2 ยักษ์ใหญ่วงการบันเทิงไทย “เวิร์คพอยท์ฯ-เอ็ม พิคเจอร์สฯ” พร้อมคอลแลปส์ เปิด “สกายบ็อกซ์ฯ” สร้างศิลปิน-นักแสดงคุณภาพ

เป็นกระแสข้ามปีทีเดียวสำหรับการร่วมมือครั้งสำคัญของ 2 บริษัทฯ ยักษ์ใหญ่ของวงการบันเทิงเมืองไทยระหว่าง บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในการเปิดบริษัทบริหารศิลปิน-นักแสดง “Skybox Entertainment” (สกายบ็อกซ์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ฯ) พร้อมป้อนงานแบบไม่จำกัดค่าย โดยวันนี้เรามีบทสัมภาษณ์พิเศษ 3 ผู้บริหาร ในการร่วมมือกันครั้งนี้

“กร ชลากรณ์ ปัญญาโฉม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานดิจิทัล บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เรียกว่าเป็นการจับมือครั้งสำคัญ ที่หลายคนจับตามอง อยากให้คุณกร เล่าถึงจุดเริ่มต้นของร่วมมือของ “บริษัท เวิร์คพอยท์ฯ” กับ “บริษัท เอ็ม พิคเจอร์สฯ”

“เวิร์คพอยท์ฯ กับ เอ็ม พิคเจอร์สฯ เราลองร่วมมือกันมาสักระยะ ผ่านการทำภาพยนตร์ อาทิ ไบค์แมน, อีเรียมซิ่ง ฯลฯ ประกอบกับ ทั้ง เวิร์คพอยท์ฯ และ เอ็ม พิคเจอร์สฯ เอง ก็ร่วมงาน กับอีก หลาย ๆ บริษัทฯ ก็เลยคิดกันว่า ถ้าลองร่วมมือกันไว้ก่อน แล้วคัดสรร นักแสดงไว้ ลงทุน พัฒนาความสามารถของเขา เพื่อให้ทุก ๆ พาร์ทเนอร์ ได้ไปใช้ รวมไปถึงให้ทุก ๆ บริษัทฯ ในอุตสาหกรรม ไปใช้ได้ น่าจะช่วยได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการลงทุน การทำงานอะไรมากนัก เพราะทั้งเวิร์คพอยท์ และ เอ็ม พิคเจอร์ส ก็เป็นพาร์ทเนอร์กับผู้คนค่อนข้างมาก ใครอยากใช้อะไรใครตรงไหน เราก็ค่อนข้างยินดี”
ปีที่ผ่านมา “บริษัท เวิร์คพอยท์ฯ” รุกธุรกิจหลากหลายแนวพร้อมร่วมมือกับหลายองค์กร ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีมาโดยตลอด “บริษัท สกายบ็อกซ์ฯ” เป็นธุรกิจที่ต่างจาก ที่ “บริษัท เวิร์คพอยท์ฯ” เคยทำมาอย่างไรบ้าง

“คิดว่าความแตกต่างในครั้งนี้ เป็นความตั้งใจในการพยายามสร้าง HUB ของศิลปิน นักแสดงเอาไว้ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตขึ้น ทั้ง หนัง ซีรีส์ ละคร และงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็คิดว่าไม่ง่ายนักแต่คิดว่าอยากให้เป็นเหมือนในหลาย ๆ ประเทศ ที่มีบริษัทฯ ดูแลศิลปินไว้ และ สามารถให้ผู้ผลิตทุก ๆ รายเลือกไปใช้ได้ โดยศิลปิน นักแสดง ก็ผ่านการฝึก การลงทุนพัฒนามาแล้วในระดับหนึ่ง ซึ่งน่าจะช่วยอุตสาหกรรมได้ รวมไปถึงการส่งนักแสดง หรือ ศิลปินไปแคสติ้งว่าเหมาะ หรือไม่เหมาะ กับ บทบาทที่จะได้รับ โดยให้ผู้กำกับและผู้จัดต่าง ๆ เขาได้เห็นก่อนด้วย ซึ่งในส่วนของทั้ง เวิร์คพอยท์ฯ และ เอ็ม พิคเจอร์สฯ เอง ก็มีพาร์ทเนอร์ที่ผลิตหนัง ละคร ซีรีส์ เพลง ฯลฯ ค่อนข้างมาก ที่จะสนับสนุนในจุดนี้ได้”
“เชษฐ์ สุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

