ต้องลาจากโลกนี้ชั่วนิรันดร์แล้ว สำหรับอดีตดาราดัง “โอ๋ ไมเคิล พูพาร์ต” หลังเจ้าตัวตัดสินใจใช้ปืนยิงตัวเองดับคาบ้านพักกลางกรุง ในวัย 52 ปี จากสาเหตุโรคซึมเศร้า อีกทั้งมีประเด็นที่น้องชายผู้ตายได้ออกมาเผยว่า สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะเสียใจที่เลิกกับ “เอ็ม แพรน้ำฝน พินิวัตร์” อดีตแฟนสาวที่คบหากันมาหลายปี ซึ่งฝ่ายหญิงเป็นแม่ของ “บาส สุรเดช” หรือ “บาส SBFIVE”นักร้องและนักแสดงวัยรุ่นที่โด่งดังมาจากซีรีส์วายเรื่อง เดือนเกี้ยวเดือน ซึ่งเกี่ยวกับประเด็นนี้ฝ่ายหญิงได้ออกมาเคลียร์ผ่านสื่อชื่อดัง พร้อมขอความเห็นใจว่าอย่าเพิ่งตัดสินตนแบบนั้น ยืนยันเลิกกันด้วยดี ท่ามกลางการถูกจับตามองว่าฝ่ายหญิงจะเดินทางมาร่วมงานศพของไมเคิล พูพาร์ต หรือไม่
กระทั่งเวลา 18.00 น. วันนี้ (20 ม.ค.2565) ได้มีพิธีฌาปนกิจ ไมเคิล พูพาร์ต ที่เมรุวัดสาครสุนประชาสรรค์ เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ซึ่งปรากฏว่า “เอ็ม แพรน้ำฝน” ได้เดินทางมาจากเชียงใหม่พร้อมลูกสาว ซึ่งเป็นลูกบุญธรรมของไมเคิล เพื่อมาบอกลาผู้ตายครั้งสุดท้าย พร้อมเปิดใจเคลียร์ถึงประเด็นที่เกิดขึ้น โดยระหว่างที่ให้สัมภาษณ์เจ้าตัวถึงกับเสียงสั่น น้ำตาคลอ ขอให้หลับให้สบาย ไม่ต้องมีห่วง ลั่นจะรักตลอดไป
“เอ็มอยากจะบอกว่าขอบคุณพี่โอ๋นะคะ (ยกมือไหว้) ขอบคุณที่เราได้ใช้ชีวิตร่วมกันมาระยะเวลานึงและได้รู้จักกันมา มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด และวันนี้เอ็มตั้งใจที่จะมาส่งพี่โอ๋เป็นครั้งสุดท้ายด้วยรักและความผูกพันที่เรามีต่อกันค่ะ อยากจะให้พี่หลับให้สบายค่ะและไม่ต้องคิดอะไรไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้น ให้พี่หลับให้สบายและไปสู่สุคติ เอ็มจะดูแลลูก พี่ไม่ต้องห่วงขอบคุณค่ะ (ยกมือไหว้)
ก็บอกว่าให้พี่นอนหลับให้สบายนะเราก็... (นิ่ง) ต่างคนก็ต่างรักกัน และทุกสิ่งทุกอย่างเราขออภัยให้กัน เพราะเรื่องชีวิตคู่มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากก็ต้องอย่าลืมว่าเราอยู่ด้วยกันมาช่วงนึงก็คือเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควรค่ะ ก็ขอให้พี่ไปสู่สุคติ ก็บอกแกแบบนี้ไม่อยากให้แกห่วงอะไรอีกค่ะ
