“เสือ-ดรีม” ควงคู่ออกโหนกระแส ยันไม่ได้ยื่นฟ้องแม่ แค่ขอให้ศาลคุ้มครอง ไม่ได้เลือกข้างแฟน แต่ทำสิ่งที่ถูกต้อง แจงปมขโมยเงินไม่เป็นความจริง ไม่เคยยุ่งกับเงินในบัญชี พร้อมโอนทุกบาทจากบิตคอยน์และคริปโต ยินดีพาแม่ไปพบจิตแพทย์ คิดตลอดอยากให้ครอบครัวเป็นเหมือนเดิม รู้ “พ่อเสก” หนักใจ ไม่อยากให้ปวดหัวเพิ่ม จะขึ้นคอนเสิร์ตด้วยได้อยู่ไหม ยังไม่รู้ อยากได้คนกลางมาช่วยไกล่เกลี่ย ช่วงนี้ใช้ชีวิตแบบระแวงมาก
หลังสองพี่น้อง “เสือ เสฏกานต์-กวาง กรกวี ศุขพิมาย”ลูกชาย-ลูกสาว ของนักร้องดัง “เสก โลโซ เสกสรรค์” และภรรยา “กานต์ วิภากร”ได้เข้าร้องศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พร้อมกับ “ดรีม กัญญาณัฐ”แฟนสาวของเสือ เพื่อขอให้ศาลคุ้มครอง ยื่อข้อเสนอ 5 ข้อ ได้แก่ 1. ห้ามมิให้มีการเข้าใกล้ ในลักษณะเข้ามาคุกคาม ทำร้ายร่างกาย 2. ห้ามข่มขู่คุกคาม ทำให้เกิดความกลัว และด่าทอ 3. ห้ามโพสต์ประจาน และใส่ร้ายทางสื่อทุกชนิด 4. มีคำสั่งห้ามไม่ให้มีการจ้างบุคคลใดติดตามพฤติกรรมต่างๆ 5. ขอให้มีการตรวจสภาพทางจิตเวชมารดาของตน
ก็เกิดเป็นดรามาขึ้นมาอีกรอบ ว่า “เสือ-กวาง” โดน “ดรีม” เป่าหู จนอกตัญญูต่อแม่ และหลงแฟนหนักจนไม่เห็นความจริง ทำให้ล่าสุดวันนี้ (4 ม.ค.) “เสือ” และ “ดรีม” พร้อมกับ ป้อม ปัณชพัฒน์ เลิศธีรเรืองกุล ที่ปรึกษากฎหมาย ที่เป็นคุณอาของฝ่ายหญิง ได้ตัดสินใจมาชี้แจงประเด็นต่างๆ ผ่านรายการโหนกระแส ซึ่งงานนี้หลังจบรายการ ทั้งสามคนก็ได้ออกให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเผยว่า
ป้อม : “ในวันนี้ก็จะมาออกรายการโหนกระแสนะครับ เดี๋ยวจะให้หลานๆ ชี้แจงในสิ่งที่พูดได้นะครับ ว่าวันนี้เราจะอธิบายให้สังคมว่าอะไรเกิดขึ้น ส่วน 5 ข้อที่ยื่นไป ทางศาลรับแล้วนะครับ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการส่งเอกสาร อย่างวันนี้หลังจากเสร็จตรงนี้แล้ว เราจะไปส่งเอกสารให้ที่ศาล แล้วก็ต้องรออีกที ว่าท่านจะมีให้ไต่สวนฉุกเฉิน หรือเป็นไต่สวนปกติ ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งอนุมัติออกมา เพราะยังรอเอกสารอยู่ครับ ข้อเรียกก็ยังเหมือนเดิมครับ ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”
ตัดสินใจออกมาพูด เพราะอยากชี้แจงเรื่องขโมยเงิน
