“แม่หมู” เปิดไฟเขียว ยุให้ “นาย” จีบ “ใบเฟิร์น” อยากเปลี่ยนเพื่อนเป็นคู่รัก ทำลูกๆ เขินหนักไปไม่เป็น ปัดปากแข็งทั้งคู่ ที่ผ่านมาไม่เคยจีบกัน เตรียมเสิร์ฟความจิ้นในละคร “สร้อยสะบันงา” ตื่นเต้นจะได้ออนแอร์ หลังโควิดทำพิษใช้เวลาถ่ายทำกว่า 2 ปี รับบทพีเรียดครั้งแรก เป็นอะไรที่ท้าทายมาก
ถ่ายทำกันมานานกว่า 2 ปี ในที่สุดละครพีเรียดเรื่องล่าสุดของช่อง 3 “สร้อยสะบันงา” ก็ได้ฤกษ์ออนแอร์แล้ว ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. โดยจะเริ่มตอนแรก 24 มกราคมนี้ ล่าสุดวันนี้ (11 ม.ค.) พระเอกนางเอกของเรื่อง อย่าง “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ”และ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” ก็เลยขอมาเล่าถึงความเข้มข้นของละคร และความสนุกสนานในกองถ่ายให้ได้ฟังกัน
ซึ่งงานนี้ก็มีโมเมนต์ ให้แฟนคลับได้ฟินจิกหมอน เมื่อ “แม่หมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ” เอ่ยปากบอกลูกชาย ว่า “จีบสิลูกๆ” ที่แปลว่าจีบ “ใบเฟิร์น” เลยสิลูก กลางวงสัมภาษณ์ Press Interview ทำเอาลูกๆ ถึงกับเขินหนักไปไม่เป็นเลยทีเดียว
นาย : “ดีใจ ที่ได้กลับมาเล่นกับนางเอกของผมอีกรอบ ก็สนุกสนาน แล้วก็เป็นพีเรียดเรื่องแรกของเราทั้งคู่ครับ ใช้เวลาการถ่ายทำนานถึง 2 ปี บวกกับเจอโควิดด้วยประมาณ 2 ปี ในที่สุดวันนี้ก็จะได้ออนแล้ว”
ละครพีเรียดเรื่องแรกเป็นงานที่ท้าทายมาก
นาย : “มันท้าทายมากเลย เพราะด้วยว่ามันไม่ใช่ยุคสมัยนี้ วิธีการพูดการแสดงออก เราก็ต้องไปทำการศึกษาทำการบ้านกันมาอย่าง หนักมาก”
ใบเฟิร์น : “ของเฟิร์นจะยากตรงที่ว่าต้องเล่นตั้งแต่ช่วงที่เป็นเด็ก 17-18 จนเข้าไปอยู่ในวัง รู้สึกว่าต้องทำการบ้านในเรื่องของช่วงอายุเยอะ วิธีคิดเขาเป็นอย่างไร จึงทำให้เขาโตมาเป็นคนแบบนั้น”
นาย “ถามว่าเล่นกับเขาลำบากใจไหม ถามแบบนี้ผมเริ่มไม่มั่นใจ (หัวเราะ) ไม่หรอกครับ ใบน่ารักกับผมมาก ตั้งใจทำงานมากๆ อยู่กองก็น่ารักกับทุกคน คือเขาอยู่ตรงไหน ก็จะมีเสียงหัวเราะ มีแต่รอยยิ้มตลอด ดีใจที่ได้เล่นกับเขาครับ”
โควิด-19 ทำใช้เวลาถ่ายนานถึง 2 ปี ประกอบกับฉายหลายประเทศเลย ต้องดัดแปลงให้เข้ากัน
นาย : “เพราะโควิดครับ ด้วยมาตรการที่ออกมา มีเรื่องของการรักษาความปลอดภัย สองความที่ละครเรื่องนี้ เราต้องไปออนแอร์หลายประเทศมาก เราต้องมีการดัดแปลง เพื่อให้เข้ากับแต่ละประเทศด้วยครับ เรื่องนี้เป็นย้อนยุคเสื้อผ้า หน้าผม ในแต่ละฉาก ใช้เวลาในการทำเยอะมากดูในละครก็ได้นะครับ ผมเชื่อว่าทุกคนพอดูในละคร แล้วจะรู้สึกว่า กรุงเทพฯ มันสวยจริงๆ เหรอนี่”
