำหนักขึ้นมาถึง 15 กิโลเลยทีเดียว เพื่อให้หุ่นแตกต่างกัน กับหนุ่ม “ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์” ที่เล่นเป็นเพื่อนรักกัน ในเรื่องมากขึ้น 

“ต้องเพิ่มน้ำหนักขึ้นมา 15 กิโล เพื่อหนังเรื่องนี้ จริงๆ ผมได้แรงบันดาลใจมาจากพี่ไอซ์ซึ เราเห็นเขาเล่นกับน้ำหนักตัวเอง ที่ลงมา 17 กิโล ผมก็เลยรู้สึกว่า เราน่าจะมีส่วนที่ช่วยเขาได้ ที่ทำให้มันชัดขึ้น เราขึ้นไป 15 กิโล ซึ่งมันต่อเนื่องกับตอนละครขอเกิดใหม่ใกล้ๆ เธอ ด้วยครับ ที่ผมใช้น้ำหนักนี้ตอนเล่น แล้วตอนนี้ก็ลงมาแล้ว 8 กิโล ซึ่งตอนนี้ปัจจุบัน มันก็จะมีความต่างกับตอนถ่ายหนังเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะครับ”

การเพิ่มน้ำหนักมันยากมาก ทำให้รู้สึกไม่มีความสุขในการกิน
“ตอนลงไม่ยากครับสำหรับผม คือเป็นคนที่ระบบเผาผลาญผิดปกติ เผาเยอะกว่าปกติ แต่ว่าจะลำบากตอนเอาขึ้นครับ ตอนนั้นมันเหมือนมีเวลาแค่ 3 อาทิตย์ ที่ 15 กิโลต้องขึ้นมา ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือ ความรู้สึกทุกมื้อที่ผมกิน ต้องรู้สึกอิ่มเหมือนท้องจะแตก บางมื้อคือแบบ สมมติเช้ากินเสร็จแล้ว ตอนเที่ยงยังไม่ทันหิว ก็ต้องกัดฟันกิน เป็นครั้งแรกในชีวิตนะ ที่รู้สึกไม่มีความสุขในการกิน (หัวเราะ)”

ในฐานะนักแสดง ได้ความสะใจมากกับบทนี้
“เอฟเฟกต์แรกเลยคือสะใจครับ ในฐานะนักแสดงมันได้ฟีลมาก แล้วผมก็ได้เรียนรู้สกิลใหม่ จากพี่ไอซ์ซึครับ ด้านลบก็มีนะ ผมเพิ่งรู้ว่า สมมติเราเอาน้ำหนักขึ้น ร่างกายเราขึ้นมาทุกด้วยเลย แต่เวลาเราเอาน้ำหนักลง มันไม่ใช่ทุกส่วนที่มันจะลง มันลงไม่พร้อมกัน ก็ต้องใช้เวลา ของเรามันอยู่ที่เหนียงครับ (หัวเราะ)

ทำการบ้านเยอะมาก ฝึกเป็นบาร์เทนเดอร์ด้วย
“พอไปศึกษา พอผู้กำกับเขาพาไปดูบาร์เทนเดอร์ตัวจริง เราเพิ่งรู้ว่ามันมีความเป็นอาร์ตในตัวมันอยู่ แล้วก็รู้สึกว่าเป็นอาชีพที่น่าค้นหา มีเสน่ห์ แล้วก็ดูทำให้ครีเอตคาแรกเตอร์บางอย่างออกมาได้ ลุคเรื่องนี้ มันไม่เคยออกมาในเรื่องไหน ที่ผมเคยเล่นมา เป็นภาพที่เป็นเฉดใหม่มากๆ”

ไม่รู้ความรักของตัวเองเป็นเครื่องดื่มอะไร เพราะไม่เคยเอาไปเทียบกัน
“ไม่เคยคิดจะเทียบกับในชีวิตจริงเท่าไหร่ครับ”