เสือ : “อยากจะมาออกรายการ เพื่อชี้แจงกับประเด็นที่ผมโดนกล่าวหาครับ เรื่องขโมยตังค์โน่นนี่ ซึ่งมันไม่จริง แล้วผมก็อธิบายในรายการแล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร (สิ่งที่อธิบายในรายการ ได้อธิบายกับแม่แล้วหรือยัง?) คือหลังจากที่ผมออกมา ก็ไม่ได้คุยกับเขาเลยครับ แต่ว่าเรื่องเงินก้อน 10 ล้านบาทที่อยู่ในบัญชีประจำเนี่ย ผมไม่ได้เคยแตะต้องอะไรเลย แล้วผมก็ยอมเซ็นอะไรหมดแล้ว
แต่ว่าวันนั้นผมไม่ได้บุ๊กแบงก์ ไม่รู้หายไปไหน ไม่ได้อยู่กับผม ไม่ได้อยู่กับดรีม ไม่ได้มีใครขโมยอะไรไปเลย ผมก็ไม่รู้ว่าผมเซ็นอะไรยังไง ตามที่ผมบอกไป มันก็เลยอาจจะเซ็นพลาดไป แล้วตอนนั้นคือมันหนักใจมากด้วยครับ คิดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ ครับ เพราะว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงมาก แต่ผมยังไม่บอกนะ ว่าอะไรเกิดขึ้น ยังไม่บอก
แล้วอีกก้อนหนึ่ง ที่เขาบอกว่าเรื่องบิตคอยน์ เรื่องคริปโต อันนี้ผมก็พร้อมที่จะทรานเฟอร์ไปทางวอลเลตเขาได้ตลอดเวลาเลย ถ้าเขาทำมาหรือให้ใครทำมาก็ได้ ผมพร้อมตลอด เพราะเงินก้อนนี้ ที่เขาให้ผมบริหาร มันไม่ใช่เงินของผม มันมีของผมส่วนหนึ่งอยู่แล้ว แต่ว่าส่วนที่ได้มาจากการขุดจากพี่คนหนึ่ง ที่รู้จักกับคุณพ่อเนี่ย คือก็เป็นของเขาหมดเลย ผมไม่แตะต้อง ไม่ได้ทำอะไรเลย ไปดูในประวัติเว็บได้เลย พูดแบบบริสุทธิ์เลย ผมไม่ได้เอาไปทำอะไรเลยจริงๆ ครับ”
ณ ตอนนี้ ปัญหาหลักๆ ก็คือเรื่องเงินของครอบครัว
เสือ : “ก็คือประเด็นที่ผมออกมาชี้แจงครับ แล้วผมก็อยากจะบอกว่า ผมมารายการวันนี้ ผมไม่ได้อยากจะโจมตีครอบครัวเลย ไม่ได้คิดร้ายกับครอบครัว ไม่ได้อยากจะให้ครอบครัวดูแย่เลย ผมแค่อยากบอกว่า ผมอยากให้ครอบครัวอยู่ด้วยกัน อยากให้ครอบครัวเข้าใจกันจริงๆ ให้มีความสุขจริงๆ แต่ถ้าผมอยู่ต่อไปแบบนี้ โดยไม่ได้ทำอะไรเลย ให้ปัญหามันอยู่ที่ดรีมกับแม่สองคน ผมก็คิดว่ามันคงอยู่ยาก ผมก็จะหนักใจไปเรื่อยๆ ผมคงอยู่แบบนั้นไม่ได้ คือที่ผมบอกในรายการครับ ผมไม่ได้มาเพื่อเข้าข้างดรีม เลือกดรีมแทนแม่ หรือเลือกแม่แทนดรีม แต่ว่าผมเห็นอะไรที่ดรีมโดน อะไรที่ออกมาตามข่าว ตามโซเชียลมีเดีย มันไม่ถูกต้อง มันผิด มันเป็นเรื่องที่ไม่จริงหมดเลย ผมเลยต้องออกมาชี้แจงแบบนี้ครับ”
วันนี้เลือกเดินออกมาจากแม่ แต่ก็ยังคิดอยากให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม
