เปิดหน้าละครมา ก็ว่าน่าสนใจแล้ว
สำหรับละครเรื่อง “กะรัตรัก” ของช่อง 3 เพราะเป็นการพบกันครั้งแรกของพระ-นางต่างรุ่น
“แอน ทองประสม” จับคู่กับ “เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข”
เห็นโผนักแสดงนำแล้ว ก็ปักธงได้เลยว่าเป็นเรื่องราวของรักข้ามรุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งก็เป็นเทรนด์นิยมของละครในช่วงเวลานี้ก็ว่าได้
ที่ว่าเป็นเทรนด์นิยม ก็เพราะฐานคนดูละครช่องหลักส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง ที่อยู่ในช่วงของวัยกลางคน ในขณะที่ถ้าเป็นฐานของคนดูซิรี่ส์วัยรุ่น หรือซิรี่ส์วาย ก็จะหนีไม่พ้นบรรดาเด็กสาววัยรุ่น
พูดง่ายๆ ว่าเป็นการแบ่งแยกตลาดกันอย่างชัดเจน
ย้อนกลับมากลุ่มคนดูละครที่เป็นผู้หญิงวัยกลางคน ต้องยอมรับว่าหลายคนอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก ขณะที่หัวใจก็ยังคงถามหาใครสักคนที่จะมาทำให้ชีวิตในข่วงวัยนี้กระปรี้กระเปร่า มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
ในโลกของความจริง ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับในสิ่งที่ตัวเองต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเด็กหนุ่มที่อายุต่างกันเป็นสิบปี
ฉะนั้นแล้ว ก็ต้องมาถามหากันในโลกสมมติ ก็คือเมื่อดูละคร แล้วก็จินตนาการว่าตัวเองเป็นนางเอก ที่มีพระเอกรุ่นน้องตามจีบ อารมณ์มันก็จะฟินๆ ชวนให้จิ้นตามกันไปกับเนื้อเรื่องได้ไม่ยาก
เรื่องนี้จึงออกมาตอบโจทย์คนดูได้โดยตรง ประกอบแนวละครที่เป็นแนวโรแมนติกคอเมดี้ ที่สามารถขยี้ซีนโรแมนติกชวนจิ้น ชวนฟินกันได้ไม่ยากเลย ขนาดเรื่องก่อนหน้านี้อย่าง “กระเช้าสีดา” แกนเรื่องหลักไม่ใช่แนวโรแมนติกคอเมดี้เลยด้วยซ้ำ แต่พอถึงฉากเข้าพระเข้านางของ อำพน กับ น้ำพิงค์ ยังทำเอาสาวรุ่นใหญ่จิกหมอนนอนฝันไปตามๆ กัน
ในทางกลับกัน ถ้าผูกเรื่องให้ฝ่ายนางเอกเป็นคนไล่ตามจีบพระเอกรุ่นน้อง เหลี่ยมมุมก็เรื่องจะเปลี่ยนไปทันที ความละมุนใจที่คนดูรู้สึกอาจจะไม่ได้มากมายขนาดนี้
ขณะที่ “กะรัตรัก” ยิ่งดำเนินเรื่องมาถึงจังหวะเวลาที่ กะรัต เริ่มเปิดใจให้กับเด็กฝึกงานรุ่นน้อง อย่าง ไอ่ ด้วยแล้ว บอกได้เลยว่า งานนี้บรรดาสาวใหญ่หัวใจพองโต และอยากมีโมเม้นต์ดีๆ แบบนี้กันทั้งประเทศ
เป็นการกลับมาที่สมศักดิ์ศรีนางเอกเบอร์หนึ่งประจำช่อง 3 อย่าง แอน ทองประสม ชนิดที่ว่าไม่สามารถหาคำโต้แย้งใดๆ มาหักล้างความสำเร็จนี้ได้เลย แม้จะว่างเว้นจากการแสดงไปเอาดีทางการเป็นผู้จัดนานถึง 6 ปีเต็ม แต่ก็คุ้มค่าสำหรับการรอคอย
เป็นผลงานอีกเรื่องที่จะกลายเป็นตำนานในฐานะนางเอกของ แอน หลังจากที่เคยสร้างผลงานระดับโบแดงมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง ประกบกับพระเอกมาแล้วแทบจะทั้งช่อง
ข้อได้เปรียบของ แอน คือเล่นดรามาได้ เล่นคอเมดี้ก็ดูน่ารัก เล่นเป็นคนเรียบร้อยแสนดีก็ได้ หรือจะเป็นแนวนางเอกวีนเหวี่ยง ก็ล้วนผ่านมาแล้วทั้งสิ้น และก็ทำได้ดีในทุกๆ บทบาทการแสดง เพียงแต่เมื่อช่วงเวลาผ่านไป ด้วยวัยที่สูงขึ้น ทำให้ตัวเลือกให้การรับบทนำน้อยลง “กะรัตรัก” จึงเป็นงานที่ส่งและเสริมให้ แอน ยังคงหยัดยืนบนบังลังก์ของการเป็นนางเอกเบอร์หนึ่ง หรือนักแสดงบนหิ้งได้อย่างชนิดไร้ข้อกังขาใดๆ
แต่คนที่ถือว่าจรัสแสงมากที่สุดในเรื่องนี้ ก็คือ เจมส์จิ
ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่า เจมส์จิ แสดงไม่ดี เพียงแต่อาจจะยังไม่เจอมุมที่ทำให้เขาฉายเสน่ห์ และความสามารถในตัวเองให้เปล่งประกายมากขนาดนี้
ผลงานเรื่องก่อนๆ เราเพียงได้เห็นเขาในบทบาทการแสดงที่ขรึมๆ พูดน้อย สไตล์คุณชาย หรือไม่ก็ไปอยู่ในละครเรื่องที่เน้นนักแสดงหญิงเป็นหลัก อย่าง “ทองเนื้อเก้า” หรือ “กรงกรรม” ทำให้เขาเสมือนถูกซ่อนอยู่หลังเงาของนักแสดงนำคนอื่นในเรื่อง
ตรงข้ามกับเรื่อง “กะรัตรัก” แม้ชื่อเรื่องจะชูไปที่ตัวนางเอก แต่ด้วยคาแรกเตอร์ของ ไอ่ ในเรื่องนี้ ความเป็นเด็กหนุ่มขี้อ้อน ช่างพูด และโรแมนติกสุดๆ โดยเฉพาะสายตาหวานฉ่ำ ที่ทอดมองนางเอกด้วยความรักเต็มหัวใจ ได้ฉุดให้ เจมส์จิ ก้าวขึ้นมายืนเทียบเคียงกับนักแสดงรุ่นพี่อย่าง แอน โดยไม่ถูกบดบังรัศมี
รวมไปถึงยังเป็นโอกาสที่ดีกว่าพระเอกในเจนเดียวกันคนอื่นๆ ที่ได้มาเล่นประกบกับนางเอกเบอร์ใหญ่อย่างนี้
ในเรื่องของเรตติ้ง ก็ต้องเรียกว่าดีวันดีคืน ขานรับกับความโรแมนติก ละมุนใจที่มากขึ้นในทุกๆ ตอน โดยเฉพาะ 3 ตอนของสัปดาห์ที่ผ่านมา เรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 2.9 เฉพาะใน กทม. ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของช่อง 3 เฉลี่ยอยู่ที่ 4.7 เรียกว่าเป็นตัวเลขที่สวยงามเลยทีเดียว
เป็นการกลับมาทวงตำแหน่งของช่อง 3 ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีพอดี
ผู้จัดการ 360 องศาสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 18-24 ธันวาคม 2564