ได้ประสบการณ์เยอะมากจากหนังเรื่องนี้ ทำให้โตขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“เยอะครับ ตอนถ่ายไม่รู้ตัว ว่าได้อะไรมาเยอะมาก จนถ่ายเสร็จ ถึงรู้ว่าให้อะไรมาเยอะมาก ผมโตขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว จนคนที่เราทำงานด้วยเขาทักเรา ว่าเหมือนผ่านโลกเยอะขึ้นนะ ดูเจนโลกขึ้น ดูความคิดเปลี่ยน แล้วจริงๆ เป็นมู้ดใหม่ๆ ที่ทั้งร่วมงาน ทั้งคนใกล้ตัวรู้สึก คือเดี๋ยวนี้ผมค่อนข้างสบายตัวแล้วครับ เมื่อก่อนทุกคนจะติดภาพผมเป็นฟีลจริงจัง ออกไปในทางเครียดด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้รู้สึกไม่ได้อย่างนั้น แค่ความจริงจังยังอยู่ครับ”

เขินสุดๆ เพราะฉากเลิฟซีนเร่าร้อนมาก
“เขินสุดๆ ไปเลยครับ ไม่ได้เคยเล่นแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีเหมือนกัน ในฐานะนักแสดงนะ เพราะมันเหมือนเป็นสิ่งที่ผมอยากสื่อออกไปให้คนดูเห็น ว่าต่อให้ผมมาก แต่อยู่หน้าเซ็ตแล้วผมถอยไม่ได้ ต้องเต็มที่กับการแสดงตรงนั้นให้ถึงที่สุด ให้ผู้กำกับได้สิ่งที่ดีที่สุดไปใช้ในหนัง บวกกับการกระทำที่มันเกิดขึ้น มันค่อนข้างเข้าใจได้ เมื่ออยู่ในคาแรคเตอร์ที่เราเล่น”

เพิ่งไปถ่ายปฎิทินกับทางช่องวัน
“สนุกดีครับ คือเป็นปฎิทินแรกของช่องวัน เขาไม่เคยมีมาก่อน เขาก็อยากทำกิมมิกพิเศษ คือชวนนักแสดงข้างนอก ที่เคยร่วมงานกับช่องวันบ่อยๆ ที่มีความสัมพันธ์ดีๆ ต่อกัน มาร่วมเป็นการคอลแลปกัน ก็รู้สึกให้เกียรติ แล้วบวกกับปีนี้ผมจะมีโปรเจกต์กับช่องวันด้วย ที่จะออนในปีนี้ แต่น่าจะหลังภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ”

แจงไม่ได้ย้ายมาอยู่ช่องวัน แค่มีความสัมพันธ์ที่ดี
“ปีนี้ผมจะมีโปรเจกต์กับช่องวัน เป็นโปรเจกต์ใหญ่แน่ๆ น่าจะออนปีนี้แน่ๆ ครับ ผมว่าความสัมพันธ์ของผมกับช่องวัน ยังรักกันเหมือนเดิม พี่ๆ น่าจะรู้ ว่าผมเป็นนาดาวบางกอก แต่ว่ามันก็เหมือนกับบ้านใกล้เรือนเคียง เอาจริงผมให้เกียรติช่องมาก ไม่ใช่แค่ช่องวันนะ เพราะสุดท้ายผมก็เคยไปเล่นกับทางช่อง 3 รวมถึงช่องอื่นๆ ด้วย ผมว่าผู้ใหญ่ทุกช่องก็น่าจะเข้าใจผมชัดเจน”

เรื่องสัญญากับนานาดาว ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“ไม่ได้คุยเรื่องนี้เลยครับ ผมถ่ายละครอย่างเดียว ก็คิดว่าเหมือนเดิมนะครับ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงน่าจะมีการเรียกเข้ามาคุยกัน แต่ว่ายังไม่มีครับ”

ไม่เหงา น้องๆ ในค่ายแยกย้ายกันไปหลายคน
“ไม่เหงาครับ คือจะบอกว่า ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น สิ่งที่ผมไม่เคยลืมเลย คือเราโตมาด้วยกัน ความสัมพันธ์มันไม่ได้เปลี่ยน แต่ผมรู้สึกว่า เราโตพอที่จะยอมรับการตัดสินใจ แต่ละบุคคลได้แล้ว คือสุดท้ายแล้วผมว่า ทางเดินแต่ละคนมันไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน วันหนึ่งการที่คนเรารู้สึกว่าฉันเจอทางเดินชีวิตใหม่ มันไม่ใช่เรื่องแปลก ใครจะรู้วันหนึ่งผมอาจจะเจอทางใหม่ๆ ของตัวเองก็ได้ แล้วผมอาจจะรู้สึกว่า ฉันอยากตามความฝันตรงนี้ก็ได้ มันไม่มีใครรู้อนาคตครับ”