เสือ : “มีครับ คือในที่สุดผม อยากจะให้ทุกอย่างมันจบลง ที่การที่เราได้อยู่กันเป็นครอบครัวอีกเหมือนเดิม การที่เราอยู่บ้านเดียวกันเหมือนเดิม ผมคิดไว้แบบนี้เลย แต่ว่าเป็นไปยังไงก็ต้องรอครับ เพราะว่าช่วงนี้ปัญหามันหนักกับทุกคนที่เกี่ยวข้องเลย”
รู้สึกไม่ดีแม่คิดว่าเลือกข้างแฟน ยันไม่ได้ยื่นฟ้องแม่ แค่ขอให้ศาลคุ้มครอง
เสือ “ก็รู้สึกไม่ดีครับ แต่คือผมก็เปลี่ยนความคิดเขา แล้วก็คนที่คิดแบบนี้ไม่ได้ เพราะว่าผมก็ไม่ได้อยากจะบังคับ ให้ใครคิดอะไรแบบไหน ใครอยากคิดอะไรก็แล้วแค่เขาเลย แต่ผมก็ยืนยัน ว่าผมทำแบบนี้ ไม่ใช่เห็นว่าแฟนดีกว่าแม่ หรือแฟนดีกว่าครอบครัวเลย แต่ผมเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ถูกต้องจริงๆ เลยต้องทำแบบนี้แล้วอีกอย่างก็คือที่มีหลายคน หาว่าผมไปฟ้องแม่ ไปฟ้องครอบครัว นี่มันไม่ใช่เลย คือผมไม่อยากฟ้อง ไม่อยากทำลายครอบครัวแบบนั้นเลย วันที่ผมไปศาล คือตามที่ผมบอก เรื่องมันแรง เรื่องมันน่ากลัวต่อชีวิตจริงๆ ไม่ได้ไปฟ้องอะไรเลย ไม่ได้มีเจตนาทำแบบนั้นเลย เรื่องให้กลับมาเป็นครอบครัวผมก็คุยกันตลอดครับ”
เผยเคลียร์กันที่บ้านไม่จบ เพราะเรื่องมันออกสื่อแล้ว
เสือ : “คือมันพูดยากครับ ผมไม่อยากพูดจริงๆ มันเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากๆ เลย คือผมไม่อยากให้อะไรออกมาทางโซเชียลมีเดียเลย เรื่องครอบครัวมันก็เป็นเรื่องที่ส่วนตัวมากๆ ผมคิดว่าครอบครัวไหนก็มีปัญหากันได้ คิดไม่ตรงกันได้ ทะเลาะกันได้ มันเป็นเรื่องปกติมาก แต่ว่าการที่ครอบครัวของผม เป็นครอบครัวที่อยู่ในสายตาของทุกคน มันเป็นอะไรที่ผมรู้สึกหนักใจมาก แล้วมันก็หยุดไม่ได้ครับ คือมันออกมาแล้ว ผมไม่ได้อยากให้มันออกมา ไม่ได้เป็นคนโพสต์ คือปัญหามันไม่ควรที่จะใหญ่ขนาดนี้ แต่ว่าคือมันออกมาแล้ว คนก็เห็นมันหมดแล้วครับ”
แจงข้อเรียกร้องข้อที่ 5 ขอให้มีการตรวจสภาพทางจิตเวชมารดา เพราะอยากให้แม่ได้พบจิตแพทย์
เสือ : “อันนี้ก็พูดยากนะ แต่ผมอยากจะบอกว่า การที่เขาคิดไม่ตรงกับคนอื่น การที่เขาคิดไม่เหมือนคนอื่น มันไม่ใช่เป็นอะไรที่มันโหดร้าย แต่สิ่งที่เขาทำ ที่เขาขู่ ที่เขาพูดตามโซเชียล บางทีมันก็อาจจะแรงไป มันมีผลเสียกับคนอื่นเยอะ ผมคิดว่าการที่เรามีจิตแพทย์คุยด้วย หรือไปรักษาทางด้านสุขภาพจิต เป็นอะไรที่ควรมี ไม่ใช่แค่กับคุณแม่ แต่เป็นกับใครก็ได้ มันเป็นเรื่องปกติ คือเมืองนอกเขามีจิตแพทย์ ใครก็คุยได้ปกติมาก ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่ ควรมีการยอมรับมากขึ้นในประเทศไทยครับ ถ้าเขาได้มีการรักษาในด้านนี้ก็จะดี เป็นสเต็ปแรกเลย
