“แอนชิลี” ขอโทษทำให้ผิดหวัง อย่าโทษชุดไม่ส่ง แต่ตนผิดพลาดเอง ลั่นพรีเซนต์ชุดประจำชาติไม่แข็งแรง เหตุตั้งใจให้เท่และหวาน แต่ไม่เป็นอย่างที่คิด นอยด์ดรามาไม่ได้ต้องสู้ต่อไป ด้าน “ปุ้ย” ยันเคสแอนไม่ใช่ความล้มเหลว ย้อนเวลาได้ก็จะเลือกแอนไปประกวด ก่อนอัดแฟนนางงามไดเร็กต์ไปด่ากรรมการ เสียมารยาท ถึงเวลาเชือดคอมเมนต์แย่ๆ ย้ำช้างน้ำเป็นคำหยาบ
หลังเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวด “มิสยูนิเวิร์ส”ที่ประเทศอิสราเอล ล่าสุดวันนี้ (18 ธ.ค.) “แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส” ได้เปิดให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ณ ห้องราชมณเฑียร แกรนด์ บอลรูม ชั้น M โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ พร้อม “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” ผู้อำนวยการประกวด พร้อมเคลียร์ทุกดรามาร้อน ท่ามกลางแฟนนางงามที่มาให้กำลังใจ พร้อมนำขนมถ้วยของโปรดแอนมาให้ด้วย
โดยแอนเผยว่า “กลับมาไทยแล้ว ก็รู้สึกดีค่ะ รู้สึกอบอุ่น แฮปปี้ได้เจอคนไทยทุกคนนะคะ เพราะว่าเราก็เป็นกลุ่มที่อบอุ่นมาก อยากจะขอบคุณทุกคนอย่างแรก ที่มาให้กำลังใจแอนนะคะ”
สนุกกับการไปประกวด ได้เจอเพื่อนๆ และเรียนรู้วัฒนธรรมจากทั่วโลก
“สนุกค่ะ แอนดีใจที่ได้พบเจอเพื่อนๆ หลายๆ คนเลย ตั้ง 79 คนค่ะ กิจกรรมก็สนุก ได้เรียนรู้เยอะ เรื่องวัฒนธรรมต่างๆ จากทั่วโลกเลยค่ะ ก็เป็นประสบการณ์ ที่ทำให้แอนเติบโตค่ะ”
โชคดีได้ “เจนนี่ ต้นคำ” Miss Universe Laos เป็นรูมเมต ชมน่ารักมาก เหมือนเป็นพี่สาวคนหนึ่ง
“รักพี่เจนนี่มากค่ะ พี่เขาเหมือนเป็นพี่สาวเลยค่ะ กลายเป็นพี่สาวคนหนึ่ง เราก็คอยดูแลกันอยู่ทุกวัน แล้วก็ช่วยกันปลุก ตอนเช้า ถามว่ากินข้าวยัง เตือนว่าอย่าลืมโน่นอย่าลืมนี่ โชคดีมากที่ได้พี่เจนนี่มาค่ะ (ถ่ายคลิปด้วยกันเยอะมาก?) ใช่ค่ะ รักพี่มาก คิดถึงค่ะ (ยิ้ม)”
อ่านหมดทุกกระแส ทุกคอมเมนต์ เพื่อเอามาพัฒนาตัวเอง
“อ่านค่ะ แอนอ่านทุกอย่างนะคะ พวกกระแสที่ช่วยให้แอนปรับปรุง ให้แอนพัฒนา แอนก็ฟังหมดนะคะ เปิดใจยอมรับในสิ่งที่แอนทำพลาด แล้วก็จะเอามาใช้ในการเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ให้ดีที่สุดค่ะ จะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ”
เล่าโมเมนต์หลังเวที ร้องไห้กับ “แองจี้” เพราะเหมือนได้ปล่อยวาง
“ก็เวลาอยู่ในสถานการณ์ที่มีความกดดัน แล้วก็อยู่เมืองนอก อยู่กับคนที่เราเพิ่งมารู้จัก แล้วพอเวลาได้เจอคนที่เราอยู่ใกล้ชิดกับเรา เหมือนเราปล่อยวางได้ แล้วทุกคนก็รู้นะคะ ว่าแอนกับแองจี้สนิทกันมาก เวลาได้เจอก็เหมือนน้องสาวคนหนึ่งค่ะ มันก็ได้ปล่อยความรู้สึก แล้วภาพที่ทุกคนได้เห็น ที่หนูกอดน้องเคนน้องชายหนู คือไม่ได้เจอกัน 1 ปี ก็เป็นครั้งแรกที่ได้กอดกันเกือบปีนึง อีโมชั่นก็เลยออกมาค่ะ คิดถึงค่ะ ตั้งปีนึงเนอะ คนเป็นพี่น้องกัน ก็อย่างนั้นแหละค่ะ”
รู้ตัวทำหลายคนผิดหวัง แต่ก็ทำเต็มที่แล้ว จากนี้จะปฏิบัติหน้าที่ MUT 2021 ให้ดีที่สุด
“แอนรู้สึกว่าทำให้หลายคนผิดหวัง แล้วโดยธรรมชาตินะคะ เวลาเราทำเต็มที่ทุกอย่าง แต่ว่าผลงานออกมาไม่ดีพอ ทำให้หลายๆ คนที่เชียร์มาตั้งแต่แรกผิดหวัง โดยเฉพาะแฟนนางงามทุกคน แอนก็รู้สึกแหละค่ะ ก็รู้สึกเสียใจนิดหน่อย แต่ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือต้องกลับมาสู้ต่อ กลับมาปฏิบัติหน้าที่มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ต่อ แล้วก็ทำให้ดีที่สุดค่ะ”
