“แม่พลอยชมพู” เผยลูกสาวเครียดจัด ทั้งปีมีงานแค่ชิ้นเดียว เหลือเงิน 4 หมื่นทำเพลง เครียดจนเป็นโรคซึมเศร้า ต้องกินยารักษาตัว
เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา “พลอยชมพู ญานนีน ภารวี ไวเกล” ออกมาแถลงข่าวทั้งน้ำตาถึงเหตุที่ต้องฟ้องอดีตต้นสังกัดสัญชาติมาเลเซีย เพราะว่าถูกดองงานกว่า 2 ปี และมีผลงานเพลงออกมาแค่เพลงเดียว ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าช่วงนั้นไม่มีรายได้เข้ามาเลย แถมต้องไปติดอยู่ที่มาเลเซียนานถึง 9 เดือน เพราะอดีตต้นสังกัดขอให้ย้ายไปเพื่อความสะดวกในการทำงาน แต่ปรากฎว่าเกิดการปิดประเทศเพราะโรคระบาดโควิด ซ้ำยังไม่มีงานให้ทำอย่างที่พูดอีก เลยทำให้ยิ่งเครียดหนัก
ซึ่งทางด้านคุณแม่ของสาวพลอยชมพู ก็ได้เปิดเผยว่า ช่วงที่ลูกสาวไปอยู่ที่มาเลเซีย ก็อาศัยการโทรคุยกัน เพราะตนเองที่อยู่เมืองไทยก็ไม่สามารถบินไปหาลูกสาวได้ และรับรู้ได้เลยว่าลูกสาวนั้นค่อนข้างเครียดมาก
“ตอนนั้นเขาก็บอกอยากจะกลับท่าเดียว แม่ก็ได้แต่บอกให้อดทน เพราะเราก็ไม่รู้เนอะ มันเพิ่งเริ่มต้น อาจจะยังปรับกันไม่ค่อยได้ในการทำงาน ตอนนั้นเราก็ต้องเอาเงินเก่ามาใช้ค่ะ ซึ่งมันก็ไม่ได้เยอะหรอก เพราะก่อนจะเซ็นสัญญากับค่ายประมาณ 3-6 เดือน เราเริ่มไม่รับงานแล้วนะ เพราะเดี๋ยวมันจะเกี่ยวพันกันช่วงรอยต่อ ก็เริ่มไม่รับงานแล้ว"
"จริงๆ ที่ไปอยู่มาเลเซียช่วงนั้นค่ายก็มีซัพพอร์ตค่ะ เขาก็ให้เรื่องของที่อยู่ ในส่วนที่เขาทำมันก็ดีนะ มันมีหลายส่วนที่โอเค เพียงแต่ที่เราคิดว่าควรจะปรับปรุงก็คือเรื่องของการทำงานช้า มันไม่ช้าอย่างเดียว คือพอเจอโควิดเขาก็หยุดทำงานเลย เขาไม่ทำงานกันเลย เขาบอกให้รอโควิดหาย มันก็ไม่ได้ไง ก็จนสัญญาหมดนั่นแหละ”
บอกเซ็นสัญญา 1 ม.ค. 2020 ทั้งปีนั้นมีงานแค่งานเดียว
“ที่ตัดสินใจเซ็นกับค่ายนี้ คือเหมือนกับรู้จักต่อๆ กันมาค่ะ ยอมรับว่าตอนแรกเราเชื่อมั่นเขามาก ถามว่าได้คุยกับเขามั้ยว่าทำไมไม่มีงานให้ จริงๆ มันก็พูดลำบาก เพราะเราไม่มีหลักฐาน แต่เขาก็พูดประมาณว่ารอให้ดังก่อน เพราะถ้ายังไม่ดังแล้วรับงาน ก็จะได้ราคาไม่ค่อยสูง ก็กลายเป็นว่ามีงานอะไรติดต่อเข้ามา เราเสนอไป เขาก็บอกว่าเอาไว้ก่อนๆ ปีแรกงานก็ทิ้งหมดเลย ซึ่งมีทั้งหมดประมาณ 40 งานที่ถูกทิ้งไป ปีนั้นกลายเป็นว่ามีงานที่ค่ายหาให้อยู่งานเดียว เป็นงานร้องเพลงฟีชเจอริ่ง ก็เป็นงานเดียวทั้งปี แต่เงินก็เพิ่งมาได้เดือนมกราคมปี 2021 นะคะ”
เผยพอกลับมาลูกสาวก็กลายเป็นโรคเครียด โรคซึมเศร้า
“เขาเป็นซึมเศร้า พอเขากลับมาเมืองไทยน่ะค่ะ (เสียงสั่น) แม่ก็สงสารลูกนะ เพราะตอนไปอยู่ที่มาเลเซียน้องก็ไปอยู่คนเดียว ตอนนี้น้องก็ยังต้องหาหมออยู่ จริงๆ มันมีหนักกว่านี้นะ คือพอน้องกลับมาเขามีอาการนอนไม่หลับ จนต้องไปหาหมอ ต้องกินยานอนหลับตลอด สภาพจิตใจเขาแย่มาก ตั้งแต่กลับมาเขาเปลี่ยนไปมากเลย แล้วเขาก็มาบอกแม่เองว่าเขาอยากไปหาหมอ อยากไปหาจิตแพทย์ เพราะเขานอนไม่หลับ ทั้งวัน 24 ชม.ก็ไม่หลับ ตั้งแต่กลับมาเขาเริ่มไม่หลับๆ ติดต่อกัน ช่วงนั้นหนักมาก"
"แต่ช่วงนี้น้องมีความสุขขึ้น เพราะเขาได้ทำงาน เมื่อช่วงต้นปีที่แล้วมีงาน ได้เงินมา 70,000 บาท ใช้ไปก็เหลือประมาณ 40,000 เขาก็เอาเงินก้อนนี้มาทำเพลง เอาไปเสนอลูกค้า ซึ่งดีใจมากที่ลูกค้าให้ความสนใจ ลูกค้าชอบทุกคน จนได้เงินมาทำโปรเจ็คเพลงใหม่นี้ 2 ล้านบาท ก็มีความหวังว่ากลับมาคราวนี้ผลงานต้องดีทุกอย่าง กลับมาแล้วต้องไม่ธรรมดา”