ส่วนที่แม่อยากให้ผมพาไป ผมโอเค ผมอยากให้เขาไปครับ แต่ที่เคยคุยกัน เขาไม่อยากไป เพราะเขาคิดว่ามันเป็นอะไรที่… (กลัวคนจะมองว่าเขาเป็นคนป่วย?) ใช่ๆ อะไรประมาณนี้เลยซึ่งผมคิดว่ามันไม่ใช่เลย การพบแพทย์เป็นการทำให้ตัวเองดีขึ้น ให้จิตเราดีขึ้น มันไม่ใช่อะไรที่ไม่ดีเลยจริงๆ ครับ”
ไม่เคยถามแม่ ว่าอะไรทำให้เขาเป็นแบบนี้ แต่เท่าที่สังเกต คือความคิดแม่เปลี่ยนไปสักพักแล้ว
เสือ : “ไม่เคยถามเลยครับ แต่ว่าผมก็สังเกต ว่ามันเปลี่ยนไปมาสักพักแล้ว…ความคิดของคุณแม่ มันเป็นเรื่องที่ผมเป็นห่วงมานานแล้วเหมือนกันครับ แต่ผมก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรมาก”
คนมองว่าสิ่งที่แม่ทำ เป็นเพราะเขารักเรามากเกินไป
เสือ : “ผมรู้ว่าเขารักเรา แล้วก็รักครอบครัวมากจริงๆ อันนี้ผมรู้เลยครับ แต่ว่าการที่เขาทำโน่นทำนี่ ที่มันอาจจะรุนแรงเกินไป ผมก็ไม่เห็นด้วยจริงๆ แล้วคือการที่ครอบครัวเราไม่เห็นด้วย หรือเห็นไม่ตรงกัน มันเป็นอะไรที่ปกติมาก เราไม่ต้องคิดตรงกันตลอด ทั้งๆ ที่เราเป็นครอบครัว แล้วที่ผมคิดว่าน้องดรีมไม่ได้ผิดอะไรเนี่ย มันก็เป็นอะไรที่เขาคิดไม่ตรงกัน ซึ่งมันควรที่จะคุยกันได้ มันไม่ควรที่จะอยู่ในระดับที่เราต้องมาทะเลาะกัน มาด่ากันในโซเชียลมีเดียเลยครับ”
อยากหาคนกลางมาไกล่เกลี่ย เพราะคุยเองแล้วมันยาก
เสือ : “คือผมอยากมีคนกลางมาไกล่เกลี่ยด้วย เพราะว่าถ้าสมมติผมเข้าไปวันนี้เลย ผมว่ามันไม่จบ เพราะผมเคยเข้าไปแล้ว ไปคุยหลายครั้ง หลายชั่วโมงแล้ว มันก็ยากครับ”
รู้ “พ่อเสก” หนักใจ ไม่อยากให้มาปวดหัวเพิ่มกับเรื่องนี้
เสือ : “ผมคิดว่าเขาก็หนักใจครับ ผมก็คุยกับเขาบ่อยอยู่ แต่ผมก็ไม่อยากให้เขาคิดมากในเรื่องนี้ เพราะเขาเองก็มีเรื่องของเขาเยอะเหมือนกัน เรื่องที่เขาต้องเผชิญ ผมก็เลยไม่อยากให้เขาต้องมาปวดหัวในเรื่องของผม หรือเรื่องของดรีมด้วยเหมือนกัน”
เข้าใจคนคิดเป็นลูกอกตัญญู ยันไม่เคยคิดทิ้งครอบครัว รู้พ่อแม่มีบุณคุณส่งเรียน
