ไม่เกินจริงเลยสักนิดเมื่อ “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” หรือ “ลิซ่า BlackPink” จะได้ฉายาว่าเป็นเจ้าแม่แห่งการ Sold Out เพราะไม่ว่าอะไรที่อยู่บนร่างกายเธอก็ทำเอาขายหมดเกลี้ยงได้อย่างรวดเร็ว
โดยไม่นานนี้เจ้าตัวเพิ่งโพสต์รูปอยู่ในเสื้อไหมพรมสีฟ้า หมวกสีชมพู ลงในไอจี พร้อมเขียนแคปชันภาษาเกาหลีที่แปลว่า “ขอให้ 2022 เต็มไปด้วยสิ่งดีๆ” เพื่อทักทายปีใหม่กับแฟนๆและผู้ติดตามกว่า 71.6 ล้านคน นอกจากรอยยิ้มสดใสของ ลิซ่า แล้วแฟนๆยังสนอกสนใจกับแฟชันการแต่งกายของเจ้าตัวด้วย
โดยเฉพาะเสื้อไหมพรมสีฟ้าลายดอกทิวลิปสีเหลือง ซึ่งเป็นของแบรนด์ Graffitionmind ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าของ จอนจองฮยอน พี่ชายของ จองกุก จากวงบอยแบนด์ดัง BTS
Graffitionmind เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2021 ภายใต้ชื่อบริษัทว่า Six6uys ซึ่งเสื้อตัวนี้มีราคาอยู่ที่ 189,000 วอน หรือประมาณ 5,277 บาท มีด้วยกัน 2 ไซส์ และขายหมดทั้ง 2 ไซส์
นอกจากนั้นยังมีหมวกไหมพรมหนานุ่มสีชมพูจากแบรนด์ Misu A Barbe ซึ่งราคาอยู่ที่ 165,000 วอน หรือประมาณ 4,600 บาท
ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าหลักพันเท่านั้น แต่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ชั้นนำทั้ง Celine, Bvlgari และ เครื่องสำอาง MAC ก็ทำยอดขายถล่มทลายเช่นเดียวกัน
โดยสร้อยคอ Bvlgari ที่ราคาสูงถึง 1.7 ล้านบาท, เสื้อขนเฟอร์ราคา 7 แสนบาท หรือแม้แต่เสื้อที่เจ้าตัวใส่กลับด้านก็ยังขายหมดเกลี้ยง รวมไปถึงเครื่องสำอาง MAC ที่ ลิซ่า ร่วมครีเอทก็ Sold Out ถ้วนหน้า
ลิซ่า นับเป็นศิลปินเคป็อปหญิงคนแรกที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ MAC ก่อนจะขึ้นแท่นเป็นแบรนด์โกลบอลแอมบาสเดอร์ในปี 2020 ส่วนในวงการแฟชัน ลิซ่า ได้เป็น แบรนด์โกลบอลแอมบาสเดอร์คนแรกในรอบ 70 ปีให้กับ Celine ในเดือน ก.ย. 2020
ซึ่งทำให้แบรนด์เติบโตเมื่อปี 2021 ถึง 118% กวาดเงินไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นเป็นแบรนด์หรูที่มีมูลค่าแบรนด์เติบโตเร็วที่สุด
นอกจากนั้นยังเป็นแบรนด์โกลบอลแอมบาสเดอร์ Bvlgari ในเดือน ก.ค. 2020 ที่แม้แต่สตาฟฟ์ของแบรนด์เครื่องประดับก็ถึงขั้นเอ่ยปากว่า ลิซ่า สามารถทำให้สินค้าของ BVLGARI มียอดจองหมดได้ในเวลาเพียงแค่ 1 ชม. โดยเป็นสิ่งที่ทีมงานเองไม่ได้คาดหวังว่า ลิซ่า จะสามารถสร้างอิมแพ็คในการขายได้มากขนาดนี้ จึงไม่แปลกใจที่บรรดาแบรนด์ชั้นนำต่างๆ พากันต่อสัญญาและยกให้ ลิซ่า เป็นลูกรักของแบรนด์ไปแล้ว
