xs
xsm
sm
md
lg

“แต้ว” สุดกลั้นน้ำตา เรื่องหนักที่สุด ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทำอะไรก็โดน เป็นโรคแพนิคเพราะอยากเพอร์เฟกต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มีภาพเป็นนางเอกสุดแกร่งมาตลอด สำหรับ “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” แต่ล่าสุดเจ้าตัวถึงกับหลั่งน้ำตา หลังให้สัมภาษณ์กับ “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา”ซึ่งเผยเรื่องการสูญเสียคุณพ่อ และสิ่งที่ทำให้ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทำอะไรก็โดน

“ก่อนหน้านี้แต้วได้ฉายาเป็นคนไม่มีข่าว อยู่ดีๆ อะไรไม่รู้ พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือไปหมด ทุกอย่างที่เราใส่ไปในโซเชียลหรือโพสต์เอง เราต้องรับผิดชอบและยอมรับ มันอาจมีคำพูดที่บางคนรู้สึกว่าเจ็บจังเลย แต่แต้วเข้าใจว่าเขาไม่ได้รู้จักแต้วทุกมิติ ไม่ผิดที่เขาจะมองเห็นบางมุมและตัดสินเราไปบ้าง เลยรู้สึกว่าไม่เป็นไร คนรอบข้าง แม่ พี่ ทุกคนโอเค ก็โอเค ทุกครั้งที่เต้น ใส่ชุดว่ายน้ำ แต้วมองว่าโซเชียลมีเดียของแต้วคือไดอารี่แต้ว แต้วจะได้กลับมาดูว่าวันนี้ไปไหน แต้วแฮปปี้ ไม่แฮปปี้ แค่นั้น”

วู้ดดี้ถามว่าสองสามปีที่ผ่านมา สิ่งที่ทำให้เบิกบานคือการมีแฟนที่น่ารัก แต้วก็ตอบว่า “ก็จริง ก็แฮปปี้ค่ะ กินข้าว อาหารอร่อย (หัวเราะ) ก็ดีค่ะ ทุกอย่างดี แต้วค่อนข้างแมนมากกับครอบครัว กับญาติพี่น้อง เรารู้สึกว่าเราจัดการได้ทุกอย่าง โยนมาเลย ไม่ค่อยอ่อนแอ แต่กับเขาทำให้เรารู้สึกตัวเล็กๆ บอบบาง (หัวเราะ) มันคงเป็นความจริงจังบางอย่าง รีเลชั่นชิปที่รู้สึกว่าโอเค ยอมก็ได้ (หัวเราะ)”

เราแฮปปี้ ทุกคนคงดูออก เด็กอมมือก็คงดูออก (หัวเราะ) มันแฮปปี้จนเรารู้สึกว่าอยากเก็บความรู้สึกไว้ เพราะที่ผ่านมาสอนให้เรารู้ว่าไม่มีอะไรยั่งยืน แม้แต่เรื่องคุณพ่อ เราอยากเก็บมันไว้ เราไม่รู้จะเก็บด้วยวิธีไหน ภาพก็เล่าไม่ได้ เราเลยเขียนไดอารี่ ตั้งแต่วันแรกๆ ที่เจอ เขียนว่าเรารู้สึกยังไง แต่มันคิดอย่างนั้นจริงๆ ณ ตอนนั้น ต่อไปอาจไม่มีแล้วหรือไม่ใช่ อะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่รู้ แต่ตอนนั้นมันจริงในความรู้สึกเรา เลยอยากเก็บเอาไว้ ก็เลยเขียน ซึ่งเราต้องกลับไปที่ความจริง ไม่มีใครเพอร์เฟกต์ อย่ามองหาความเพอร์เฟกต์ พยายามเข้าใจส่วนไม่เพอร์เฟกต์ของเขา ดูว่าเขารับความไม่เพอร์เฟกต์ของเราได้ไหม”