พอตกรอบปุ๊บก็คิดไว้เลย ว่าต้องกลับมาสู้ต่อ เศร้าได้ ร้องไห้ได้ แต่ต้องยืนขึ้นใหม่
“ตั้งแต่แรกเลยค่ะ ตั้งแต่ตกรอบเลย รู้ว่าต้องกลับมาสู้ เศร้าได้เนาะ เราเป็นมนุษย์ เสียดายได้ ร้องไห้ได้ แต่ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือพลาดแล้วทำอะไรต่อ ให้ยืนขึ้นมาใหม่ได้”
ไม่ท้อใจกับดรามาที่ถาโถม พร้อมเปิดใจยอมรับและปรับปรุงตัว
“ไม่ค่ะ เพราะว่ากระแสที่ทำให้แอนมาปรับปรุงได้ แอนจะเชื่อฟังแล้วปรับปรุงตัวเองจริงๆ คือเป็นคนไม่มีประสบการณ์ แล้วขึ้นมาบนเวทีมิสยูนิเวิร์สอย่างนี้ มันก็มีหลายอย่างที่เราต้องเปลี่ยน ต้องพัฒนา แล้วกระแสหลายอย่าง ก็เป็นสิ่งที่ทำให้แอนไปพัฒนาได้ ก็เปิดอกเปิดใจฟังค่ะ”
ย้ำชัด Real Size Beauty คือการดูแลสุขภาพ ไม่ใช่ข้ออ้างในการไม่ดูแลตัวเอง
“คืออย่างแรกที่แอนอยากพูดนะคะ แล้วแอนอยากย้ำอีก Real Size Beauty คือสุขภาพเรามาก่อนตลอดนะคะ ไม่ใช่ให้เราอยู่เฉยๆ ปล่อยวางตัวเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดนะคะ คือการดูแลสุขภาพ Real Size Beauty ไม่ใช่ข้ออ้าง ที่จะไม่ดูแลตัวเองนะคะ การที่เราดูแลตัวเอง เราก็สามารถมีหุ่น มีรูปร่าง หลากหลายได้ รวมทั้งสีผิว สีผม ความสูง ความเตี้ย คือมันมีได้หมด หลังจากที่เราดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพ (เกิดการถกเถียงขึ้นมาระหว่าง Real Size Beauty กับ Real Size Healthy ว่าแอนควรจะเหมาะสมกับคำไหนมากว่า?) แอนยึดในแคมเปญของแอน คือ Real Size Beauty ค่ะ แล้วก็มาเคลียร์กันเนอะ ว่ามันแปลว่าอะไรจริงๆ”
ดูไม่มั่นใจในการเดินรอบพรีลิมฯ เป็นเพราะตัวเองไม่ใช่ชุด
“ในโมเมนต์ตอนนั้น แอนเต็มที่จริงๆ ค่ะ แล้วเวลากลับมาย้อนดูเพอร์ฟอร์แมนซ์ ก็เข้าใจนะคะ ว่าทำไมทุกคนคิดอย่างนั้น ก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ ถ้าผิดหวังแล้วก็คิดว่าแอนไม่ได้ทำเต็มที่ ในโมเมนต์นั้นแอนมั่นใจค่ะ แต่ก็มีความตื่นเต้นโดยธรรมชาตินะคะ เป็นเวทีที่ได้ขึ้นครั้งแรก แต่ก็เต็มที่แล้วค่ะ แอนชอบชุดพรีลิมฯ มากๆ อยากขอบคุณพี่ดีไซน์เนอร์ เพราะพี่เขาเต็มที่
ความที่ดูไม่มั่นใจแอนก็อยากจะบอกว่าเป็นความผิดของแอนเอง ไม่เกี่ยวกับชุดเลยค่ะ ย้อนกลับมาเป็นประสบการณ์ที่แอนไม่ได้มี ก็ใหม่ แต่ก็ต้องสู้ค่ะ โดยสถานการณ์ที่อยู่หลังเวที มันรีบ มีความวุ่นวาย การผิดพลาดมันเกิดได้ มันเกิดขึ้นกับแอนเอง แอนชอบชุด ชอบความหมายของชุด แอนคิดว่ามันเหมาะสมมากที่จะโชว์แคมเปญนี้บนเวทีโลก
ส่วนชุดมวย (ชุดประจำชาติ) ที่คนบอกว่าต่อยดูเบา ตอนที่เดินออกจากเวที แอนอยากให้ออกมาเท่ๆ โยนกลับมากับความหวานของแอน แต่มันไม่ได้ออกมาแนวนั้น มันเป็นอย่างอื่น (ไม่ได้ยินกองเชียร์บอกให้ทำท่า?) ไม่ได้ยินค่ะ แอนโฟกัสข้างหน้าอยู่ ก็งงๆ คือมีคนคุมเวทีชี้มาที่เราด้วย”
บางคนบอกว่าอยู่ในบ้านเปล่งประกายมาก แต่พอไป MU แล้วดร็อปลง
“แอนไม่ได้มั่นใจนะคะ แต่ว่าอาจจะเป็นเพราะเราอยู่เมืองนอก แล้วก็อยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่าง แล้วก็ย้อนกลับมาใหม่ คือไม่มีประสบการณ์ อย่างเดียวที่แอนทำได้ คือเรียนรู้แล้วก็พัฒนาต่อค่ะ”
