xs
xsm
sm
md
lg

สายลับรัสเซียสุดแซ่บ "แอนนา แชปแมน" สวยสังหารตัวจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หากใครเคยดูภาพยนตร์ “Anna สวยสะบัดสังหาร” ผลงานภาพยนตร์ของ ลุค เบสซง ก็คงจะคิดว่าเป็นเพียงแค่เรื่องราวที่แต่งขึ้นเพื่อให้ได้อรรถรส แต่เชื่อหรือไม่ว่า สายลับ “แอนนา” นั้นมีตัวตนจริง และเรื่องราวของเธอก็นับว่าไม่ธรรมดาทีเดียว

สาวผมแดง แอนนา แชปแมน เป็นที่พูดถึงไปทั่วโลกเมื่อครั้งที่เธอถูกจับในสหรัฐอเมริกา จากข้อหาเป็นสายลับรัสเซียส่งข้อมูลให้ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ก่อนจะกลายเป็นนักโทษข้ามชาติถูกส่งตัวกลับประเทศ และชีวิตก็โด่งดังกลายเป็นคนในวงการบันเทิงของรัสเซียนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


ชีวิตของ แอนนา ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว เธอเข้าถึงข้อมูลทั้งในอังกฤษและอเมริกา โดยเธอเคยแต่งงานกับ อเล็กซ์ แชปแมน หนุ่มอังกฤษนาน 4 ปีจนเธอได้สัญชาติอังกฤษมาจากการแต่งงาน ซึ่งเธอพบรักกับเขาในงานปาร์ตี้แห่งหนึ่งที่กรุงลอนดอนปี 2001 และหย่าขาดกันไปในปี 2006

หลังจากที่ แอนนา ถูกจับกุมในนิวยอร์ก อเล็กซ์ ก็ได้ขายเรื่องราวของอดีตภรรยาต่อสื่อ Daily Telegraphทันที โดยเผยว่าเขาเองไม่ได้รู้สึกประหลาดใจเมื่อภรรยาถูกจับกุมตัว เพราะพ่อของ แอนนา คือ วาซีลี คูเชนโก เจ้าหน้าที่ระดับสูงใน KGB มีอิทธิพลอย่างมากต่อชีวิตเธอ

ครั้งแรกที่เขาได้เจอกับอดีตพ่อตาคือตอนที่เขาไปฮันนีมูนที่ ซิมบับเว เมื่อปี 2002 ตอนที่พ่อตาดำรงตำแหน่งเป็นนักการทูต

“เขาเป็นคนที่ไม่เชื่อใจใครเลย เขาถามผมว่าทำไมผมถึงเลือกเจ้าสาวเป็นคนรัสเซีย และถามว่าผมมีธุรกิจอะไรในรัสเซียบ้าง ซึ่งผมบอกว่าผมไม่มี เขาค่อนข้างกลัว เขาไม่เคยแนะนำผมให้รู้จักกับคนรัสเซียคนอื่นๆที่มาหาที่บ้านเลย และดูเหมือนเขาจะมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากกว่านักการทูตคนอื่นๆ”

“พอผมเห็นเธอถูกจับในข้อหาสายลับ บอกตามตรงผมไม่ได้เซอร์ไพรส์เท่าไหร่นัก”


แอนนา แชปแมน หลังหย่าขาดกับ อเล็กซ์ ในปี 2006 แอนนา ก็ย้ายมาทำงานที่อเมริกาในปี 2009 โดยทำงานเป็นนักอสังหาริมทรัพย์ในนิวยอร์ก และเริ่มเป็นสายลับส่งข้อมูลให้กับรัสเซีย แต่มาโดนจับกุมหลังจากที่สายลับ FBI ได้ปลอมตัว ลวงให้เธอติดกับดักก่อนรวบตัวที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในแมนฮัตตัน ในเวลานั้นเจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้ยื่นพาสปอร์ตปลอมให้กับ แอนนา พร้อมกับแนะนำให้เธอส่งต่อไปยังสายลับอีกคนโดยถามเธอว่า “คุณพร้อมสำหรับขั้นตอนนี้ไหม?” เมื่อ “แอนนา” ตอบว่า “แน่นอน” พร้อมกับรับพาสปอร์ตนั้นไป ก็เป็นหลักฐานชัดเจนทันทีว่าเธอคือสายลับ แต่หลังจากที่เธอพูดคุยโทรศัพท์กับ วาซิลี คุชเชนโก พ่อของเธอหลายครั้ง เธอก็นำพาสปอร์ตกลับไปคืนยังสถานีตำรวจ และถูกจับกุมตัวหลังจากนั้นไม่นาน