ในด้านของ “บริษัท เอ็ม พิคเจอร์สฯ” ปี 65 ค่อนข้างรุกธุรกิจหลายอย่าง อยากให้เชษฐ์เล่าถึงที่มา ที่ “บริษัท เอ็ม พิคเจอร์สฯ” เข้ามาจับตลาดทางด้านการบริหารศิลปิน-นักแสดง

“จุดเริ่มต้นเกิดจากการความร่วมมือกันระหว่าง เวิร์คพอยท์ฯ และ เอ็ม พิคเจอร์สฯ ในการร่วมทุนกันผลิตภาพยนตร์ เรียกว่าได้รับกระแสตอบรับดีมาก และประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง นอกจากนี้เรายังมีโครงการทำหนังไทยร่วมกันอีกอย่างต่อเนื่อง จึงอยากต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างศิลปินและนักแสดงรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพเพื่อให้อุตสาหกรรม Content ในภาพรวมให้สามารถขยายงานด้านต่าง ๆ ได้มากขึ้น”

ในด้านของ “บริษัท เอ็ม พิคเจอร์สฯ” ซึ่งเป็น 1 ในบริษัทฯ บันเทิงของไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในปี 65 มีการวางแผนไว้แบบไหนบ้าง และ ศิลปิน-นักแสดงที่กำลังจะเข้ามาอยู่ใน “บริษัท สกายบ็อกซ์ฯ” จะมีโอกาสร่วมงานตรงนี้อย่างไรบ้าง

“สำหรับในปี 2565 นั้นเอ็มพิคเจอร์สฯ ของเราวางแผนการผลิตภาพยนตร์ไทยเป็นจำนวนมากโดยมีพันธมิตรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศร่วมลงทุน รวมถึงร่วมจัดจำหน่ายภาพยนตร์ไทยของเราไปทั่วโลก น้อง ๆ ศิลปิน-นักแสดงที่เข้ามาอยู่ในสังกัดบริษัท สกายบ็อกซ์ฯ ทุกคนจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุก ๆ ด้านเพื่อให้ได้มีโอกาสและมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ผลงาน และพิสูจน์ความสามารถของคนไทยให้คนทั่วโลกได้เห็นผ่านภาพยนตร์ไทย และ content ต่าง ๆ ที่ทาง เอ็มพิคเจอร์สฯ เวิร์คพอยท์ฯ และ พันธมิตรของพวกเราร่วมกันผลิตขึ้น เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นสะพานเชื่อมธุรกิจ Content
ต่าง ๆ ของไทยเข้าด้วยกันผ่านศูนย์รวมศิลปินและนักแสดงของ สกายบ็อกซ์ฯ ซึ่งจะสามารถการสร้างความเข้มแข็งให้กับ soft power ของไทย และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยไปสู่สายตาชาวโลกได้เป็นอย่างดี”

“โจ้ วิรัตน์ เฮงคงดี” ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตละครโทรทัศน์ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สกายบ็อกซ์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด เพิ่งเปิดออดิชันไปไม่กี่วัน แต่กระแสตอบรับที่มีอยู่ขณะนี้มีมาอย่างต่อเนื่อง อยากให้คุณโจ้ เล่าถึงภาพรวมของ “บริษัท สกายบ็อกซ์ฯ”