คาแรกเตอร์ตัวละครมีครบทุกรส
ใบเฟิร์น : “ของเฟิร์นรับบทเป็นงามค่ะ เป็นผู้หญิงที่หญิงทะนงในศักดิ์ศรีมาก มีความทะเยอทะยานอยากอยู่ในสถานะที่ดีขึ้น อยากมีราชสกุลเป็นลูกกบฏแต่ก็อยากที่จะมีชีวิตอีกอย่าง”
นาย : “รับบทเป็นคนชื่อเทียนเกิดในครอบครัวที่ไม่ได้มั่งมี เราเสียคุณพ่อไปคุณแม่ก็แต่งงานใหม่ ทุกอย่างเราก็ต้องดิ้นรนทำทุกอย่าง เพื่อที่จะให้ได้ด้วยตัวเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง ได้มาเจอนางเอก แล้วก็มาเจอพี่ชายเขา มีเหตุการณ์ที่พี่ชายเขาเสียชีวิต ทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นความผิดอะไรสักอย่าง ที่เราทำให้เกิดเหตุอย่างนี้ เรารู้สึกว่าต้องดูแลเขาเป็นน้องแบบนี้ไปตลอด
ช่วงแรกๆ เราก็ยังไม่คุ้นชินกันด้วยความที่เป็นละครพีเรียด แต่งหน้า ทรงผม มันก็แปลกๆ อยู่ แต่พอสักพักที่เล่นไปแล้วมันก็เริ่มชินตาครับ เข้าฉากยากน่าจะเป็นพี่ปั้นจั่น ปรมะ เพราะว่าเวลาที่หน้าเขาจริงจัง เขาก็ดูตลกสำหรับพวกเรา เพราะว่าเขาเป็นคนที่ชอบแกล้งทุกคนในกอง”
โชคดีได้ประชันฝีมือ กับนักแสดงรุ่นใหญ่หลายคนทำให้ตัวละครอินไปกับสถานการณ์
ใบเฟิร์น : “เป็นความโชคดีของพวกเรา นักแสดงแต่ละคนเก่งมากๆ เป็นตำนานจริงๆ ทุกคน สิ่งที่เขาช่วย ที่เขาเล่นกันดีมากๆ และเรื่องราวตรงนั้นมันไปแตกในสิ่งที่เราไม่คาดคิด ด้วยการแสดงของเขา ทำให้เรื่องราวตรงนั้นมันเข้มข้นขึ้นไปอีก มันก็เป็นส่วนดีที่ ทำให้นักแสดงอย่างเราอินไปกับสถานการณ์ตรงนั้น และทุกอย่างมันก็โดดเด่นขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ด้วย”
นาย : “บางทีเวลาเราเล่น เราก็ยังไม่มีภาพในหัว แต่พอเวลาเขาเล่น พี่เขาส่งอารมณ์มาให้เรา และผมก็โชคดีทุกคนน่ารักคอยสอนตลอดครับ”
นอกจากมาตรการโควิดแล้ว เรื่องสถานที่ถ่ายทำก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ล่าช้า
ใบเฟิร์น : “เรื่องสถานที่ที่เราไปทำเป็นวัง แต่ละวังก็ยังมีตำหนักแยกของบรรดาเมียแต่ละคนของพระองค์ชาย ก็ถ่ายแยกคนละทีมเลย”
นาย : “แล้วก็มีเหตุการณ์สมมติ จำลองสถานการณ์ต่างๆ เช่น เรือ ซึ่งเรือน่าจะยากสุด วันหนึ่งที่ไปถ่ายซีนที่เป็นเรือ ขอบอกเลยซีนนั้นครึ่งวัน มันมีเรื่องของความปลอดภัยเข้ามาด้วย”
ถ่ายฉากเลิฟซีนไปแล้วก่อนมีโควิด
นาย : “ช่วงถ่ายเลิฟซีนเรา ถ่ายไปก่อนที่มีเรื่องของโควิดเข้ามา แต่ช่วงที่มีโควิด เขาก็จะเอาซีนที่ไม่ต้องการใกล้ชิดกันมาก ไม่ว่ากับนักแสดงคนไหน ก็คำนึงถึงความปลอดภัยของทุกคนไว้ก่อน”
เลิฟซีนในละครพีเรียด เป็นอีกเสน่ห์ที่ได้ลองเล่น