เสือ : “ผมเข้าใจครับ ผมเข้าใจว่าคนอาจจะคิดแบบนี้ ซึ่งผมอยากจะเคลียร์เลยว่า ผมไม่เคยคิดร้าย ไม่เคยจะทิ้งครอบครัว ไม่เคยคิดจะใช้ครอบครัวเพื่อเอาเงิน มันไม่ใช่แบบนั้นเลยผมเห็นบุญคุณที่พ่อกับแม่ทำเพื่อผมกับน้องๆ ตลอด ท่านส่งผมไปนู่นไปนี่ ไปเรียน ไปทำงาน คือท่านช่วยมาตลอด แต่ที่ผมอยากจะพูดเกี่ยวกับประเด็นนี้ที่เราเห็นไม่ตรงกัน มันก็เป็นอะไรที่ผมอยากจะพูดจริงๆ เพราะมันเป็นอะไรที่ผมไม่เห็นด้วยมากๆ ก็ประมาณนี้ครับ ผมไม่เคยคิดจะทำร้ายครอบครัว ไม่คิดที่จะเป็นคนที่อกตัญญูกับครอบครัวเลย”
ตั้งแต่วันที่ออกมา ยังไม่ได้กลับบ้านเลย แต่คุยกับพ่อ และคนอื่นในครอบครัว
เสือ : “ก็…มีคุยกับพ่อ คุยกับคนอื่นในครอบครัวครับ
งานที่ต้องออกคอนเสิร์ตกับพ่อ คงยังไปไม่ได้ และไม่รู้จะไปได้หรือเปล่า
เสือ : “คือ…ก็ มันหนักอยู่ครับ เพราะว่าวันนั้นที่ทะเลาะกัน ก็มีคุยเรื่องงานอยู่เหมือนกัน ซึ่งผมขอไม่พูดอะไรมาก (จากนี้เรื่องงานจะทำยังไง?) ผมก็คงยังไปไม่ได้ครับ เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น และผมก็ไม่รู้ด้วยว่าผมไปได้หรือเปล่าครับ
จุดที่ทำให้ครอบครัวเราแตกหักขนาดนี้ มันพูดยากและเป็นปัญหาที่ซับซ้อน
เสือ : “มันก็พูดยากนะครับ เพราะว่าครอบครัวเรามีปัญหามาตั้งนานแล้ว และเป็นปัญหาที่ซ้อนๆ กันเรื่อยๆ มันก็เลยทำให้ทุกคนช้ำ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจริงๆ มันเกิดขึ้นเพราะอะไร คือประวัติของครอบครัวเราที่ทุกคนเห็นมันก็มีปัญหากันมาเยอะ ซึ่งผมไม่รู้นะว่ามันเชื่อมโยงกันยังไง แต่ว่าความเจ็บความจำที่ได้รับมันมีมาตลอด มันก็อาจจะเชื่อมโยงกันได้ และก็ทำให้เราแตกแยกกันนิดหน่อย”
ช่วงนี้ใช้ชีวิตแบบระแวงมาก ทั้งตัวเองและน้องสาว รวมถึงครอบครัวแฟนด้วย
เสือ : “ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ผมระแวงมากจริงๆ ครับ ไม่ใช่แค่สำหรับผมกับน้องนะ แต่สำหรับครอบครัวของดรีมด้วยเช่นกัน เหมือนที่ได้เล่าไว้ในรายการโหนกระแส เรื่องที่มีคนมาติดตาม มาถ่ายรูปบ้าน หรือมาส่งของเอาของมาให้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่ากลัวถึงชีวิตเขาจริงๆ คือ ผมไม่ค่อยห่วงหรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผม แต่ผมห่วงคนใกล้ตัวผมมากกว่าเพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนเรื่องการใช้ชีวิต ตอนนี้ผมก็ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากๆ ครับ ย้ายไปโน่นไปนี่บ่อย (ถึงขั้นต้องย้ายที่อยู่บ่อยๆ เลยเหรอ?) ใช่ครับ ก็คิดว่าอยู่ที่เดียวมันก็ไม่ปลอดภัยสำหรับครอบครัวน้องดรีม”
