“แนท” เผย 2 ปีช่วงโควิดหนักหนามาก งานแคนเซิลหมด ต้องปรับตัวเพื่อให้บริษัทอยู่รอด ชม "เขตต์" เป็นสามีที่ดี ตื่่นก่อนนอนทีหลัง ดูแลลูกและเมียดีมาก เรื่องอดีตที่เคยเจ้าชู้ตนไม่สนใจ เพราะทุกวันนี้ฝ่ายชายเป็นให้ได้ทุกอย่างแบบไม่เคยบกพร่อง
ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาโควิด-19 ทำเอางานในวงการบันเทิงชะงัก ด้าน “แนท เปรมิการ์ ธนโรจน์ประดิษฐ์” ภรรยาของ “เขตต์ ฐานทัพ” ก็เจอพิษโควิดงานถูกยกเลิกหมด ถึงขั้นกุมขมับจะทำยังไงให้บริษัทอยู่รอด ล่าสุดเจ้าตัวก็ตัวเองมาเป็นผู้จัดครั้งแรก กับซีรีส์เรื่อง “เล่ห์แค้น” (The Revenge) ซึ่งแนทก็เล่าถึงวิกฤตครั้งนี้ว่า สาหัสต้องปรับตัว ขอบคุณเขตต์ที่เป็นสามีที่ดีไม่เคยทำให้ไม่สบายใจและดูแลดี
“2 ปีที่ผ่านมาก็ซวนเซนะ ตอนโควิดมาครั้งแรกจำได้เดือนกุมภาพันธ์มั้ง แนทได้รับโทรศัพท์แคนเซิลงาน คือไม่อยากรับโทรศัพท์เลย เพราะเราทำด้านนี้มันโดนก่อนอยู่แล้ว หลังจากสถานบันเทิงหน่อยนึง ที่เหลือก็เราอีเว้นท์ งานออกกอง ยังไงคนเราก็เกิน 50-60 คนอยู่แล้ว แล้วยิ่งเราทำด้านการตลาดมันก็ไปหมด และเดือนก.พ.งานเยอะมาก ภายใน 1 อาทิตย์ลูกค้าโทรแคนเซิลรวด ไม่เหลืองานอะไรเลย เราก็นั่งมองหน้ากันกับพี่เขตต์สองคนว่า แล้วจะยังไงวะ ช็อคไปอยู่ 2-3 เดือนเลยค่ะ แต่สุดท้ายชีวิตมันต้องโกออน ลูกน้องเราก็มี ทีมเราก็ต้องดูแล ก็ต้องหาทาง"
"มองว่าทุกวิกฤติมันต้องมีโอกาสสิ เราจะยอมแพ้และตายไปแบบนี้เหรอ พี่เขตต์เองก็กระทบเยอะ เพราะงานแสดงก็หยุดหมด คืออยู่ๆ ก็ว่างจริงๆ แต่เราก็ต้องสู้ต้องดิ้นไปทุกวิถีทาง เราก็ต้องดูว่าเรามีความสามารถอะไร พอไปทำอะไรได้บ้าง ลองพลิก ลองปรับ หลักๆ แนทคิดว่าเป็นการปรับตัว การยืดหยุ่นที่มันต้องมีในสถานการณ์ที่มันลำบากแบบนี้ ก็พอเอาตัวรอด แต่ก็ไม่ได้ถึงกับสวยงาม เพราะเป็นกันทุกคนค่ะ แต่เราก็ยังโชคดีที่มันยังมีทาง ยังไม่ถึงกับมืดมน”
บอกแพลนเรื่องลูกคนที่สองคนต้องพักไปก่อน เพราะแค่ “น้องดีจ้า” ก็เหนื่อยแล้ว