นาย : “ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นการฉาบฉวย หรือว่ามันเป็นอะไรที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าเกิดย้อนกลับไปในช่วงนั้น ทุกอย่างมันต้องใช้ความอดทน ต้องรอและใช้ความพยายามมาก มันไม่มีการส่งข้อความ หรือการเฟซไทม์เหมือนทุกวันนี้ เพราะฉันนั้นตอนนี้ผมรู้สึกว่า มันเป็นเสน่ห์ ของความเป็นพีเรียดที่เราได้เล่น เพราะผมรู้สึกว่าทุกๆ อัน มันเหมือนค่อยๆ ปั้น ค่อยๆ ทำจนสร้างมาจนถึงจุดนั้นจริงๆ”
การเล่นเลิฟซีนกับคนรู้จัก มันยากแค่ตอนซ้อม พอเอาจริงก็ไม่ได้เขิน
นาย : “ถ้าตอนซ้อมก็เหมือนจะยาก เพราะว่าเราเล่นกัน แต่พอถ่ายจริง เขาก็ไม่เคยหลุด”
ใบเฟิร์น : ไม่เป็นไรเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าตอนซ้อมเราชอบเล่นกัน แต่พอเอาจริงไม่ได้เขินกันเพราะรู้สึกว่าไว้ใจกันในเรื่องพวกนี้”
เป็นการเล่นเลิฟซีนด้วยกันมากที่สุด
นาย : “เรียกอย่างนั้นก็ได้ ต้องรอดู แต่ก็น่าจะได้เห็นในทีเซอร์บ้างแล้ว”
เตรียมฉายพร้อมกันกับอีก 9 ประเทศ
นาย : “พร้อมกันน่าจะ 9 ประเทศ ถ้ารายละเอียดที่ผมทราบมาไม่ผิดนะครับ แล้วใบก็จะมีแฟนคลับต่างประเทศหลายประเทศ แต่ละประเทศก็น่ารักๆ มากเลยเนอะ เวลาเราลงภาพอะไรก็คือทุกคนจะแท็กมาเป็นภาษาของประเทศตัวเอง น่าจะเคยติดตามภาพยนตร์เฟรนด์โซนของเราด้วย ก็อยากให้รอติดตามละครเรื่องนี้กันครับ”
บทละครสะท้อนสังคม มีข้อคิดให้นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
นาย : “บทเรื่องนี้ในความรู้สึกผมมันน่าที่จะสะท้อนสังคมมากๆ มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของคนสมัยนี้ที่ต้องพบเจอปัญหาเรื่อง ไม่ว่าจะมีอะไรก็ตามสุดท้ายก็มีแทรกสะท้อนในเรื่องนี้ครับ”
ไม่คาดหวัง แค่อยากให้ดูกันเพื่อหายคิดถึง
นาย : “ไม่กล้าคาดหวัง (หัวเราะ)”
ใบเฟิร์น : “ให้เขาสนุกให้เขาหายคิดถึงกัน คิดว่าเป็นอีกอันหนึ่งที่แฟนๆ น่าจะชอบ แล้วละครเรื่องนี้ยังให้คนได้เห็นความเป็นไทยในแต่ละยุคสมัยด้วย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้าผม”
นาย : “ในความรู้สึกผม บทเรื่องนี้ค่อนข้างสะท้อนความเป็นจริงของสังคมมากๆ ว่ามีข้อคิดที่เอามาปรับใช้ในชีวิตจริง และสุดท้ายจะจบด้วยข้อคิดดีๆ ที่มันสะท้อนให้เห็นอยู่ในละครทุกตัว”
มูทแอนด์โทนเป็นแนวโรแมนติกดรามา
ใบเฟิร์น : “โรแมนติกดรามาค่ะ สนุกค่ะ แต่บางครั้งก็สงสารทีมงานนิดหนึ่ง เพราะนักแสดงเยอะ และแต่ละคนค่อนข้างซน แต่ก็สนุกและเฮฮา ไม่มีตรงไหนตึงเครียดเลย”
นาย : “อย่างใบเฟิร์นเป็นคนขี้แกล้งอยู่แล้ว บางวันก็คาดเดาไม่ได้ว่าแต่ละวันจะเจออะไร”
