แค่ออนแอร์ไปตอนแรก ก็กลายมาเป็นประเด็น สำหรับ “NOT ME...เขาไม่ใช่ผม” ซีรีส์ของคนที่จะไม่ทนอีกต่อไป จาก “GMMTV” ที่ออนแอร์ไปอีพีแรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม เวลา 20.30 น. ทางช่อง gmm25 นอกจากจะติดเทรนด์ทวิตเตอร์เพราะแฟนคลับของ “ออฟ-กัน” ที่เห็นทั้งคู่กลับมารักกันอีกครั้งในซีรีส์ ให้เหล่าชาวสาววายได้กรี๊ดได้ปั่นเทรนด์กันสนุกสนานแล้ว แต่ที่ควบคู่กันมาก็คงหนีไม่พ้น #แบนnotme ที่ขึ้นเทรนด์ตามมาติดๆ
#แบนnotme เกิดจากการที่เหล่าแฟนคลับของ GOT7 หรือที่รู้จักกันคือ “อากาเซ่” รู้สึกว่าซีรีส์เรื่องนี้นั้นเกิดมาจากการ “แฟนฟิกชั่น” หรือนิยายที่เขียนมาจากความคิดของผู้เขียน ซึ่งมาจากจินตนาการมากกว่าความเป็นจริง หรือบางทีอาจจะเอาคาแรกเตอร์ของศิลปินที่มีอยู่จริง นำมาเป็นคาแรกเตอร์ในนิยาย ซึ่งจะหาอ่านได้ตามเว็บที่ลงนิยายแนวนี้ และการเกิดแฮชแท็ก #แบนnotme ไม่ใช่เพิ่งเกิด เพราะเกิดมาตั้งแต่แฟนๆ ที่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้รู้แล้วว่าทาง Gmmtv จะนำมาทำเป็นซีรีส์ โดยเนื้อหาที่เหล่าแฟนๆ นิยาย รวมไปถึงอากาเซ่ไม่พอใจ ก็เพราะว่าแฟนฟิกเรื่องนี้คือ “แบมแบม-มาร์ค” จากวง Got7 และได้มีการนำภาพของทั้งคู่มาประกอบในนิยายตอนที่เปิดให้อ่านแบบออนไลน์
โดยย้อนกลับไปนี่ไม่ใช่เรื่องแรกที่ถูกพูดถึงว่าต้นฉบับมาจากแฟนฟิกชั่น เพราะก่อนหน้านี้ #แบนนิติแมนแฟนวิศวะ ก็ถูกพูดถึงว่าต้นเรื่องมาจากแฟนฟิกที่จับเอาคู่ของ “เจบี-จินยอง GOT7” มาจิ้นกัน
และการติดแฮชแท็ก #แบนnotme จนกลายเป็นเรื่องร้อนแรงในโลกออนไลน์ โดยอากาเซ่บางกลุ่มยืนยันว่า “นักแสดง” ที่แสดงในซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เป็น “คนผิด” แต่อยากจะให้บริษัทผู้ผลิต และนักเขียนนิยายเรื่องนี้ออกมาชี้แจงว่าสรุปแล้วความจริงมันคืออะไรกันแน่?
ด้านนักเขียนเรื่อง “Not Me เขาไม่ใช่ผม” ที่ชื่อ “เด็ม” ก็ได้ชี้แจงผ่านเพจส่วนตัว saisioowriter ยืนยันว่าเนื้อหามาจากจิตนาการของตนเองล้วนๆ ไม่ได้ดัดแปลงมาจากแฟนฟิกชั่นตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมจะดำเนินคดีกับคนที่ปล่อยข่าวเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
“แถลงการณ์กรณีเรื่อง #แบนNOTME
เด็มขออนุญาตใช้พื้นที่ในเพจของเด็มในการชี้แจง อธิบายความเป็นจริงเกี่ยวกับแท็ก #แบนNOTME ที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้นะคะ ซึ่งเด็มอยากจะขอร้องให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านโพสต์นี้ ละวางอคติในใจ ลองมองอย่างเป็นกลาง เกี่ยวกับสิ่งที่เด็มกำลังเผชิญดูค่ะ เด็มก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ตั้งใจทำงาน รักงานเขียน และทุ่มเททุกอย่างแทบจะทั้งชีวิตเพื่องานทุก ๆ เรื่อง ไม่งั้นเด็มคงไม่สามารถอยู่ในวงการนี้มาได้นานขนาดนี้ เด็มรักทุกตัวอักษร ทุกตัวละครที่เด็มแต่งออกมาค่ะ
เมื่อประมาณห้าปีที่แล้ว เด็มได้นำเอาประสบการณ์ช่วงหนึ่งที่เด็มเคยเรียนโรงเรียนช่าง เคยวิ่งหนีระเบิดปิงปอง เคยถูกเด็กช่างโรงเรียนอื่นเช็กหัวเข็มขัด มาเป็นไอเดียในการเขียนนิยายเรื่อง ‘เด็กถ่อยรักจริง’ ตัวละครทั้งหมด เป็นการครีเอตขึ้นมาจากจินตนาการ เด็มได้ทำการหาข้อมูล ปรึกษาน้องที่เป็นพยาบาล ปรึกษารุ่นพี่ เพื่อทำรีเสิร์ชในการเขียนเรื่องนี้ กว่าจะจบแสนกว่าคำที่ทุกคนเห็น เด็มแทบจะทุ่มเทจิตวิญญาณลงไปจริง ๆ ค่ะ
