“อิ๋งอิ๋ง” เปิดใจทั้งน้ำตา เป็นมะเร็งรังไข่ระยะสุดท้าย ตอนนี้ลามไปถึงปอดและต่อมน้ำเหลือง หมอเรียกพบญาติบอกให้ทำใจ เผยก่อนหน้านี้ตนได้บริจาคร่างกายเอาไว้แล้ว ถ้าต้องตายก็ยังมีประโยชน์ส่งต่อให้ผู้อื่นได้ เผยสิ่งที่เสียใจที่สุดคือสามีที่แต่งงานกันมา 15 ปีกลับไปติดพันหมอนวด บอกสาเหตุเพราะตนไม่ยอมให้มีเพศสัมพันธ์ทางประตูหลัง และเพิ่งมารู้ว่าคนนี้ไม่ใช่รายแรก เผยสั่งเสียเอาไว้แล้วว่าไม่ต้องจัดงานศพให้ตน เพราะไม่ต้องการให้ใครมาร้องไห้หน้าศพ
ทำเอาหลายคนตกใจไม่น้อย ที่อยู่ๆ พิธีกรสาวที่เคยโด่งดังในยุค90 อย่าง “อิ๋งอิ๋ง สิทธิณี กิตติสิทโธ” โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่ากำลังป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย หมอบอกอยู่ได้อีกไม่นาน และโพสต์ความช้ำใจถึงสามีที่แต่งงานกันมากว่า 15 ปีว่าแอบนอกใจไปคบหมอนวด ซึ่งทีมข่าวบันเทิง MGR Online ได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ ทางเจ้าตัวก็ยินดีพร้อมเปิดเผยถึงสาเหตุทุกอย่างด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และร้องไห้แทบจะตลอดเวลา
“อิ๋งอิ๋งเป็นมะเร็งรังไข่ค่ะ แล้วตอนนี้มันลามมาที่ปอดและต่อมน้ำเหลือง ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกสักกี่วัน ถ้าวันไหนไม่ตื่นก็แค่นั้นเอง แต่วันนี้เรายังมีลมหายใจ ยังตื่นอยู่ ก็อยู่ต่อไป แต่ไม่ฆ่าตัวตายแน่นอน เพราะอิ๋งอิ๋งได้บริจาคร่างกายให้กับโรงพยาบาลจุฬาฯ ไปหมดแล้ว ก็หวังว่าดวงตาที่สวยงามของเรา ถ้าเราตายไปก็คงได้ไปใช้ประโยชน์ให้กับคนอื่นที่เขามีหูตาที่สว่างไสว ไม่หูหนวกตาบอด หน้ามืดตามัวเหมือนเรามาตลอด 15 ปี หัวใจของเราเป็นหัวใจรักที่บริสุทธิ์ ให้อยู่ในคนที่มีจิตใจงดงาม (สะอื้น) คิดว่าคงจะมีประโยชน์กับคนที่จะใช้ต่อได้ เราก็หวังแค่นั้น
รักษามา 3 ปีแล้วค่ะ แต่หมอพูดครั้งสุดท้ายตอนที่อิ๋งอิ๋งน้ำท่วมปอด เอาน้ำออกจากปอดได้ 3 ลิตร ว่าไม่รู้สภาพร่างกายจะทนคีโมได้อีกกี่ครั้ง คุณหมอก็เรียกทุกคนเข้าไปคุย แล้วก็บอกว่าอะไรที่ยังไม่ได้ทำก็ทำซะ อยากทำอะไรให้ทำ อะไรที่ยังไม่ได้ทำก็จัดการให้เรียบร้อย ก็รักษาไปตามที่คุณหมอบอกเลยค่ะ แค่ไหนก็แค่นั้น เพราะเมื่อ 2 เดือนที่แล้วที่ให้คีโมเราก็ช็อกตายไปแล้ว แล้วเขาก็โช๊คเราขึ้นมา ใช้เข็มทิ่มไปที่หลอดเลือดดำหน้าขาปั้มเราขึ้นมา เราตายไปแล้วนะ ก็เลยรู้สึกว่าความตายไม่ได้น่ากลัว มันแค่หายใจไม่ออกแล้วก็มืดๆ ไปแค่นั้นเอง ความดันตกไปอยู่ที่ 70 แล้วก็ฟื้นมาพบกับความจริงที่เลวร้ายที่สุด แล้วจะมีชีวิตอยู่ต่อเพื่ออะไร ต้องตื่นขึ้นมาเจอกับเรื่องเลวร้ายที่สุด”