ยกให้ “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย” เป็นคนสร้างสีสันที่สุดในกอง
ใบเฟิร์น : “พี่ปั้นจั่นเขาชอบเล่น ชอบแหย่คนนั้นคนนี้ให้ทุกคนหัวเราะตลอดเวลา”
นาย : “แกเอนเนอร์จี้เยอะมาก”
ใบเฟิร์น : “บางทีก็ชอบแกล้งว่าจำบทไม่ได้บ้างอะไรอย่างนี้”
นาย : “จริงๆ หน้าเขาคือจริงจัง แต่กลายเป็นว่าตลกสำหรับพวกเรา เพราะเวลาไม่ได้เข้าฉากเขาเป็นคนตลกมาก ด้วยเราเห็นภาพพวกนั้นมาเยอะ พอเห็นเขาในโหมดเคร่งขรึมก็เลยตลก”
มีผิดคิวบ้างเวลาเข้าฉาก หนักสุดคือโดนเป้าเข้ากล่องดวงใจ
ใบเฟิร์น : “ก็มีเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้หนักเท่าไหร่ ส่วนมากเป็นรอยขีดข่วน มาจากอารมณ์ตอนแสดงเช่นฉากฉุดกระชาก แต่ก็เป็นปกติของการถ่ายละคร”
นาย : “ส่วนของผมไม่ใช่ฉากบู๊อะไรมากครับ แต่เกือบสูญพันธุ์ฉากขี่ม้า (หัวเราะ) ใบเฟิร์นนี่แหละครับ คือเป็นฉากขึ้นม้าทีนี้ผมต้องจับคอม้าตัวที่นั่งให้เขากระโดดขึ้น เขาเอาขาข้างหนึ่งวางส่วนเข่าก็เตรียมสะบัด ซึ่งตอนที่สะบัด เขาสะบัดมาโดนเป้าผม แล้วเขาก็ไม่รู้ตัว แต่สำหรับผมมันเต็มเป้าเลย ถ้าปาลูกดอกคือโดนสีแดงตรงกลาง”
ใบเฟิร์น : “เฟิร์นก็ไม่รู้เรื่องเลย แต่ก็เห็นเขา ก็สงสัยว่าทำไมหน้าตาทรมานจัง พอมารู้ก็ไปขอโทษเขา”
นาย : “โดนกล่องดวงใจ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงครับ”
ประทับใจทุกภาคส่วนในกองถ่าย ตื่นเต้นจะได้ฉายแล้ว
ใบเฟิร์น : “ประทับใจทุกภาคส่วนเลยค่ะ ตั้งแต่การได้มาร่วมงานกับ พี่นก (จริยา แอนโฟเน่) ทีมงานโปรดักชันก็ทำทุกอย่างออกมาได้อย่างสวยงามและสมจริงมากๆ อาหารการกินในกองก็สุดยอด บทก็สนุก ทีมงานก็น่ารัก เฟิร์นก็รู้สึกตื่นเต้นที่วันนี้จะฉายแล้ว”
ไม่เคยโดนแซวเรื่องความสัมพันธ์ในกองถ่าย
นาย : “ไม่มีนะ”
ใบเฟิร์น : “ไม่มีค่ะ”
นาย : “เขาก็เห็นว่าอยู่ด้วยกันเฮฮาร่าเริง”
ไม่มีโมเมนต์ชวนจิ้นเหมือนคู่อื่นๆ
ใบเฟิร์น : “แบบหันมาแล้วล้มหน้าจ๊ะเอ๋กันอ่ะเหรอ (หัวเราะ) ไม่เคยเลยค่ะ”
นาย : “มีแต่เขาถีบผม (หัวเราะ)”
ใบเฟิร์น : “มันเป็นอุบัติเหตุ”
นาย : “อย่างที่เห็นก็ชอบแกล้งกัน แกล้งเขาสนุกดี”
อุบตอบลุ้นขึ้นหรือไม่
นาย : “ไปลุ้นในละครครับ (แล้วเรื่องจริงละ?) ขออุบไว้ก่อนเดี๋ยวละครจบ จะเล่าให้ฟัง (หัวเราะ)”
แจงตอบสถานะเพื่อนที่หวังดี เหมือนปิดประตูจิ้น
ใบเฟิร์น : “ก็เป็นเพื่อนจริงๆ นะ เป็นเพื่อนมาตลอดเลย”
นาย : “เพื่อนกัน หวังดี มีอะไรก็ช่วยเหลือกันดีกว่า มีปัญหาอะไรก็คือเล่าให้ฟังและปรึกษากัน”
เผย “แม่หมู” ชอบและรัก “ใบเฟิร์น” มาก