ก็ได้เจอกับครอบครัวพี่โอ๋แล้วค่ะวันนี้ยังไม่ได้พูดอะไรกันมากนะคะ เพราะอยู่ในอาการโศกเศร้ากันทุกคนค่ะ ก็พูดกันปกติค่ะ ทักทายกันปกติ ส่วนน้องบาสก็ให้กำลังใจ น้องก็บอกว่าหม่าม๊าไม่ต้องห่วงหม่าม๊าไม่ต้องคิดมากนะ คือน้องเขาก็กลัวว่าเราจะคิดมาก ก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรลูก ให้กำลังใจกันและกันค่ะ”
บอกไม่ติดใจอะไรแม้ข่าวจะส่งผลกระทบ เชื่อเพราะอยู่ในอาการโศกเศร้า
“ตอนนี้เอ็มอยากจะแค่บอกว่าไม่อยากจะพูดไม่กังวลอะไรทั้งสิ้นแล้วค่ะ ณ วันนี้ เพราะข่าวที่ออกมาทุกสิ่งทุกอย่างอาจจะเป็นเพราะทุกคนอยู่ในอาการโศกเศร้าและเสียใจอยู่ วันนี้ก็แค่ตั้งใจอยากจะมาส่งพี่โอ๋ให้แกหลับให้สบายไปสู่สุคติค่ะ ถ้าถามว่าข่าวส่งผลกระทบไหม มันก็ส่งผลกระทบ แต่เราก็เข้าใจว่าครอบครัวและการสูญเสียเราก็เข้าใจตรงนั้นค่ะ เราเข้าใจครอบครัวในวันที่เขาสูญเสียค่ะ เพราะวันนี้เรามาเพื่อพี่โอ๋โดยตรงเลยค่ะ มาส่งเป็นครั้งสุดท้ายค่ะไม่คิดอะไรใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ”
เผยไม่คิดว่าครั้งสุดท้ายที่ได้คุยฝ่ายชายจะตัดสินใจทำจริงๆ
“คือตอนแรกไม่เคยคิดเลยเพราะได้คุยกับแก ก็บอกแกว่าอย่าทำแบบนั้นนะพี่ แกบอกว่าโอ๋ตัดสินใจแล้วแพรไม่ต้องเสียใจนะถ้าโอ๋ไป ก็ไม่คิดว่าแกจะทำ ถามว่าพี่โอ๋เคยพูดทำนองนี้มาก่อนไหม คือมันจะมีช่วงปีที่ 2 ที่แกเริ่มเป็นมาก จะพูด 1-2 ครั้งเราก็ให้กำลังใจเพราะว่าอยู่กันแค่ 3 คนที่บ้านที่เชียงใหม่ค่ะ แกเพิ่งกลับมาอยู่กรุงเทพฯ ได้ประมาณ 4 เดือนเข้าเดือนที่ 5 ค่ะก่อนหน้านั้นก็ดูแลกันมาตลอดค่ะ”
บอก “โอ๋” เป็นคนดีเป็นผู้ให้และเคยสัญญากันว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
“พี่โอ๋เป็นคนดีมากช่วยเอ็มดูแลลูกทั้งสองเลยค่ะ เพราะน้องบาส น้องปลายฝน พี่โอ๋ก็ช่วยดูแล ช่วยเลี้ยงมาค่ะ ก็ประทับใจที่แกเป็นคนดีค่ะ เป็นผู้ให้เป็นมิตรภาพ (เสียงสั่น)เป็นมิตรภาพที่ดีต่อกันค่ะก็จะจำไว้ไม่ลืม อยากบอกพี่ว่าก็รักพี่เหมือนกันนะคะ (ร้องไห้)
คำสัญญาคือมันเป็นแรกๆ เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วค่ะที่อยู่ด้วยกันมา ก็บอกว่าเดี๋ยวเราจะอยู่ด้วยกันไปตลอดนะ บอกว่าจะไม่ทิ้งกันจะดูแลกันค่ะ ประมาณนั้น ไม่ใช่เพิ่งมาสัญญากันเพราะอายุก็เยอะกันแล้วเนอะจะมาสัญญากันตอนนี้ก็…ค่ะ”