ถ้าหมดสัญญากับนาดาวบางกอก ก็พร้อมจะเซ็นต่อ
“ก็ถ้าเกิดว่าเขายังอยากให้ผมอยู่นะ ไม่รู้ เพราะผมก็รักที่นี่ พี่ๆ ก็รู้ (ยิ้ม) เอาง่ายๆ ชัดเจนอยู่แล้วมาตั้งแต่แรก ผมรักนาดาว รักจีดีเอชมากอยู่แล้ว ผมว่าให้เป็นฝ่ายผู้ใหญ่ตัดสินใจก่อน แล้วเราค่อยมาตัดสินใจร่วมกัน น่าจะเป็นทางที่น่าจะดีกว่าครับ สุดท้ายสมมติว่าอยากอยู่ แต่เขาไม่คิดเหมือนกัน มันก็…เข้าใจไหมครับ อันนี้ไม่รู้ๆ (หัวเราะ)”

รับช่วงล็อกดาวน์โควิด 6 เดือน รู้สึกนอยด์มาก ที่ไม่ได้ทำงาน แต่ก็ทำให้พร้อมยอมรับกับสิ่งที่ไม่คาดคิด
“นอยด์ครับ นอยด์มากด้วย แต่ผมนอยด์แค่ช่วง 6 เดือนนะครับ ล็อกดาวน์ 6 เดือน เพราะตอนนั้นผมโดนเต็มกราฟเลย 6 เดือนเต็ม แล้วเป็นช่วงเวลาที่นอยด์ แต่ก็ได้อะไรกลับมา ผมไม่เคยได้พักงานนานขนาดนี้ครับ พอเราได้พักปั๊บ เหมือนได้มีเวลาคิดทบทวน แล้วก็ได้อะไรใหม่ๆ กับชีวิตตัวเอง เหมือนอย่างตอนล็อกดาวน์มันมาแบบไม่คาดคิดมาก่อน แต่พอผ่านมันมาได้ ทุกวันนี้ผมพร้อมที่จะยอมรับกับอะไรที่มันไม่คาดคิดมากขึ้น”

ความรักกับหวานใจมีไปเที่ยวด้วยกันบ้าง แต่ด้วยสถานการณ์เลยไม่ใช่ทริปจริงจัง
“มันยากมากเลยครับ ด้วยสถานการณ์ที่มันเป็น แล้วจริงๆ คือผมมีกองอยู่ด้วยกับทางช่องวัน ก็ไม่ค่อยได้ไปไหนจริงจังขนาดนั้น อย่างตอนปีใหม่ที่ผ่านมา แม่ผมเกิดวันที่ 1 มกราคม ก็คืออยู่กับแม่ เลยเหมือนกับมันก็มีไปเที่ยวบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่มีเป็นทริปแบบจริงจังขนาดนั้นครับ เพราะก็กลัวเหมือนกัน โชคดีที่ยังรอดจนถึงทุกวันนี้ ตอนนี้”

14 กุมภาพันธ์ วันเกิดควบวันวาเลนไทน์ ยังไม่มีแพลนพิเศษ ขอรอดูโอมิครอนก่อน
“ก็อยากถามคุณโอมิครอนก่อนเหมือนกันครับ ว่าแพลนคุณมียังไงบ้าง ผมจะได้ตามคุณถูก เดี๋ยวขอถามคนนี้ก่อนนะ ช่วงนี้รู้สึกสนิทกับเขาสุดเลย (โอมิครอนเป็นมือที่สาม?) เขาเป็นคนที่ทำให้ผมต้องมีระยะห่างครับ (หัวเราะ)”











กำลังโหลดความคิดเห็น