เผยสาเหตุที่สามีนอกใจ เพราะให้ความต้องการเรื่องเพศสัมพันธ์ทางประตูหลังไม่ได้
“เขาคือคนที่เราไว้ใจและเขาบอกว่าเขาจะอยู่ดูแลลมหายใจสุดท้ายของเรา เขาจะเป็นคนสุดท้ายที่อยู่ตอนลมหายใจสุดท้ายของเรา (สะอื้น) ที่รู้เรื่องก็เพราะผู้หญิงโทร.เข้ามา บอกว่าที่รักทานข้าวหรือยังจ๊ะ มันก็เลยเรื่องแตก เราก็ถามเขา ณ วันนั้นเลยว่าคุณจะเลือกใคร ถ้าเลือกฉันต้องให้ฉันคุยสายกับมัน เขาบอกเขาเลือกทางโน้น เราไม่ต้องไปยุ่งกับผู้หญิงของเขา เขาเลือกทางโน้น เขาไม่เลือกเรา (ร้องไห้)
รู้เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมานี่ค่ะ เขายอมรับว่าคบกันมาปีกว่า เขาไม่อยากให้เราไปทำลายสัมพันธภาพของเขา เพราะผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงที่เขารักไม่ใช่เรา (ร้องไห้) เราไม่สามารถให้ความสุขทางเพศเขาได้ เราไม่สามารถให้เขาเอาประตูหลังได้ เราแยกห้องนอนกับเขามา 14 ปี เราแต่งงานกันมา 15 ปี พอเขาเริ่มขอมีเพศสัมพันธ์ทางก้น เราก็เลยแยกห้องนอน เราต้องทนอยู่กับความลับบ้าๆ บอๆ นี่มาตั้ง 15 ปี ความรักลวงโลก (ร้องไห้)”
บอกสามีแอบมีคนอื่นมาตลอด และตอนนี้ตนก็ไล่ออกจากบ้านไปแล้ว
“เราดูแลเขามาตลอด ตามที่โพสต์ไปเลย เราไม่มีความดีเลย และเขาก็บอกอีกว่าเขามีมาเยอะแยะ ไม่ได้มีแค่คนนี้คนเดียว ถ้าเราไปบ้าบอคอแตกไล่ตามราวีก็ต้องตามราวีทุกคน เขาพูดอย่างนี้ ก่อนหน้านี้เราไม่เคยรู้ เราเพิ่งรู้คนนี้ เพราะคนนี้เขาโทร.มา ที่บอกว่าเป็นหมอนวด ก็คือเขาเป็นหมอนวดกระปู๋ ทำอะไรก็ได้ เขาอยากจะเอาข้างหน้า เอาหลัง เอาอะไรผู้หญิงก็ทูนเกล้าถวายหัวแหละ เขาคงปรนเปรอให้ตังค์ ก็ตังค์ของเราทั้งนั้น (สะอื้น) พอเรารู้เรื่องทั้งหมดก็ไล่เขาออกจากบ้าน เผาทำลายรูปแต่งงานทั้งหมด เผาของทั้งหมดที่เขาเก็บไม่ทัน เขาเอาไปไม่หมด เราก็เผาทำลายหมด ตอนนี้ก็เลิกถาวรค่ะ เรารับเขาไม่ได้ แล้วเราก็ไม่เคยจดทะเบียนสมรส เพราะไม่รู้ว่าชีวิตข้างหน้าจะเป็นยังไง