Real Size Beauty ดังไกลไปทั่วโลก
“ก็อยากสนับสนุนเรื่องนี้เสมอค่ะ เสียงเรามันไปทั่วโลกแล้ว เสียงคนไทยเรามันดังแล้ว แอนก็อยากทำให้มันดังขึ้นค่ะ ก็อยากจะเชิญชวนทุกคนเสมอค่ะ ให้มาจอยแคมเปญ Real Size Beauty ของเรา แล้วก็เดี๋ยวจะมีโปรเจกต์อะไรมาอีกเยอะนะคะ ก็อยากให้ช่วยซัปพอร์ตแหละค่ะ”
รับกังวลใจกลัวถูกต่อว่า ทำผิดหวัง พลาดมงฯ สาม
“ก็นิดนึงนะคะ ไม่อยากทำให้ใครผิดหวัง แล้วก็รู้ว่าหลายคนผิดหวังมากกว่าค่ะ โดยเฉพาะความสำคัญของมงฯ สาม แอนเข้าใจว่ามันเป็นความฝันของคนไทยหลายๆ คน และที่ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องนั้น ตอนแรกก็กลัวค่ะ แต่เห็นความอบอุ่นและกำลังใจที่ทุกคนส่งมาให้ ก็อยากจะขอบคุณอีกครั้งค่ะ มันช่วยให้แอนสู้จริงๆ ต้องสู้ต่อ ต้องลุยต่อ”
ก้าวผ่านคอมเมนต์ลบ ด้วยกำลังใจที่คอยซัปพอร์ต
“ในทุกอย่างที่แอนรู้สึกนะคะ ไม่ว่าจะความสุข ความเสียใจ แรงสนับสนุน แอนเป็นคนที่ชอบจ้องความรู้สึกของแอน และเข้าใจได้ว่าทำไมรู้สึกแบบนี้ ทำอะไรได้กับความรู้สึกนี้และปล่อยมันออกไปจากร่างกายเอง และแอนก็โชคที่อยู่ในทีมที่อบอุ่น ให้กำลังใจเสมอ ฟังแอนเวลาแอนเสียใจ ฟังแอนเวลาแอนดีใจ นั่งหัวเราะ นั่งร้องไห้กับแอน ต้องขอบคุณทีมที่ซัปพอร์ตตลอด”
รับมือดรามาด้วยการฟัง นอยด์ไม่ได้ เพราะถึงเวลาสู้แล้ว
“เปิดฟังค่ะ สิ่งที่แอนพัฒนาได้แอนก็ฟังค่ะ แล้วแอนก็อ่านในทุกอย่างนะคะ เปิดฟังและพัฒนาตัวเองต่อ และเข้าใจว่าทำไมทุกคนรู้สึกแบบนี้ เลือกที่มาปรับปรุงค่ะ ถามว่านอยด์ไหม มันไม่ได้แล้วค่ะ ถึงเวลาสู้แล้ว”
ฝากถึงคนที่มั่นใจมากขึ้น เพราะ Real Size Beauty อย่าลืมดูแลสุขภาพ แล้วมาสู้ต่อด้วยกัน
“สู้ต่อไปนะคะ แอนคิดว่าที่เข้ารอบหรือไม่เข้ารอบ ไม่เกี่ยวกับแคมเปญเราเลย เรายังภูมิใจในสิ่งที่เรามี อย่าลืมดูแลสุขภาพนะคะ ย้ำอีกครั้งนะคะ สู้ต่อค่ะ (ยิ้ม) แล้วเวลาเรารักตัวเองในสิ่งที่เรามีมันจะรู้สึกว่าน้ำหนักบนไหล่มันจะถูกยกออกมา สู้ต่อด้วยกันค่ะ”
ชวนทุกคนมาซัปพอร์ต ดันให้ #RealSizeBeauty ติดเทรนด์โลก
“อยากจะเชิญทุกคนต่อนะคะ มาซัปพอร์ต #RealSizeBeauty แอนคิดว่าการที่เราได้ไปถึงทั่วโลก คนไทยของเราทุกคนเข้ามาลงรูป ทำให้เทรนด์ทวิตเตอร์มันเข้าไปในสื่อเมืองนอก นี่มันคือพลังของทุกคน แอนไม่อยากเอาเครดิตอันนี้มาให้แอน คือเราเป็นทีมเดียวกัน มาถึงด้วยกัน”
ได้กินขนมถ้วยของชอบ ที่แฟนคลับส่งมาให้แล้ว
“แอนชอบค่ะ เหมือนทุกคนมีอาหารที่ชอบ แอนก็ชอบค่ะ ก็ได้ทานแล้วค่ะ”
ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมา และขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง
“อยากขอบคุณทีม อยากขอบคุณ TPN ขอบคุณแม่ปุ้ยที่อยู่ใกล้ชิดแอนเสมอ ให้กำลังใจเสมอ ช่วยให้แคมเปญเราถึงทั่วโลกแล้ว มันมหัศจรรย์มาก อยากขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่ให้กำลังใจแอน และขอโทษคนที่ผิดหวัง อย่างเดียวที่แอนทำได้คือพัฒนาต่อ ทำตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ให้ดีที่สุดค่ะ (ยิ้ม) รักทุกคนนะคะ จะสู้ไปด้วยกันนะคะ”