ด้าน “ดรีม” แฟนสาว เผยแจ้งความหมิ่นประมาทแล้วเรียบร้อย
ดรีม : “แจ้งความเรียบร้อยหมดแล้วค่ะ ในส่วนของคดีหมิ่นประมาทอะไรแบบนี้ และก็ได้มีการสอบปากคำแล้วด้วย ถ้าเป็นไปได้นะคะ ก็อยากให้มีคนกลางที่มีเหตุและผลมากเพียงพอมาคุยกัน แต่อย่างที่บอกตอนนี้คุยไปก็เหมือนเดิม ทุกอย่างมันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลย”
รู้สึกแย่ คนมองเป่าหู “เสือ-กวาง” ทำให้ครอบครัวแตกแยก คุณอาย้ำหลานไม่เคยชี้นำแน่นอน
ดรีม : “ก็รู้สึกแย่นะคะ เพราะว่าสิ่งที่เขาพูดมันไม่เป็นความจริง รู้สึกไม่ดีค่ะ”
ป้อม : “ไม่มีการชี้นำครับ หลานผมไม่มีการชี้นำในเรื่องนี้แน่นอน”
ดรีม : “คนเราโตขึ้นมาแล้วเนอะ คนเรามันก็มีความคิดเป็นของตัวเอง จะให้หนูไปชี้นำเสือ หรือไปชี้นำน้องกวางมันก็คงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว และยิ่งเขาอยู่กับพ่อแม่มา ส่วนหนูเป็นใคร หนูเป็นแค่คนนอก จะให้หนูไปบอกว่าแม่ของกวางไม่ดี แม่ของเสือไม่ดี ไม่ต้องไปรักแม่ คือมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วพ่อแม่ลูกยังไงเขาก็ต้องผูกพันกันอยู่แล้ว (ยืนยันว่าเราไม่เคยทำแบบที่ถูกกล่าวหาแน่นอน?) ไม่เคยค่ะ”
อยากให้ทุกคนทราบ “เสือ” ไม่ได้เลือกข้างตน
ดรีม : “เสือเขาไม่ได้เลือกข้างดรีมนะคะ อันนี้คือสิ่งที่ดรีมอยากให้ทุกคนทราบ เขาไม่ได้เลือกดรีม”
ป้อม : “เขายังให้ความสำคัญกับครอบครัว”
ดรีม : “ใช่ค่ะ แต่ทุกวันนี้ดรีมก็คุยกับพี่เสือ และเราก็ให้กำลังใจกันในส่วนที่ให้กำลังใจได้”
เรื่องความปลอดภัยของเรา ยังเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง
ดรีม : “ใช่ค่ะ เพราะว่าเขาก็มีไลฟ์ที่บอกว่า ถ้าหากใครเจอเราจะให้เงินรางวัลนำจับ 500,000 บาท ซึ่งเรารู้สึกว่ามันค่อนข้างที่จะลำบากเวลาเราออกไปใช้ชีวิตข้างนอก เพราะเราไม่รู้เลยว่าใครเขาจะคิดยังไงกับเรา ถ้าเป็นไปได้ก็อย่างที่คุณอาบอกอยากให้ลบดีกว่า”
ไม่กล่าวหาเรื่องมีคนส่งดอกไม้มาให้ กับมีคนมาตามที่บ้าน เป็นการโดนอีกฝ่ายจัดฉาก
ดรีม : “จะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้ค่ะ เพราะว่าเราก็ไปกล่าวหาเขาไม่ได้”
ป้อม : “เราไม่รู้ว่ามีขบวนการหรืออะไรไหม แต่เราก็กำลังสืบสวนอยู่ (มันชัดเจนขึ้นไหมว่าอะไรยังไง?) ก็…ถามว่า 2 คนนี้ ที่เราเช็กมาประวัติค่อนข้างน่ากลัว แต่กำลังดำเนินการในเรื่องความเชื่อมโยง ว่าเชื่อมโยงถึงใคร”