“บริษัท สกายบ็อกซ์ฯ เกิดขึ้นจากการที่ เวิร์คพอยท์ฯ และ เอ็ม พิคเจอร์ส ได้ร่วมงานด้วยกันในหลายปีที่ผ่านมา และมีความเห็นตรงกันว่า ทั้ง 2 บริษัทฯ ต่างมีผลงานที่ผลิตต่อเนื่องในจำนวนมาก เวิร์คพอยท์ฯ เองนอกจากรายการโทรทัศน์ หรือ ช่องทางออนไลน์ คอนเสิร์ต ละครเวที งานอีเว้นท์ ก็ได้เริ่มเดินหน้ากับการสร้างละครโทรทัศน์ และซีรีส์ให้กับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ส่วนทาง เอ็ม พิคเจอร์สฯ เองก็มีการผลิตภาพยนตร์ และโปรเจ็คต่าง ๆ เป็นจำนวนมากในแต่ละปี ทำให้มองเห็นว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ดีถ้าจะร่วมมือกันใช้จุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละฝ่าย เพื่อสร้างบริษัทบริหารศิลปินให้เกิดขึ้น ทั้งเพื่อรองรับงานของทั้ง 2 บริษัทฯเอง และ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังในการสร้างศิลปินที่มีคุณภาพให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงไทย”

การเปิดให้ผู้ที่สนใจจากทั่วประเทศมาออดิชัน กับ “สกายบ็อกซ์ฯ” เรียกว่าไม่จำกัดแค่ภาคกลาง ถือว่าเป็นการเปิดโอกาส
“การที่เราเลือกเปิดออดิชันในพื้นที่ทุกภูมิภาคของประเทศนั้น มาจากประสบการณ์ในเรื่องการค้นหาผู้คนในงานที่ผ่าน ๆ มาแล้วพบว่า มีผู้คนอีกจำนวนมากที่มีความสามารถ มีความฝัน และต้องการทำงานในลักษณะนี้ แต่การเข้าถึงโอกาสนั้นยังยากอยู่มาก โดยเฉพาะหากเราเปิดออดิชันเพียงแค่ที่กรุงเทพฯ จะทำให้ตัดโอกาสของคนจำนวนหนึ่งลงไปที่ไม่สะดวกหลาย ๆ เรื่อง ทั้งเรื่องการเดินทาง เวลาที่ต้องวางแผน หรือค่าใช้จ่ายที่ต้องเกิดขึ้น เราจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายเดินทางไปหาพวกเขาในหัวเมืองใหญ่ของแต่ละภูมิภาค ด้วยความคิดในการเพิ่มโอกาสให้กับทุกคน ไม่ใช่แค่ผู้สมัครแต่รวมถึงพวกเราเองด้วย ที่จะได้มีโอกาสเจอกับคนที่มีความสามารถ มีพรสวรรค์ โดยลดข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคที่ทำให้เราไม่ได้เจอกันให้เหลือน้อยที่สุด และในอนาคตเรามีแผนจะลงไปหาถึงระดับจังหวัด ไปถึงมหาวิทยาลัย ไปถึงโรงเรียนด้วย”

ผู้ที่ผ่านการออดิชัน มาร่วมงานกับ “สกายบ็อกซ์ฯ” สามารถร่วมงานได้กับทุกค่าย ทุกสังกัด ไม่จำกัดแค่ “บริษัท เวิร์คพอยท์ฯ” และ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์สฯ”
“นั่นเป็นเป้าหมายหลักของเราตั้งแต่เริ่มต้น ที่ต้องการให้สกายบ็อกซ์ฯ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนวงการในมุมของการสร้างศิลปินที่มีคุณภาพ เพื่อทุกช่อง ทุกค่าย ทุกแพลตฟอร์ม ผมพูดเรื่องนี้บ่อยหน่อย นั่นเพราะเมื่อเราตั้งใจลงทุนลงแรงในการค้นหาและพัฒนาศิลปินอย่างเต็มที่แล้ว เราก็อยากให้เป็นประโยชน์กับทุก ๆ คนในอุตสาหกรรมนี้ ให้ได้ช่วยกันผลักดันส่งเสริมให้งานของไทยดีขึ้น ๆ ในส่วนต่าง ๆ เพราะทั้งวงการต้องไปด้วยกัน และในขณะเดียวกันเมื่อไม่จำกัดค่ายในการรับงาน ศิลปินเองก็จะมีประสบการณ์ในการทำงานที่หลากหลาย ได้เจอผู้กำกับ ได้เจอทีมงาน ได้เจอลักษณะการทำงานที่แตกต่าง ทำให้มีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพได้มากขึ้น และไม่ยึดติดกับรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งด้วยครับ”