นาย : “แม่ชอบแม่รักเขา (แล้วเรารักเขาไหม?) (ไม่ตอบแต่ยิ้ม) ก็ดีใจ แม่แฮปปี้ที่มีเพื่อนคุยเกี่ยวกับเรื่องกระบองเพชร”
ใบเฟิร์น : “น่ารัก เป็นคนเฮฮา เวลาอยู่กับแม่เลยสนุกสนาน”
นาย : “แม่บอกว่าสาวๆ แม่เหมือนใบเฟิร์น แม่บอกว่าเหมือนแม่มองเห็นตัวเองในกระจก แต่ป่านนี้กระจกแตกแล้ว (หัวเราะ)”
ไม่กดดัน โดนจับตามองเรื่องความสัมพันธ์ตลอด
ใบเฟิร์น : “ไม่เลยค่ะ ไม่สะทกสะท้านอะไรเลยค่ะพวกหนู (หัวเราะ)”
ถึงกับไปไม่เป็น เมื่อ “แม่หมู” ไฟเขียว บอกให้ “นาย” จีบ “ใบเฟิร์น”
แม่หมู : “จีบสิลูกๆ (หัวเราะ)”
นาย : “ดูละครก่อนครับ ขอให้ดูที่ปัจจุบัน แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากันทีหลัง”
ใบเฟิร์น : “ดูละครก่อนค่ะ”
ปัดปากแข็งกันทั้งคู่ ที่ผ่านมาไม่เคยจีบกัน
นาย : “ไม่ได้ปากแข็งครับ แต่ละครยังไม่ออนแอร์ เราก็ทีละนิดๆ เนอะ”
ใบเฟิร์น : “ไม่เคยจีบกันเลยค่ะ”
นาย : “มีแต่แบบดูแล เป็นห่วง ปกติ”
ใบเฟิร์น : “(แบบนี้เรียกว่าจีบ?) ห๊ะ! นั่นแน่”
แม่หมู : “ต้องให้พี่ๆ ช่วยเชียร์ จากที่เล่นละครให้เป็นคู่รัก อินเลิฟกัน เรื่องที่ผ่านมาเล่นเป็นเพื่อนกัน เรื่องต่อไป เดี๋ยวไปคุยกับพี่สมรักษ์ ณรงค์วิชัย (ยิ้ม)”
นาย : “ถามเขาก่อนว่าเบื่อผมหรือยัง เจอมา 4-5 ปีแล้ว (ยิ้ม)”
เจอมา 4-5 ปีแต่ไม่เบื่อ ไม่พร้อมจะเลื่อนสถานะ
ใบเฟิร์น : “ไม่เบื่อค่ะ”
นาย : “เป็นเพื่อนกันครับ ดูละครจบแล้วค่อยว่ากัน (แปลว่าหลังละครจบ มีการเปลี่ยนสถานะ?) ถ้าหลังละครจบ แล้วมีคนชื่นชอบเยอะ อาจมีงานต่อไปเรื่อย ๆ ที่ทำให้ได้เจอกันทุกวัน”
ย้ำยังโสดกันทั้งคู่
นาย : “โสดครับ”
ใบเฟิร์น : “โสดค่ะ”
ฝากติดตาม “สร้อยสะบันงา” ออนแอร์ตอนแรก 24 มกราคมนี้ ทางช่อง 3
นาย : “ฝาก ‘สร้อยสะบันงา’ ด้วยนะครับ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ มาแสดงช่อง 3 ครั้งแรก และเป็นละครพีเรียด จากค่ายเมกเกอร์ เจ กรุ๊ป ของป้านก จริยาและมีนักแสดงมากฝีมือ ผมเชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักและคุ้นหน้าเป็นอย่างดี อยู่ในเรื่องนี้ด้วย และเป็นละครที่เข้มข้น มีทุกรสเลย มีความสวยงามของฉาก ออนแอร์ในวันที่ 24 ม.ค. นี้ อีกไม่กี่วันแล้วครับ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 กด 33 ทุกวันจันทร์และอังคารครับ และมีในต่างประเทศที่ออนแอร์พร้อมกัน สามารถดูย้อนหลังได้ทาง CH3 Plus ครับ”
ใบเฟิร์น : “ขอบคุณแฟนๆ ที่รอติดตามพวกเราสองคนมาโดยตลอด เชื่อว่าเรื่องนี้จะครบทุกรส มีความโรแมนติก ดรามาให้ทุกคนหายคิดถึงแน่นอน ขอฝาก ‘สร้อยสะบันงา’ ด้วยค่ะ”