ตอนที่เธอถูกจับกุมพร้อมกับสายลับรัสเซียคนอื่นๆอีก 9 คนเมื่อปี 2010 สหรัฐฯถึงขั้นกล่าวว่าเป็นการทำลายเครือข่ายสายลับต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกานับตั้งแต่ยุคสงครามเย็น

อเล็กซ์ แชปแมน อดีตสามีเคยระบุถึงเรื่องการศึกษาของเธอว่า เธอจบการศึกษาปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ จาก มหาวิทยาลัยมอสโคว์ ได้สัญชาติอังกฤษมาจากการแต่งงาน และได้เรสซิเดนท์อยู่ในอเมริกาจากการทำงานในปี 2009-2010 แต่หลังจากถูกส่งกลับรัสเซีย เธอก็เรียกร้องอยากกลับอังกฤษโดยใช้สิทธิพลเมืองของประเทศ แต่แล้วทางรัฐบาลก็จัดการถอดสัญชาติอังกฤษเธอทันทีพร้อมกับห้ามเข้าประเทศอีกด้วย โดยเธอได้ยกคำพูดของ ชาร์ลส์ ดิกคินส์ จาก A Tale of Two Cities มาอธิบายความรู้สึกของเธอตอนที่ใช้ชีวิตในนิวยอร์กว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด และแย่ที่สุดในคราวเดียวกัน”

ส่วนทางด้าน อเล็กซ์ แชปแมน อดีตสามีก็มีชีวิตไม่ยืนยาวนัก รายงานระบุว่าเขาเสียชีวิตในเดือน พ.ค. 2015 ขณะอายุเพียง 36 ปี จากการเสพยาเกินขนาด


ตอนที่ แอนนา ทำหน้าที่เป็นสายลับ แฟรงค์ ฟิกลิอุซซี ผู้ช่วยผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรอง FBI ของสหรัฐฯได้ยอมรับว่าฝีมือเธอไม่ธรรมดาทีเดียว เพราะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่สุดได้ แต่มาถูกจับก่อนที่ข้อมูลจะถูกเปลี่ยนมือ ซึ่งเธอนับเป็นสายลับสายเลือดใหม่ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี โดยมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก เก่งเรื่องสอดแนม จนได้รับเลือกจากหน่วยข่าวกรองของรัสเซียเพราะยังมีความคล่องแคล่วด้านภาษาและปรับตัวเก่ง

แอนนา ใช้ชีวิตในอเมริกาในแบบชนชั้นกลางทั่วไป เธอส่งข้อความผ่านรหัสลับไปยังผู้ดูแลเธอด้วยแล็ปท็อปที่มีอุปกรณ์พิเศษ โดยระหว่างที่ FBI จับตาความเคลื่อนไหวของเธอก็พบว่า เธอได้ส่งข้อความพูดคุยผ่านเครือข่ายไร้สายของเธอกับคนดูแลที่ยืนอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ FBI ก็ซุ่มอยู่บริเวณดังกล่าว ก่อนที่เธอจะส่งรหัส

ส่วนรหัสที่เธอส่งเพื่อพูดคุยกันนั้น มันเป็นรหัสที่ FBI สามารถเข้าไปถอดได้ จึงได้เห็นข้อมูลการพูดคุยกันทั้งหมด จนทำให้แล็ปท็อปเธอมีปัญหาและต้องส่งซ่อม ทาง FBI ขนานนามปฏิบัติการที่จับ แอนนา และเพื่อนสายลับว่าเป็น Ghost Stories เพราะหลายคนใช้ชีวิตในนามของคนอเมริกันที่เสียชีวิตไปแล้ว

แอนนา หลังถูกแลกตัวนักโทษกลับรัสเซีย ทำให้เธอโด่งดังและเป็นที่พูดถึงอย่างมากในบ้านเกิด ด้วยลุคสาวสวยผมแดงหุ่นแซ่บ เธอจึงได้เปลี่ยนอาชีพจากสายลับมาเป็น นางแบบ และพิธีกรทางทีวี

แอนนา ยังเคยถ่ายแบบในชุดชั้นในสุดเซ็กซี่ขึ้นปกนิตยสาร Maxim และมีชื่อเป็นหนึ่งในร้อยสาวที่เซ็กซี่ที่สุดของ รัสเซีย

ความสวย เซ็กซี่ ของเธอยังเคยทำให้ โจ ไบเดน ที่เวลานั้นเป็นเพียงรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถึงขั้นบอกกับ เจย์ เลโน พิธีกรรายการทอล์คโชว์ว่า “ไอเดียที่ส่งตัวเธอกลับรัสเซีย ไม่ใช่ความคิดของผมแน่นอน”





















กำลังโหลดความคิดเห็น