ในความเป็น “สกายบ็อกซ์ฯ” จะต่างหรือเหมือนกับบริษัทฯบริหารศิลปิน-นักแสดงที่มีอยู่ในวงการบันเทิงอย่างไรบ้าง
“จุดเด่นที่เราจะต่างจากที่อื่น นอกจากจะมีงานรองรับในช่องทางมากมายที่มีอยู่แล้วของทั้ง 2 บริษัท และในขณะเดียวกันศิลปินเองก็สามารถร่วมงานกับทุกช่องทุกค่ายแล้ว ก็คงเป็นเรื่องความตั้งใจที่จะเป็นบริษัทบริหารศิลปินที่ครบวงจร ตั้งแต่ระบบการค้นหาศิลปิน การดูแล การพัฒนา รวมไปถึงมีทีมฝ่ายขายที่จะขายงานให้ศิลปิน ไม่ได้นั่งรอให้ลูกค้าติดต่อมา มีทีมพีอาร์ที่จะวางแผนเพื่อโปรโมตศิลปินให้เป็นที่รู้จัก มีทีมที่จะช่วยซัพพอร์ตในเรื่องของการทำคอนเทนต์ออนไลน์ของศิลปิน ซึ่งเป็นช่องทางที่สำคัญในทุกวันนี้ โดยเฉพาะในส่วนของการพัฒนาศิลปิน เราก็มีแผนในการร่วมมือกับสถาบันสอนการแสดงที่มีฝีมือระดับต้นของประเทศเพื่อพัฒนาศิลปินเขาเราให้มีคุณภาพจริง ๆ และยังมีความตั้งใจที่จะผลักดันศิลปินไปในทุกความสามารถของเขา เช่น ถ้าเขาสามารถร้องเพลงได้ เราก็จะทำเพลงทำซิงเกิ้ลให้ เพราะเราก็มีค่ายเพลงของเราเองด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มช่องทางเพิ่มโอกาสในการทำงานให้ได้มากขึ้น นอกจากงานละครโทรทัศน์ ซีรีส์กับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ภาพยนตร์ ละครเวที และงานอีเว้นท์แล้ว เรายังมีแผนที่จะเข้าร่วมในธุรกิจเพลง คอนเสิร์ต และธุรกิจอื่น ๆ ด้วยในอนาคต เรามีความตั้งใจที่จะขยายลักษณะงานออกไปให้กว้างที่สุด ไม่เว้นแม้แต่ Metaverse”
ในฐานะที่คุณโจ้ เป็นผู้บริหารฝ่ายผลิตละครโทรทัศน์ ของ บริษัท เวิร์คพอยท์ฯ ซึ่งเห็นว่าปี 65 มีการเปิดโผออกมา เราจะได้พบกับละครดีหลากหลายแนวให้ได้ชมกัน ตรงนี้ศิลปิน-นักแสดง ที่ผ่านการออดิชันทั้งหมด จะสามารถได้ร่วมงานตรงนี้ด้วยมั้ย “แน่นอนที่สุดครับ”

ร่วมออดิชัน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “สกายบ็อกซ์” โดยสามารถติดตามรายละเอียดการรับสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SkyboxEnt.official/ เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้-31 มกราคม 65
#SkyboxEntertainment
#SkyboxArtist
#Skybox