ด้าน ปุ้ย ปิยาภรณ์ เผยว่าเคสแอนชิลีไม่ได้ล้มเหลว จริงอยู่บิวตี้สแตนดาร์ดในการประกวดมีอยู่แน่นอน แต่สิ่งที่อยากบอก สังคมเราไม่ว่าอยู่จุดไหน หรือมิติไหนก็ตาม จะไม่มีการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงได้เลย ถ้าไม่กล้าทำอะไรบางอย่างขึ้นมา ถ้าเรามองแล้วว่าเจตนารมณ์เด็กคนนึง ซึ่งคะแนนหลังบ้านที่เป็นเอกฉันท์ในการเลือกแอนชิลีไปแล้ว วันนั้นมีใครกล้าค้านไหมว่าเธอไม่สมควรได้รับมงกุฏมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เธอก็เหมาะสมแล้ว
“เดินทางมาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ด้วยความเหนื่อยอ่อนมาก เพราะว่าเราไปครั้งนี้นานมากๆ เลย ก็อย่างที่บอก ว่าผลของการประกวดก็ได้ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว ยังไงเราก็ยืนยันว่าดีใจและภูมิใจ ในการทำหน้าที่ ส่งตัวตัวแทนไทยไปประกวดในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เข้ารอบลึกๆ ก็ตาม แต่ระหว่างที่เราปฏิบัติหน้าที่อยู่ ประเทศไทยก็อยู่ในกระแสตลอดเวลา สื่อต่างชาติเอง ตามที่เราได้พูดคุยด้วยตัวของเราเอง ก็เข้ามาชื่นชม เรื่องการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานของวงการนางงาม
จริงอยู่ค่ะ เราได้อ่านคอมเมนต์หลายๆ คอมเมนต์ ว่าบิวตี้สแตนดาร์ด สำหรับเวทีนางงามมีอย่างไร 1 2 3 4 ไม่เถียงเลยค่ะ แล้วก็ไม่แอนตี้ เพราะมันคือเรื่องจริง บิวตี้สแตนดาร์ดในการประกวดแต่ละเวที มีอยู่แน่นอนค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอก คือสังคมของเรา ไม่ว่าจะอยู่ในจุดไหน หรือมิติไหนก็ตาม มันจะไม่มีการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลง ในทางที่ดีขึ้นได้เลย ถ้าเราไม่กล้าที่จะตัดสินใจ เสี่ยงทำอะไรบางอย่างขึ้นมา
ถ้าเรามองแล้ว ว่าเจตนารมณ์ของเด็กคนหนึ่ง ซึ่งกองประกวด หรือ TPN ไม่ได้เป็นผู้เลือกนะคะ คะแนนกรรมการ คะแนนหลังบ้านที่เป็นเอกฉันท์ เลือกแอนชิลี ในวันที่เราประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ไปแล้ว ซึ่งมีใครกล้าค้านไหมคะ ว่าวันนั้นเธอไม่สมควรที่จะได้รับมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เลย ถูกไหมคะ เธอก็เหมาะสมแล้วค่ะ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เราก็น้อมรับ
แต่สิ่งหนึ่งนะคะ เราอยากจะบอกเลยว่า ไม่ใช่เพราะเราสปอยน้อง ตามใจน้อง ทุกอย่างผ่านการกลั่นกรอง และการคิดมาอย่างดีแล้ว ในการที่จะปั้นคนคนหนึ่ง เพื่อนำไปจักรวาล ทีมงานก็ทำงานอย่างหนัก สิ่งที่ท้าทายเรา แล้วเป็นเรื่องหินมาก ก็คือระยะเวลาเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น ที่เราจะจัดการเตรียมน้อง โดยเฉพาะน้องที่ไม่เคยผ่าน แม้กระทั่งเวทีใดๆ มาเลย เวทีในโรงเรียนก็ไม่เคยประกวดเลย เพราะโรงเรียนไม่ได้จัดประกวดเรื่องความงาม (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นก็คือเวรี่อินโนเซนต์มากนะคะ
แต่ว่าสิ่งนี้เราก็ยังยืนยันค่ะ ว่าย้อนเวลากลับไป ก็ต้องเป็นแอนชิลีค่ะ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้เราก็ทำสำเร็จแล้ว ต่างชาติได้มาสัมภาษณ์ บุคคลดังๆ ในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นอดีตมิสยูนิเวิรส์หลายคน แม้กระทั่งเพื่อนนางงามด้วยกันเอง หรือว่าหน่วยงานต่างๆ ในประเทศอิสราเอลเอง แล้วก็สื่อต่างชาติเอง ที่เข้ามาสัมภาษณ์เนี่ย เราภูมิใจค่ะ เขาก็พูดเลยว่า ประเทศไทยมีความทันสมัย มีความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง
เราลองได้นี่คะ ถ้าเราไม่ลอง หรือเราไม่ทำอะไรแบบนี้ขึ้นมา ไม่กล้าที่จะเปลี่ยน ไม่กล้าที่จะทดลอง เราใช้คำนี้นะคะ ถ้าเราไม่กล้าที่จะขยับอะไรเลยเนี่ย กี่ปีกี่ชาติมันก็จะเป็นอย่างนี้แหละค่ะ อยู่ในเรื่องเดิมๆ เพราะฉะนั้นวันนี้ เสียงที่เราส่งผ่านออกไปว่า Real Size Beauty มันมีอยู่จริง แล้วความหมายที่แท้จริงมัน ไม่ใช่การไปฝ่าฝืนเรื่องของวินัย คนที่เขามุ่งมั่นในการออกกำลังกายอย่างดี คนที่เขามุ่งมันในการจะดูแลตัวเองให้สุขภาพดี แข็งแรง ออกมาสวยงาม ไม่ว่าจะมิติไหนก็ตาม อันนั้นเนี่ยมันเป็นเรื่องที่ดี เราต้องทำค่ะ
แต่เดี๋ยวมาดู Real Size Beauty ในฉบับที่แอนได้สื่อออกไปแล้ว แล้วก็ทั่วโลกยอมรับนะคะ ว่ามันจะเป็นยังไง อาจจะมีคำถามว่า ทำไมทั่วโลกยอมรับ แล้วน้องไม่เข้ารอบ อันนี้ก็บอกเลยว่า ต้องแยกประเด็นให้ถูกต้องค่ะ สื่อที่เราได้กระเพื่อมออกไปเนี่ย ทั่วโลกยอมรับ ในเรื่องของการออกมาให้กำลังใจผู้คน เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คน
แต่เรื่องที่อยู่บนเวที แน่นอนค่ะอย่างที่เราบอก เราอย่าอวย อย่าเข้าข้างตัวเราเอง เพอร์ฟอร์แมนซ์ของเรา สู้คนที่เขาผ่านประสบการณ์ หรือเขาเตรียมพร้อมมาอย่างดี ก็มีคำถามมาว่า ทำไมเราไม่รีบจัดประกวด เรามีเวลาแค่ 3 อาทิตย์ ทำไมกระชั้นชิด ถามกลับพวกเรากันเองว่า สถานการณ์โควิดในประเทศเราในช่วงที่ผ่านมา เราย้ายวันที่ ย้ายเวทีการจัด ย้ายจนถอดใจไปหลายครั้ง เพราะการย้ายแต่ละครั้ง นั้นคือทุนทรัพย์ ไม่ได้ย้ายฟรีๆ
มันคืองานโปรดักชั่นที่เราตั้งใจจะให้ทั่วโลกเห็นว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจหรือสถานการณ์โควิดจะเป็นอย่างไร ประเทศไทยสามารถจัดอีเวนต์ดีๆ ได้ อันนี้ต้องชื่นชมวงการนางของไทย ไม่ว่าจะเป็นเวทีเราหรือเวทีอื่นๆ ล้วนแล้วแต่ตั้งใจจัดออกมาอย่างดีเยี่ยม โดยใช้พลังใจ พลังทรัพย์ของพวกเรา บวกกับสปอนเซอร์ที่น่ารักทั้งหลาย เพื่อเราต้องการให้ต่างชาติได้เล็งเห็นว่า คนไทยเนี่ยสุดยอด ไม่ว่าสถานการณ์จะวิกฤตยังไง เราจะต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสให้ได้ นั่นหมายความว่า โปรดมองที่เมืองของฉัน ฉันจัดการได้ แล้วก็จัดได้อย่างดี และที่สำคัญ เราสามารถควบคุมสถานการณ์โควิดได้
รู้ไหมคะว่ามันยากลำบากแค่ไหน กองเราอยู่ในบ้านก็ต้องระมัดระวัง ไม่ให้นางงามติดโควิดเลย แม้แต่คนเดียว พวกน้องๆ นักข่าวที่ไป เราก็ต้องกราบขอประทานโทษ กว่าจะเข้างานก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พวกเราพร้อมกันให้ความร่วมมือ ก็เพื่อวันนี้ เพื่อที่เราจะบอกทั้งโลกได้ ว่าเราเอาอยู่ ในขณะที่เวทีอินเตอร์เนชั่นแนลใหญ่ๆ ในประเทศ ล่มสลายไปก็มี เพราะว่าโควิดมันร้ายกาจมาก แต่เราเอาอยู่เพราะเราคือไทยแลนด์ค่ะ”
ขอโทษแฟนๆ นางงาม ที่ทำให้ผิดหวัง แต่มันไม่ได้สูญเปล่า เพราะแมสเสจที่แอนชิลีส่งออกไป มันสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ
“อันนี้เราเข้าใจค่ะ ไม่ตำหนิแฟนๆ นางงามเลยที่ผิดหวัง เพราะว่าแฟนๆ นางงามทุกคน รวมถึงพวกเรานี่แหละ เราเชียร์กันแบบถอดหัวใจเชียร์ นี่คือลักษณะที่ดีนะคะของเมืองไทยเรา คือเวลาอะไรที่เป็นของเรา เราเชียร์เต็มที่ เพราะฉะนั้นความผิดหวังที่มันเกิดขึ้น มันอาจจะเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เราฟังหมด เราน้อมรับหมด