ตั้งแต่ที่โพสต์ไปเขาก็ไม่ได้ติดต่อมา ก็ตั้งแต่ที่ 21 ธ.ค. ที่เขาออกไป ตอนนี้อิ๋งอิ๋งก็อยู่กับแม่บ้าน กับคนขับรถแค่นั้น ของที่เขาเอาไปก็มีเงินที่เขาได้จากเรามาตลอด 15 ปี แล้วก็พวกแหวน นาฬิกา แต่นั่นก็เงินเราทุกบาท ทุกสตางค์ เราหามาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ได้ไปขายตัวมา แต่เขาเอาเงินของเราที่ทำมาจากหยาดเหงื่อแรงงานของคนป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายไปใช้ปรนเปรอกับผู้หญิง เขาจะมีความสุขแค่ไหนเราก็จะรอดู ถามว่าอยากจะทวงคืนไหม ไม่ เราไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ในเมื่อเราก็จะตายอีกไม่กี่วันแล้ว เราจะเอาไปทำไมของพวกนั้น แต่ของที่เรามีอยู่ทั้งหมดมันเยอะกว่าเยอะ
เขาเข้ามาแค่จะเอาเงินอย่างเดียว เขาไม่ได้รักเรา เพราะเราไม่สามารถตอบสนองความต้องการเขาได้ เราไม่ใช่อย่างที่เขาต้องการให้เป็น ก็มีแค่เรื่องนั้นเรื่องเดียว เพราะเราให้เงิน ให้ทุกอย่าง ให้โอกาส ให้เขาทุกอย่าง แต่เราไม่สามารถสนองความต้องการเขาได้ ที่ผ่านมาเขาก็ทำงานอาบน้ำ ตัดขนแมว เขาตื่นบ่ายสาม พอสี่โมงแต่งตัวเสร็จเขาก็ออกไปหาผู้หญิง เป็นอย่างนี้ทุกวัน กลับมาพอเราถามเขาก็ด่าเราหยาบๆ คายๆ ซึ่งพ่อแม่เราไม่เคยทำอย่างนี้กับเราเลย (สะอื้น) ถ้าเขาจะกลับมาก็ไม่ประโยชน์แล้ว เราขอตายคนเดียว ไม่ต้องการไปอยู่ในอ้อมกอดหรือในมือของใครที่ทำร้ายเรามาตลอด 15 ปี เราขอตายคนเดียว (ร้องไห้)”
บอกแจ้งญาติๆ ไว้แล้วว่าไม่ต้องจัดงานศพให้ตน
“การรักษาก็วันศุกร์นี้จะไปคีโมครั้งที่ 23 ค่ะ กำลังใจตอนนี้ก็คือตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่เราจะไม่ทำร้ายร่างกายตัวเอง ถ้าหลับไปแล้วไม่ตื่น ส่วนต่างๆ ในร่างกายของเราจะไปทำประโยชน์ให้คนอื่นได้อีกเยอะ ทุกอย่างในตัวเราเป็นสาธารณะกุศลหมด บริจาคร่างกายไปแล้ว นานแล้วด้วยไม่ใช่เพิ่งบริจาค ใบที่บริจาคก็ไม่รู้อยู่ไหน แต่บอกเอาไว้เลยว่าถ้าเราตายจะไม่มีงานศพ ไม่ต้องการให้ใครมาร้องไห้หน้าศพเรา ไม่มีใครได้มางานศพเรา ศพเราจะแบ่งเป็นพาร์ตส่วนต่างๆ ให้คนที่เขาต้องการใช้ ไม่ว่าดวงตา หัวใจ ปอด ส่วนไหนที่เป็นประโยชน์เราบริจาคหมด แจ้งกับญาติไว้แล้วว่าไม่ต้องจัดงานศพ ไม่ต้องมีงานศพ ไม่ต้องมีใครมานั่งร้องไห้หรือเสียน้ำตาให้กับเราคนซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรกับใคร (ร้องไห้)
ตอนนี้ก็ยังทำรายการอยู่ปกติค่ะ รายการก็ยังออนแอร์อยู่ทุกวันอาทิตย์ทางช่อง 5 ตอน 12.45 น. เราก็ยังไม่ได้ไปไหน ตราบใดที่ยังมีงาน มีลมหายใจ เราก็ยังทำงานอยู่ ตอนนี้ยังลุกเดินได้ ถ่ายไป เหนื่อยก็พักแค่นั้นเอง แล้วก็พากย์เสียงแต่ละช่วง ก็มีคนให้กำลังใจเข้ามาเยอะมาก เราไม่สามารถรับสายใคร ก็ขอขอบคุณทุกคนที่ไม่ลืมกัน ก็สัญญาว่าถ้าตายไปแล้วก็ยังทำประโยชน์ให้คนอื่นได้ (ร้องไห้)”