“จริงๆ แนทอยากจะมีปีฉลู ก็ไปดูดวงมาอีกนั่นแหละ (หัวเราะ) แต่พอเจอโควิดก็เลยข้ามไป ก็เลยยังไม่ไปไหนเลยค่ะ กับน้องดีจ้าก็ดูแลเต็มที่ เพราะเขาอยู่ในวัยที่กำลังมีความคิด อยากรู้อยากเห็น ถามว่าเลี้ยงยากมั้ย ยากมาก เขานิสัยเหมือนพ่อ (หัวเราะ) บอกซ้ายไปขวา บอกขวาไปซ้าย บอกไม่คือทำเลย เหมือนกันไม่มีผิด แต่เป็นเวอร์ชั่นไม่มีความกลั่นกรอง (หัวเราะ) ตัวพ่อเขาจะกรั่นกรองได้ แต่พอความเป็นเด็กเขาก็จะเต็มที่เลย คือเป็นเด็กผู้ชายด้วย อีกอย่างคือเด็กยุคนี้ไม่เหมือนเราสมัยก่อนที่บอกให้ฟังแล้วฟัง แต่นี่เขาจะย้อนถามเรา เราต้องมีขั้นตอน มีทุกอย่างประกอบเพื่อที่จะให้เขาดูว่าถ้าทำแบบนี้มันถูกนะ คือมันยากนะเลี้ยงเด็กสมัยนี้ต้องใช้สมองมาก”
เผยเลือกสามีไม่ผิด ไม่เคยขาดตกบกพร่องในหน้าที่
“จริงๆ ต้องขอบคุณพี่เขตต์ แนทว่าเขาเป็นสามีที่ดีมากและเป็นพ่อที่ดีมาก อันนี้ไม่ได้อวยนะ ที่เป็นสามีที่ดีเพราะเขาไม่เคยทำอะไรให้แนทไม่สบายใจเลย แนทแค่รู้สึกว่าเราเป็นผู้หญิงทำงานเนอะ เราต้องออกมาทำงาน ต้องออกมาสู้ข้างนอก ถ้าบ้านเรามันมีเรื่องตลอดเวลามันก็ทำให้เราหลังโบ๋นะ จะไปสู้ข้างหน้าก็ลำบาก แต่พี่เขตต์ไม่เคยทำอะไรอย่างนั้นเลย เวลามีคนมาถามว่าเขาเลิกเจ้าชู้หรือยัง ยังมีผู้หญิงอยู่ไหม เอาจริงๆ แนทไม่รู้และไม่สนด้วย เพราะทุกวันนี้ที่เขาอยู่กับแนท แนทไม่เคยเห็น และเขาไม่เคยขาด ไม่เคยน้อย ไม่เคยหาย และเขาก็ดูแลเราดี"
"พี่เขตต์เดี๋ยวนี้แนทแทบไม่ต้องพูดแล้ว เขาจะรู้เลยแล้วเข้ามาถามว่าเป็นอะไร คือเขาเทคแคร์ดีค่ะ กับลูกก็ดีมาก เขาเป็นพ่อที่ดีดูแลลูก นางก็อินเลิฟลูกนางมาก ถึงจะโดนลูกถีบตลอดเวลานะ นางก็รักลูกนางมาก เราก็เลยรู้สึกว่าต้องขอบคุณที่เราเลือกไม่ผิด เขาเป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดีค่ะ ดูแลครอบครัวแนทดีมาก ดูแลพ่อแม่แนทดีจนบางทียังดูแลดีกว่าเราอีก(หัวเราะ) เขาแคร์ความรู้สึกคนอื่น"
"คือเขาเข้าใจว่าครอบครัวมันไม่ใช่แค่นี้ ครอบครัวคือเขานับพ่อกับแม่เรา นับครอบครัวเรา เขาก็ดูแลทุกอย่าง ดีค่ะถือว่าโชคดี บางทีแนทยังรู้สึกว่าเป็นเมียที่ไม่ได้เรื่องเท่าไหร่เลยที่ไม่ค่อยดูแลเขา คือเขาเนี่ยตื่นก่อนนอนทีหลัง ตื่นมาทำบ้านดูบ้าน แต่เรานี่นอนเป็นผักจ๊ะ ตื่นมาคือพี่เขตต์ทำบ้านข้างล่างเสร็จแล้ว แล้วเราก็ช่วยกันทำงาน แนทก็ทำในส่วนที่แนทถนัด เขาก็ทำในส่วนที่เขาถนัด”