ทั้งนี้ เด็มอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าในสมัยก่อน การแปะรูปภาพตกแต่งบนเว็บไซต์ เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมาก ในหมู่นิยายออริจินัล แต่อย่างไรก็ดีตัวละครในเรื่อง ก็ชื่อ ฌอห์ณ-ไวท์-หยก-แกรม มาตั้งแต่แรก ไม่เคยเป็นฟิกชั่นที่ใช้ชื่อศิลปินมาก่อนเลย การแปะภาพตกแต่งในเว็บไซต์ ไม่ได้สามารถทำให้นิยายเรื่องหนึ่ง เปลี่ยนแปลงเป็นฟิกชั่นได้ เนื้อเรื่องและบุคลิกคาแรกเตอร์ตัวละครทั้งหมด เด็มแต่งขึ้นมาจากจินตนาการ เด็มไม่ได้รู้จักศิลปินเกาหลีท่านใดเป็นการส่วนตัว ไม่มีทางที่เด็มจะรู้ว่าตัวตนจริง ๆ ของเขาเป็นอย่างไร และเรื่องน็อทมี มาจากประสบการณ์ของเด็มบวกกับจินตนาการเท่านั้นค่ะ เมื่อเด็มจะทำการจัดจำหน่าย เด็มก็จ้างวาดปก ออกทุนพิมพ์ จ้างทีมพิสูจน์อักษรเอง ดังนั้น ในความเป็นจริงก็คือ นิยายเรื่องนี้ถูกลิขสิทธิ์แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ
สาเหตุที่เด็มออกมาชี้แจงในวันนี้ เพราะเด็มรู้สึกเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาตลอด รู้สึกกดดัน จนต้องเข้าพบจิตแพทย์หลายครั้ง เด็มเคยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน ครอบครัวเป็นห่วงกังวลมาก ว่าอาจจะกลับมาเป็นอีกครั้งจากเหตุการณ์นี้ และเริ่มมีหลายสำนักข่าว เชื่อถือไปแล้วว่านิยายเรื่องนี้เคยเป็นฟิกมาก่อน จนเอาไปทำข่าว เผยแพร่ความเข้าใจผิดให้กระจายออกไป ทำให้เด็มเหนื่อยและท้อเป็นอย่างมาก เด็มจึงรู้สึกว่า เด็มควรออกมาพูดความจริง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเสียงของเด็มจะดังพอที่จะให้ใครได้ยินหรือไม่ เด็มแค่หวังว่าจะมีกลุ่มคน ที่เชื่อ และเข้าใจในสิ่งที่เด็มแถลงออกไปในวันนี้ ต่อให้มีแค่คนเดียว เด็มก็คงดีใจมากเลยค่ะ
เด็มขอบพระคุณนักอ่านทุกคนที่อยู่กับเด็มมาตลอด ไม่ว่าคุณจะอยู่มาตั้งแต่เรื่องแรก หรือเพิ่งมาเจอแล้วรู้สึกว่างานของเด็มทำให้คุณยิ้มได้ เด็มก็กราบขอบพระคุณจากใจค่ะ เพราะนักอ่านทุก ๆ ท่าน ทำให้เด็มมีกำลังใจในการเขียนต่อไป
สุดท้ายนี้ แม้ว่าเด็มจะพยายามเผชิญกับสิ่งต่าง ๆ อย่างเข้มแข็ง แต่การที่เด็มต้องกลับมาหาจิตแพทย์ กินยา ตลอดจนมีบุคคลจำนวนหนึ่ง พยายามทำลายอาชีพการงาน ส่งเมลไปทาง B2S, GMM ตลอดจนสำนักพิมพ์ที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้อง หนักถึงขั้นมีคนพยายามแจ้งให้ทางรี้ดอะไรท์ ปิดแอ็กฯ ไม่ให้เด็มสามารถลงนิยายได้อีกต่อไป เพื่อให้เด็มสูญเสียทุกอย่างให้ได้มากที่สุด ทำให้ครอบครัวของเด็มไม่สามารถนิ่งเฉย และทนเห็นสุขภาพจิตและการงานของเด็มโดนทำลายทุกวันได้
ทางครอบครัว จึงได้ช่วยกันรวบรวมหลักฐาน จากทางทวิตเตอร์ หน้าบทความนิยาย เพจบน facebook เพื่อที่จะปรึกษากับทางทนายความ ว่ากรณีใดบ้าง ที่ถือว่าผิดจริงในแง่ของกฎหมาย ซึ่งทางทนายก็ได้พิจารณาออกมาว่ามีจำนวนทั้งหมดเจ็ดคนในเบื้องต้น โดยยังคงมีการรวบรวมเพิ่มเติมอยู่เรื่อย ๆ ณ ตอนนี้ จึงอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการเพื่อดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล ว่านิยายเรื่องนี้ ไม่ได้ผิดกฎหมาย และเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ของเด็มด้วยค่ะ