บางคนบอกว่าพี่ปุ้ยไม่ต้องมาต่อกร ไม่ต้องมาตอบ แต่มันหมดยุคแล้ว ยุคนี้ผู้นำของโลก คนสำคัญๆ เข้ามาตอบทวิตเตอร์เอง เข้ามาตอบทุกอย่างเอง เราถามคำหนึ่งนะคะ ว่าอย่างวันนี้เราไม่มีสคริปต์ ทุกอย่างที่พูดมันออกมาจากสมองและหัวของเรา เพราะฉะนั้นเป็นการดีหรือเปล่า ที่เราออกมาชี้แจง ออกมาพูดคุยกันด้วยตัวของเราเอง
เรามีหน่วยสื่อสารองค์กรที่เข้มแข็งมากนะคะ ที่นำเสนอไปมาแพลตฟอร์มของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ หลายคนน่าจะเห็นแล้ว แต่ในการโต้ตอบอะไรพวกนี้ เราต้องมาตอบเอง เพราะมันคือคำตอบที่มาจากหัวใจของเรา ที่จะสื่อไปถึงน้องๆ และคิดว่ามันเป็นการดีกว่า ที่จะส่งตัวแทนออกมาพูด ในยุคนี้ภาพลักษณ์ที่ดีที่สุด คือตัวเราต้องออกมาเผชิญกับความจริงทุกเรื่อง ผิดขอโทษ อะไรไม่ผิดชี้แจง
ก็อย่างที่บอก ต้องขอโทษแฟนๆ ที่ทำให้ผิดหวัง แต่ขอให้มองอีกมุมหนึ่ง เราไม่ได้เสียเปล่าหรือสูญเสียซะทีเดียว อย่างน้อยวันนี้ แมสเสจที่แอนชิลีส่งออกไป มันสร้างชื่อเสียงให้ประเทศเรามากทีเดียวนะคะ แล้วการที่ตัวน้อง นำความเป็นไทยออกไปนำเสนอเนี่ย ก็ได้ผลมากๆ ค่ะ”
เรื่องหุ่นของแอนชิลีในวันประกวด ส่วนตัวรู้เต็มอก แต่อยากให้เจ้าตัวเป็นคนพูดเอง
“อันนี้เดี๋ยวเราให้เจ้าตัวมาเล่าเอง เรารู้อยู่เต็มอกค่ะ แต่เป็นเรื่องของผู้หญิง ที่เจ้าตัวเขาควรจะเล่าเอง อ่านในหลายๆ คอมเมนต์ มีคอนเมนต์ที่ติติงมาอย่างสร้างสรรค์ ที่อ่านแล้วชอบ นำไปพัฒนา แต่คนที่ด่าด้วยถ้อยคำที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ปุ้ยประกาศไว้ตรงนี้นะคะ นี่เป็นอีกหนึ่งบทบาท ที่สังคมต้องเกิดความเปลี่ยนแปลงค่ะ ปุ้ยและ TPN จะลุกขึ้นมาจัดการเรื่องนี้ มนุษย์ทุกคน ไม่มีใครควรถูกด้อยค่า หรือกดต่ำศักดิ์ศรีแห่งความเป็นจริงมนุษย์ เจอกันแน่นอนค่ะ
น้องทำดีที่สุดจริงค่ะ แต่ยังไม่พอ บางคนโต้แย้ง ว่าคลิปที่ออกไป ดูน่าหมั่นไส้ ดูไม่ดี คุณได้ดูคลิปหรือดูจนจบไหม อย่างวันนี้เราพูดกับนักข่าวทุกคน ทุกคนรู้ว่าเราพูดว่าอะไร แต่เชื่อไหมเดี๋ยวมันก็จะมีการตัดทอน ช่วงสั้นๆ ที่เอาไปประกอบการโฆษณา แล้วมันก็จะไม่ใช่เรื่องที่เราสื่อสารกัน เพราะฉะนั้นเราว่า ยุคนี้มันต้องหยุดแล้ว ขอความร่วมมือนะคะ ทั้งกระทรวงไอที แล้วก็ปอท. วันนี้เราต้องลุกขึ้นมาร่วมมือนะคะ
เดี๋ยวเราจะเดินหน้าด้วยตัวเองค่ะ มันหมดยุคแล้วค่ะ ที่ใครสักคนหนึ่ง จะตกเป็นเหยื่อ มีหลายเคสที่พวกเราอาจจะไม่รู้ เขาอยู่ในความซึมเศร้า อยู่ในความหม่นหมองมาทั้งชีวิต บางครั้งมีการฆ่าตัวตาย ก็เพราะการทำอะไรที่ย่ำใจ และคิดว่าตัวเองอยู่เหนือความเป็นมนุษย์ของคนอื่น เจอกันแน่ค่ะ”
คำว่า “ช้างน้ำ” ไม่ใช่คำหยาบ แต่เป็นคนที่หยาบมาก ส่วนจะฟ้องคำนี้ด้วยไหม ต้องไปดูบริบท
“ก็ต้องไปดูบริบทค่ะ ถ้าอยู่ดีๆ เราพูดว่าช้างน้ำ ก็ไม่ได้ผิดอะไรนะคะ แต่มันต้องไปดู ว่าช้างน้ำหมายถึงอะไร ผีเสื้อสมุทรคืออะไร มันดีไหมถ้าเราเจอกันแล้วบอกว่าวันหนูสวยเนอะ หนูดูดี กับเจอปุ๊บเอ้ย…ช้างน้ำ ช้างน้ำไม่ใช่คำหยาบนะคะ แต่หย๊าบหยาบ เดี๋ยวไปดูบริบท”
ขอบคุณสปอนเซอร์ทุกคนที่มาช่วยกัน