เผยเรื่องที่คนไม่เคยรู้ เป็นโรคแพนิคเพราะอยากเพอร์เฟกต์
“คือแต้วเป็นแพนิค เมื่อไม่โอเคกับสภาพร่างกาย หนาวเกินไป เจ็บปวด ปวดท้อง เราคอนโทรลมันไม่ได้ เราจะแพนิค ฟิลลิ่งคืออยู่ไม่ติดที่ เราไม่สมควรอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัย แต่ไปไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน เคว้งคว้าง หายใจไม่เข้า ตะเกียกตะกาย ข้างนอกปกติ แต่ข้างในมันแย่ เป็นมา 4-5 ปีแล้ว เหมือนช่วงนั้นคงเครียด เราพยายามเพอร์เฟกต์ อยู่ดีๆ ก็ปวดท้องไม่มีสาเหตุลำไส้แปรปรวน แล้วมันก็ตีกัน มันค่อนข้างงงๆ ตอนแรกที่เป็นกลัวไปหมด กลัวมันมาอีก จะข้ามไปได้ก็ต่อเมื่อมียา ต้องมียาไปทุกที่ แต่เราคิดว่าเราจะอยู่โดยไม่มีเขาให้ได้ ก็ค่อยๆ ฝึกลมหายใจ ลดยาลง เราต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง ผิดได้ ไม่เป็นไร ล่าสุดที่เป็นคือแต้วเป็นที่เกาหลี พ่อบินมากอดเรา ฮีลทุกอย่าง เป็นกอดที่เราจำ มันเปลี่ยนทุกอย่างได้ ก็คิดถึงพ่อ”

รับทำแม่ช็อกที่ตัดสินใจไม่ยื้อพ่อไว้ เพราะไม่อยากให้ทรมานสักวินาทีเดียว
“เราชงกาแฟให้พ่อ ให้แม่ตลอด จนพ่อเกิดอุบัติเหตุ แต้วถ่ายโฆษณาอยู่ แม่ก็ไปด้วยตามปกติ สักพักแม่เฟดออกไป สุดท้ายผู้จัดการเดินมาบอก สั่นเลย ตัวชา ต้องยกกองไปรพ. ไม่รู้ว่าแย่ขนาดไหน เห็นว่าพ่อทรมานมาก เพราะรถชนและมันแตก ลามไปข้างใน เราไม่ร้องไห้เลยตั้งแต่วันนั้น ต้องมีสติมากๆ พาพ่อไปหาหมอที่รักษาได้ ต้องจัดการโน่นนี่นั่น อยู่ตรงนั้นเกือบ 20 วัน ตัดสินใจวินาทีต่อวินาที เดี๋ยวก็มีความหวัง เดี๋ยวก็หมดความหวัง พ่อฮีลแต้วทุกอย่างไม่ว่าจะเจ็บป่วยทางใจทางกาย แต้วจะไม่ยอมให้พ่อเจ็บ ถ้าเขาจะไปแต้วจะไม่ทำให้ทรมาน แม่ก็ช็อกกับสิ่งที่แต้วคิด แต่กับคนๆ นึงที่ต้องต่อสู้กับความทรมานเราไม่อยากให้พ่ออยู่อย่างนั้นสักวินาทีเดียว สุดท้ายก็คุยกันยอมรับกันว่าถ้าจะเกิดอะไรขึ้นก็เกิด จนวันสุดท้ายก็เป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง แม่ก็คุยกับพ่อ ไม่รู้ว่ารับรู้หรือเปล่า ทุกวินาทีก็จำทุกอย่าง”

ร่ำไห้ทุกวันนี้ยังชงกาแฟให้พ่อทุกเช้า
“ตอนนี้ทุกเช้าจะยังชงกาแฟให้พ่ออยู่ (น้ำตาไหล) ก็คุยกันในใจ คุยกับคุณแม่ตลอด แม่เข้มแข็งมาก เป็นกำลังใจให้กัน ใครไม่ไหวก็กอดกัน แม่เป็นทุกอย่าง เพราะเหลือแต่แม่ แม่ก็บอกว่าเหลือกันสองคนแล้วนะ นึกถึงตอนนี้ถึงต่อไป ก็เหลือกันแค่นี้ ก็อยู่กับความกลัวเหมือนกัน (ร้องไห้)”







กำลังโหลดความคิดเห็น