ขอบพระคุณทุกท่านที่อ่านแถลงการณ์นี้มาตั้งแต่ต้นจนจบนะคะ”
ส่วน “นุชชี่ อนุชา” ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านไอจีส่วนตัว พร้อมชี้แจงเป็นข้อๆ ว่าคาแรกเตอร์ของตัวละครแต่ละตัวไม่ได้เป็นการนำคาแรกเตอร์ของสมาชิก GOT7 มาใช้เลย แต่ตัวละครทั้งหมดมาจากต้นแบบของวัยรุ่นไทยที่เห็นได้ในปัจจุบัน พร้อมน้อมรับผิด ถ้าทำให้ทุกฝ่ายไม่สบายใจ
“anuchyfilm : วันนี้กำลังเร่งตัดต่อซีรีส์ “Not Me เขาไม่ใช่ผม” ep 2-3 อยู่ค่ะ แต่คิดว่ามีเรื่องสำคัญที่อยากจะชี้แจงเกี่ยวกับซีรี่ส์เรื่องนี้อยู่
คือมีประเด็นถกเถียงกันว่า นวนิยาย “Not Me เด็กถ่อยรักจริง” เป็นแฟนฟิกของวง GOT 7 จึงไม่สมควรนำมาดัดแปลงเป็นซีรีส์ จนเกิดกระแสเป็น #แบนNotMe ขึ้นมา นุชี่เองก็เพิ่งทราบเรื่องนี้เมื่อซีรีส์ได้ออนตอนแรกไปในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ
ในฐานะที่เป็นผู้กำกับซีรีส์เรื่องนี้ นุชี่ต้องขออภัยแฟนคลับทุกท่าน ที่ไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้อย่างละเอียดมาก่อน จึงทำให้เกิดความไม่สบายใจขึ้นหลายๆ ฝ่าย และขอใช้โพสต์นี้เพื่ออธิบายแนวคิดและขั้นตอนการดัดแปลงบทประพันธ์เรื่องนี้มาเป็นซีรีส์ “Not Me” ดังนี้
1. plot เรื่องฝาแฝดที่ต้องเข้ามาตามหาความจริงเรื่องพี่ชายที่ถูกทำร้าย เราคงไว้ตามนวนิยายต้นฉบับ แต่การดำเนินเรื่องและการพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครถูกปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เนื่องจากซีรีส์เป็นแนว Drama - Thriller ผสมความวายที่มีความยาวถึง 14 อีพี จึงต้องเพิ่มเติม plot หลัก plot รองเข้าไปให้มีความซับซ้อนมากขึ้น
2. ประเด็นและแนวคิดเรื่องการต่อสู้ความอยุติธรรม ระบบกฎหมายของประเทศไทย รวมถึงประเด็นทางสังคมอื่นๆ ไม่ได้มีปรากฏอยู่ในนิยายต้นฉบับ แต่เป็นสิ่งที่ผู้กำกับและทีมงานใส่เข้ามาเป็นประเด็นหลักของเรื่องเพื่อแสดงให้เห็นภาพของสังคมและการต่อสู้ของวัยรุ่นไทยในยุคปัจจุบัน ที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ ความกล้าหาญ และความเจ็บปวด
3. ชื่อตัวละครเราคงใช้ชื่อเดิมแต่ character ของแต่ละตัวละครถูกปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด โดยไม่ได้นำต้นแบบมาจากวง GOT 7 แต่ตัวละครทั้งหมดในซีรีส์เรื่องนี้มีต้นแบบมาจากวัยรุ่นไทยในสังคมที่แสวงหาแนวทางการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสังคมที่ดีกว่า ผู้กำกับและทีมงานได้แรงบันดาลใจมากจากพวกเขาเหล่านั้นโดยมิสามารถระบุเป็นตัวบุคคลคนใดคนหนึ่งได้ แต่หยิบจับประสบการณ์และเรื่องราวที่ได้พบเห็นมาเรียบเรียงเป็นตัวละครขึ้นมา
กรณีนี้จึงอาจเป็นกรณีศึกษาเรื่องปัญหาของแฟนฟิก ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาในเชิงจริยธรรมและจรรยาบรรณ ซึ่งตัวผู้สร้างและสตูดิโอ วงการบันเทิงรวมถึงแฟนคลับศิลปินต่างๆ ได้มีโอกาสที่จะกำหนดมาตรฐานต่างๆ ขึ้นมาให้เท่าทันกับกระแสนิยมที่เกิดขึ้นในอนาคต
สุดท้ายนี้ นุชี่ก็ขออภัยอีกครั้ง และจะระมัดระวังมากขึ้นนะคะ หากแฟนคลับยังมีข้อห่วงกังวลเรื่องการใช้ image ของศิลปิน ก็สามารถ inbox มาได้ นุชชี่พร้อมรับฟังความคิดเห็นและจะพิจารณาหาทางแก้ไขให้ค่ะ”
