"พระปิดตา" หรือ พระควัมปติ ของเหล่าเกจิคนดังๆ ยังคงเป็นตำนานในวงการพระเครื่องที่หลายคนยังคงกล่าวขาน โดยเฉพาะในเรื่องของความเชื่อในพุทธคุณของแต่ละเกจิในความแตกต่างของงานศิลปะในการสร้างระหว่างเนื้อผงและเนื้อโลหะ
"พระปิดตา"ตามประวัติว่า เป็นอัครสาวกองค์หนึ่งของพระพุทธเจ้า ชื่อ “พระควัมปติ” หรือ พระมหากัจจายนะ ท่านมีรูปร่างลักษณะงดงามมาก ผิวพรรณผุดผ่องดุจทองคำ จนเป็นที่ต้องตา ต้องใจแก่คนทั่วไป และสตรีเพศทั้งหลายต่างพากันหลงใหล จนเป็นการขัดขวางการปฏิบัติธรรมและกิจต่างๆ
ท่านจึงขออนุญาตจากพระพุทธเจ้า อธิษฐานจิตขอเปลี่ยนสรีระโดยใช้ฤทธิ์อภิญญาของท่าน ให้ไม่หล่อ ไม่งดงาม ต่ำเตี้ย ขาสั้น อ้วน พุงพลุ้ย แต่ก็ขอมีใบหน้าที่ ยิ้มอิ่มเอิบ ด้วยความเมตตาบารมี แห่งความมีโชค มีลาภ แต่ถึงแม้จะอธิษฐานเปลี่ยนสรีระแล้ว ผลแห่งกุศลในอดีตชาติยังส่งผลให้พระสังกัจจายนะเป็นที่รักใคร่ นิยม มีแต่ผู้ให้ลาภสักการะ สรรเสริญตลอดมา
เพราะฉะนั้นด้วยความนิยมในพระมหากัจจายนะนี้ โบราณาจารย์ จึงได้จำลองลักษณะพระควัมปติ หรือ พระมหากัจจายนะ ในรูปพระเครื่อง โดยการปิดตามี 3 ลักษณะ คือ 1.พระปิดตานั่งขัดสมาธิ ยกมือขึ้นปิดตาทั้ง 2 ข้าง ซึ่งพุทธคุณเน้นทางด้านเมตตามหานิยม และลาภผลพูนทวี
2.พระปิดตานั่งขัดสมาธิ ปิดทวารทั้ง 9 คือ ปิดตา 2 ข้าง ปิดจมูก 2 ข้าง ปิดปาก 1 ปิดหู 2 ข้าง ปิดทวาร 2 พระปิดทวารทั้ง 9 หรือ พระปิดตามหาอุตม์ มีความหมายถึงการเข้านิโรธสมาบัติ คือ ไม่ยินดี ยินร้ายกับกิเลสทั้งหลาย ดับสนิท กิเลสต่างๆไม่อาจเข้ามาแผ้วผาลได้ ด้านพุทธคุณพระปิดทวารทั้ง 9 จะเด่นในทางป้องกันภยันตรายต่างๆทั้งปวง 3.เป็นพระนั่งยอง ปิดทวารทั้ง 9 พุทธคุณเน้นทางด้านแคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี
ในประเทศไทย มีการจัดชุดเบญจภาคี "พระปิดตา" ประเภทเนื้อผง ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดพระปิดตาที่ไดรับความนิยมมากที่สุดของนักสะสมทั้งยุคเก่าและยุคปัจจุบัน เพราะไม่ว่าจะเป็นพุทธศิลป์ เนื้อหา มวลสาร รวมถึงกรรมวิธีในการสร้างและปลุกเสก ก่อให้เกิดพุทธคุณ และประสบการณ์มาตั้งแต่ครั้ง ปู่ย่า ตายาย ว่า เมตตามหานิยม ลาภยศ สรรเสริญ การค้าเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้น
"พระปิดตามหาเสน่ห์" หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม" วัดห้วยด้วน(ธารทหาร) จ.นครสวรรค์ เป็นพระปิดตามาแรงอีกรุ่น ที่อัดแน่นด้วยมวลสารศักดิ์สิทธิ์ชั้นครู อาทิ เกศาหลวงพ่อพัฒน์ จีวรหลวงพ่อพัฒน์, ตะกรุดเสก, ผงว่านมงคลเสก,คำหมากหลวงพ่อพัฒน์,ผงพุทธคุณเสก,ว่านกาฝากเสก,ว่านเครือสาวหลง, ผงธูปศักดิ์สิทธิ์,เเผ่นทองคำเสก,ผงตะใบทองเสก,ผงตะใบทองแดง ชนวนเสก,ผงงานช้างเสก ว่านสบู่เลือดเสก น้ำมนต์เสก ว่าน108 เสก,เทียนชัย สายสินธุ์เสกเเละมวลสารต่างๆอีกมากที่หลวงพ่อเมตตาเสกให้
พระราชมงคลวัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อพัฒน์ เกิดเมื่อวันที่ 12พ.ค. 2465 ที่บ้านสระทะเล ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ บิดาชื่อพ่อพุฒ มารดาชื่อแม่แก้ว ก้อนจันเทศ ท่านได้เข้าอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2489 ณ วัดสระทะเล โดยมี พระธรรมไตรโลกาจารย์ หรือ หลวงปู่ยอด วัดเขาแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่กัน วัดเขาแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอธิการชั๊ว วัดสระทะเล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ปุญฺญกาโม"
หลวงปู่พัฒน์ ได้รับสืบทอดวิชาจากหลวงปู่เทศ วัดสระทะเล ซึ่งเป็นทวดผ่านทาง หลวงปู่เดิม วัดหนองโพ หลวงปู่อิน วัดหางน้ำสาคร หลวงปู่หมึก วัดสระทะเล ซึ่งหลวงปู่พัฒน์ มีศักดิ์เป็นหลาน และหลวงปู่โหมด วัดโคกเดื่อ ต่อมาได้ไปเรียนวิชาทางเมตตามหานิยมกับ หลวงปู่ชุบ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จ.อุตรดิตถ์ และได้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดแห่งนี้นานถึง 6 ปี ก่อนกลับมาจำพรรษาที่วัดสระทะเล
ต่อมาบิดามารดาย้ายไปประกอบอาชีพเกษตร กรรมที่บ้านห้วยด้วน หรือบ้านธารทหาร ในขณะนั้นนายผล กำนันตำบลธารทหาร จึงได้พาบิดามารดาไปอาราธนาให้ท่านมาจำพรรษาและพัฒนาวัดห้วยด้วนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบันโดยท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดธารทหาร และได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ที่ราชทินนาม พระครูนิวิฐปุญญากร
กระทั่งปี พ.ศ. 2526 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลธารทหาร ปี2545 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลธารทหารจนถึงปัจจุบัน ต่อมาปี พ.ศ. 2564 ได้รับพระราชทานพัดรองที่ระลึกงานบรมราชาภิเษกและโปรดเกล้าฯ เลื่อนสมณศักดิ์ให้เป็นพระราชาคณะชั้นราชเป็นกรณีพิเศษที่ราชทินนาม "พระราชมงคลวัชราจารย์"
พระปิดตามหาเสน่ห์ หลวงพ่อพัฒน์จัดสร้างโดยทีมงาน "พี่เสือ" ป้อม สกลนคร นิภัทร์ สมาร์ท อิมเมจ ติดตามข้อมูลการจัดสร้างได้ที่สอบถามได้ที่ "นิภัทร์ สมาร์ทอิมเมจ" โทร.086-450-8969 "ป้อมสกลนคร" โทร.089-619-8989 หรือในเพจ"กลุ่มพระผงยอดนิยมทุกรุ่น หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม วัดห้วยด้วน จ.นครสวรรค์