ถ้าหากต้องนัดเจอกัน ก็ถามเด็กๆ ว่าพร้อมไหม
ป้อม : “ต้องดูว่าเด็กๆ เขาพร้อมไหม ถ้าพร้อมก็ไม่มีปัญหาครับ”
ตอนนี้อยากให้รอศาลพิจารณาก่อน
ป้อม : “จริงๆ อยากให้รอทางศาลก่อน ว่าศาลจะให้ไต่สวนฉุกเฉินหรือมีความคุ้มครองยังไงบ้าง คือเหมือนต้องการให้มีคนกลางที่สามารถจะคุยและเบรกได้ทั้ง 2 ฝั่งเพื่อให้สามารถพูดคุยกันได้ (แบบนี้ต้องรอศาลเรียกไต่สวนหรือว่ายังไง?) อันนี้เราก็ยังตอบแทนไม่ได้ครับ”
ถ้าวันนี้ต้องเจอกับแม่ ก็คุยได้
เสือ : “ผมคุยได้ครับ แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่าจะไปได้ถึงไหนจริงๆ ถ้าหมายถึงวันนี้นะครับ เพราะมันก็ยาก ถามว่าเป็นห่วงแม่ไหม เป็นห่วงครับ ผมเป็นห่วงทั้งหมดเลยครับทุกคนในครอบครัวเลย เป็นห่วงจริงๆ”
เป็นเสาหลักของครอบครัว เพราะเป็นลูกชายคนโต
เสือ : “ใช่ หลายคนมักบอกว่าผมเป็นกาวที่เชื่อมโยงครอบครัว คือผมก็อยากเป็นแบบนั้นมาตลอด ผมไม่ได้อยากให้ครอบครัวต้องแตกแยกแต่ว่าอะไรที่ผมเห็นว่ามันไม่ยุติธรรมจริงๆ ผมก็ต้องออกมาพูด คือแบบ…ผมเป็นคนที่เชื่อมโยงจริงๆ แต่ถ้าหากผมเห็นอะไรผิดและไม่ทำอะไรเลย คนอื่นที่เดือดร้อนเขาก็คงไม่โอเค ผมเป็นคนที่อยากจะปกป้องคนที่รักและแคร์มาก ผมอยากให้ความยุติธรรมกับทุกคนที่โดนอะไรที่มันไม่ถูกต้อง และก็อยากจะสู้ในทางที่ผมเชื่อมั่น ผมอยากจะบอกกับทุกคนเลยนะครับ ทั้งน้องๆ และเด็กๆ เพราะช่วงนี้เด็กๆ ก็สู้กันเยอะอยู่ อยากให้ทุกคนเดินหน้าต่อไปทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกต้องที่สุด”
สิ่งที่เชื่อคือดรีมไม่ได้ทำอะไรผิด
เสือ : “สิ่งที่ผมเชื่อก็คือ ที่ดรีมถูกกล่าวหาเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย นั่นคือสิ่งที่เสือเชื่อผมอยากจะสู้ในด้านที่ออกมาทางโซเชียลมีเดียว่ามันไม่จริงเลย อันนี้คือสิ่งที่ผมอยากจะออกมาบอกว่ามันไม่จริง”
สบายใจขึ้นที่ได้พูดได้ชี้แจง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีมากอะไรขนาดนั้น
เสือ : “ก็รู้สึกสบายใจขึ้นนะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีมากอะไรขนาดนั้น เพราะมันเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนมากๆ เป็นปัญหาครอบครัว คือมันก็หนักใจครับ ตอนนี้ก็หนักใจมาครบ 1 เดือนแล้วแต่เราก็ต้องเดินต่อไปให้ได้”