“เรามีรายชื่อต้องขอบคุณเยอะ จริงๆ แล้วอยากจะบอกว่าสปอนเซอร์ทั้งหลายที่อยู่ในมือพี่ปุ้ย คือผู้ให้กำลังใจ ต้องขอบคุณ ยุคนี้ข้าวยากหมากแพง มันแสนเข็ญในการรันธุรกิจ แต่สปอนเซอร์ไม่ว่าจะเป็น PPTV , TRUE 5 G , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , สำนักวัฒนธรรมฯ ทุกคนให้ใจเราเต็มที่ที่จะส่งแอนชิลีไปจักรวาล วันนี้ก็ไม่มีอะไรจะพูด ถามได้ ตอบทุกคำถาม”
บอกนั่งงงในดงอิสราเอล กับข่าวลือลิขสิทธิ์ MUT หลุดมือ ไม่รู้เกิดขึ้นได้ยังไง
“อันนี้ก็นั่งงงในดงอิสราเอล ถามว่าความเป็นมายังไง คือไม่ทราบเลย ไม่ทราบจริงๆ เพราะว่าไม่มีมูลใดๆ จากทางฝั่งเราเลย น่าจะได้เห็นที่คุณแอน (จักรพงษ์จักราจุฑาธิบดิ์) โพสต์เฟซบุ๊กแล้ว มันน่าจะจบแล้ว คืองง งงมาก ที่ว่ามีการเต้าข่าว อันนี้เป็นอีกอันหนึ่งที่ทำให้บริษัทเรามีผลกระทบ ในช่วงที่มีการโพสต์ จริงๆ ไม่มีอะไรเลย”
ปัด “แอน จักรพงษ์” มาขอซื้อลิขสิทธิ์ เพราะจริงๆ มีหลายเจ้า ลั่น! ในอนาคต มีการเปิดรับผู้ลงทุนเพิ่มแน่นอน
“ไม่มีค่ะ ไม่ใช่คุณแอนคนเดียว มีหลายๆ ท่านมีความเมตตา มีความเห็นด้วยว่าสายสะพาย THAILAND อันนี้จากคำพูดของหลายๆ ท่าน ก็อยากสนับสนุน อยากให้เรารับผู้ร่วมลงทุนเพิ่ม ในอนาคตมีแน่นอน ไม่ใช่เฉพาะคุณแอน แต่มีหลายท่านมาก แต่ 2 ปีที่เหลือขายไม่ได้หรอกค่ะ เพราะ MU เขามีกฎระเบียบของเขา
อยากบอกทุกคนว่าอย่าไปกังวลอะไรที่มันยังมาถึง วันนี้อะไรที่อยู่ในมือเรา เราทำเต็มที่ ลุยเต็มที่ วันพรุ่งนี้อะไรจะเปลี่ยนเลย แต่วันนี้อะไรที่อยู่ในลมหายใจ ในความรับผิดชอบของเรา ก็เต็มร้อยค่ะ แล้วเราจะไม่เสียใจเลย ว่าเมื่อวานน่าจะทำ ส่วนคำถามนี้อาจจะมีคนย้อนว่า ถ้าทำดีที่สุดแล้ว ทำไมผลของแอนชิลีเป็นแบบนั้น คำถามคือไปดูค่ะ ไม่ได้อยากยกตัวอย่างแต่ก็ต้องยก หลายๆ ประเทศงงกว่าแอนชิลีอีก เพราะว่าสวยพร้อม
คนที่ขึ้นไป MU ทุกคนทุกประเทศ ต่างชาติเรื่องสปีซของเขาไม่ต้องกังวล รูปแบบของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่างแอนชิลี ไม่ต้องห่วงเขาเรื่องคำถาม หลายประเทศเขาก็พร้อมของเขา แต่เวลาประกาศก็หายไป ดังนั้นเรามองตรงนี้ วันนี้เราทำได้ขนาดนี้ ก็อยากให้กำลังใจน้อง ถามย้ำอีกครั้งย้อนกลับไปในวันนั้น คนที่สมควรจะได้รับมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ก็คือแอนชิลี มันคือเท่านั้นเอง
ปีหน้าเราก็พยายามลุยต่อไป แน่นอนสิ่งนึงที่พูดได้ชัดเจนมากว่า TPN ไม่มีล็อกมงฯ ไปถามน้องๆ ที่มาเป็นกรรมการได้ คะแนนหลังบ้าน คะแนนพฤติกรรม บางอย่างสิ่งที่เห็นไม่ได้ปรากฏอยู่หลังกอง ก็เหมือนเราไป MU บางอย่างสิ่งที่ไม่เห็น ก็จะไม่รู้ เพราะฉะนั้นต้องวิพากษ์วิจารณ์ในขีดจำกัด”
ไม่หวั่นปีหน้าแฟนนางงามจะไม่ตามเชียร์ เพราะเกิดกระแสปิดประตูประเทศไทย
“ถ้าเราจะใช้คำว่าปิดประตูประเทศไทย อันนี้ยิ่งตลกใหญ่เลย ในอดีต TPN ทำมาตั้งแต่ปี 2018 2019 2020 ปิดไหมคะ ประตูต้องปิดๆ เปิดๆ บ้าง เปิดหรือปิดตลอดมันไม่ใช่สัจธรรมของโลก ปีนี้เราพลาด ปีหน้าเอาใหม่ เราก็ไม่รู้อีกว่าสมมติเราเตรียมความพร้อมไปหมด ก็มีคุยกับ MD ประเทศอื่นที่ไม่เข้า และถ้าสมมติเราทำเวทีเอง ใจคอจะให้ไทยแลนด์เข้าทุกปีเลยเหรอ ปีไหนไม่เข้า เราปิดประตูเหรอ ไม่ใช่ ไม่ว่าจะเวทีไหน การที่ไทยแลนด์ไม่เข้า ไม่ได้แปลว่าเราปิดประตู
ปรากวัย นั่นเรียกว่าเปิดประตูของจริง ประวัติศาสตร์ของเขากี่ปีที่เฝ้าเพียรส่งประกวด และอย่าลืมว่าสรีระบางประเทศเหมือนเทพปั้น ด้วยโครงสร้าง กี่ปีที่แล้วเขาได้เข้าไปจับมือเป็นรองอันดับ 1 นั่นเรียกว่าเปิดประตู แต่การที่เราได้ตลอดและไม่ได้บ้างจะเรียกว่าปิดประตู คืออันนี้จะเรียกว่าปิดประตู แล้วเขาจะไม่มองอีก Miss Universe มีวิสัยทัศน์ที่ไม่ใช่แบบนี้แน่นอน”
ตอบข่าวลือ 2023 จะเป็นเจ้าภาพจัด MU บอกจะทำอย่างนั้นได้ ต้องมี 400 ล้านให้อุ่นใจไว้ในกระเป๋าก่อน
“จริงๆ แล้วมูลมีมาทุกปี แต่ก็ต้องคุยเพราะการจัดครั้งหนึ่งเราต้องมีอุ่นใจในกระเป๋าประมาณ 400 ล้าน มันก็อยู่ระหว่างการเจรากันว่าเราจะทำยังไง แต่เราคิดว่า อย่างอิสราเอล มันเคสศึกษาเวลาไปเราก็ไปศึกษาด้วย อิสราเอลเป็นเมืองที่ต้องระมัดระวังมาก ประเทศเขาที่คนอาจจะไม่ค่อยได้สนใจนางงาม แต่รัฐบาลจัดเต็ม เขาต้องการเปิดประตูการท่องเที่ยวของเขา แต่ตอนไปถึงโควิดสายพันธุ์ใหม่เข้า เขาก็ปิดประเทศ ก็มีความวุ่นวายนิดหนึ่ง ผิดแผน แต่การประกวดเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี ก็ชื่นชมเขาที่จัดได้”
ประเด็นช่างภาพหื่น ไม่มีผลต่อกองประกวด
“คือจริงๆ แล้ว ถ้าเป็นเรื่องร้ายแรงก็ไม่ได้เกิดขึ้น แต่ว่าเราจะบอกว่าล่วงละเมิดทางเพศสำเร็จก็ไม่ใช่ แค่ด้วยคำพูด ด้วยสายตา หรือการอะไรเล็กๆ น้อยๆ มันก็ผิดแล้วกับการย่ำยีศักดิ์ศรีของผู้หญิง แล้วก็ไม่เห็นด้วยว่าเป็นเรื่องเสียชื่อหรืออะไร ถ้าเรานิ่งเงียบหรือไม่ทำอะไรเลย นั่นแหละเสียชื่อ เพราะว่าคุณไม่ใช่แล้ว และก็ไม่ได้พาดพิงถึงเวทีไหนด้วย
ถามว่าคดีไปถึงไหนแล้ว จริงๆ คู่กรณีไม่ใช่ TPN ไม่ใช่กองประกวด คู่กรณีก็คือน้องๆ ที่ได้รับผลการกระทำ เราก็เข้มงวด แต่อย่างที่บอกการอยู่ใกล้ใครสักคนมันไม่ได้ขึ้นที่หน้าผากนะ พูดยาก เพราฉะนั้นมาตรการที่เราต้องคุมเข้มมากขึ้น คือมีหน่วยเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นอีก แต่พี่คิดว่าจากกรณีนี้คงเป็นเคสศึกษาคนที่จะคิดจะทำอะไรไม่ดี ต้องระวังแล้ว”
ฝากถึงแฟนนางงามปีหน้ามาลุยกันใหม่ ส่วนใครแท็กไปด่ากรรมการ MU มีหลักฐานหมด อย่าทำแบบนั้น มันเสียมารยาท
“ปีหน้ามาลุยใหม่นะคะ ถ้าสถานการณ์โควิดสงบเงียบแล้ว ก็คงจะกลับมาลูปเดิม อย่างที่เราล็อกดาวน์ การสัมภาษณ์ยังมีขึ้นไม่ได้เลยในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ก็ทำให้เรียนรู้ที่จะระมัดระวัง อย่างน้อยๆ รูปแบบของการจัดการ ที่ทำมาทั้งหมดเรารอด ก็จะจัดต่อไป จะเข้าลูปเดิมไม่เกินเดือนกรกฎาคม และให้ทุกคนมาร่วมกันส่งแรงเชียร์ สาวงามท่านใดคิดว่าตัวเองพร้อมก็อยากให้เข้ามา
แต่อันหนึ่งที่อยากจะฝาก อันนี้ก็เป็นเคสศึกษาเหมือนกัน ถ้าเราคิดว่าเคสแบบแอนชิลีล้มเหลว มันไม่ใช่นะคะ น้องๆ หน้าใหม่ หรือน้องๆ ที่มีไฟ และคิดว่าตัวเองจะเข้ามาอย่าทิ้งความฝันของตัวเอง เพียงเพราะว่าจะโดนสาปแบบแอนชิลี เรามีหลักฐานนะคะ แฟนๆ นางงามที่หลายคน อาจจะทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เราได้รับข้อความจากกองใหญ่ (MU) แฟนนางงามบ้านเราแท็กไปด่ากรรมการ คุณไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเขา แท็กดีเอ็มไปจุกจิก อยู่ในมือถือเราหมด คือเขาไมได้ซีเรียสเรื่องนี้นะ แต่เขาบอกว่าแฟนนางงามไทยเวรี่สตรอง มีการส่งข้อความไปอัดกรรมการ อย่าไปทำอย่างนั้นมันเสียมารยาท ไทยแลนด์จะไม่รอดเพราะเรามีนิสัยกันแบบนี้นี่แหละค่ะ ฝากไว้ด้วยค่ะ เราพูดทุกอย่างมีหลักฐานหมด”
