หายหน้าหายตาจากวงการบันเทิงไปนานหลายปีทีเดียว สำหรับอดีตพระเอกหนุ่มชื่อดัง “พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์” ที่หันไปเอาดีทางธุรกิจซะมากกว่า แต่ล่าสุดเจ้าตัวต้องรีบรุดเข้ามาแจ้งความเป็นการด่วน เพราะถูกเพจเฟซบุ๊กหลายๆ เพจนำภาพไปใช้ในทางที่ผิด โดยการหลอกลวงผู้คนให้หลงเชื่อและเข้ามาลงทุน ซึ่งวันนี้ (16 ธ.ค.) หนุ่มพอลได้เดินทางมาที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง พร้อมกับ “ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต” เพื่อแจ้งความเอาผิดกับทุกเพจที่เอาภาพไปแอบอ้างโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดย พอล ได้เผยว่า พบเพจเฟซบุ๊กกว่า 11 เพจ ที่นำรูปภาพของตนไปตัดต่อเป็นป้ายโฆษณา ทั้งที่ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง โดยพฤติกรรมของเพจเหล่านั้นหลอกให้ประชาชนหลงเชื่อให้เข้ามาร่วมลงทุนทางการเงิน พอมีคนหลงเชื่อก็จะมีขั้นตอนให้ผู้เสียหายเข้าไปกรอกข้อมูลส่วนตัวพร้อมกับบอกถึงกำไรที่ได้จากการลงทุน ซึ่งก็เป็นผลกำไรที่เยอะพอสมควร อาทิ ลงทุน 1,000 บาท ได้ผลกำไลตอบแทนมา 100 บาท หรือเทียบเป็น 10% จากเงินลงทุนเพียงเวลาไม่นาน
จากนั้นตนและเพื่อนๆ รวมถึงแฟนคลับก็ช่วยกันหาข้อมูลและรวบรวมหลักฐานต่างๆ ซึ่งในตอนนี้คิดว่าหลักฐานเพียงพอแล้ว และคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง จึงได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ส่วนผู้เสียหายตอนนี้ยังไม่รู้ว่ามีคนโดนหลอกหรือยัง แต่คิดว่าน่าจะมีคนหลงเชื่ออยู่จำนวนไม่น้อย
ซึ่งจากที่เขานำรูปของตนไปหลอกทางด้านการเงิน คงจะอาศัยโปรไฟล์ของตนที่ได้เรียนและศึกษาทางด้านการเงินมาจนเกิดความน่าเชื่อถือ จึงใช้ความน่าเชื่อถือนี้ในการหลอกประชาชน ตนจึงอยากจะมาแจ้งความเพื่อจะได้ไม่มีผู้เสียหาย และอยากฝากเตือนประชาชนทุกคนไม่ให้หลงเชื่อ หากยังไม่แน่ใจว่าส่วนไหนเป็นธุรกิจของตนจริง ก็สามารถติดต่อไปทางเพจของตนได้โดยตรงเพื่อสอบถามข้อมูล หรือติดต่อไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเลย ทุกวันนี้โลกเราก็พัฒนาไปไกลมาก อยู่ในยุคดิจิทัล จึงอยากให้ระวังเรื่องการเสพข้อมูล จะต้องพิจารณาอย่างมาก และอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรีบเติบโตให้ทันโจรเช่นกัน
ส่วนธุรกิจของตนนั้นไม่ได้มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหรือมีลักษณะเหมือนกับทางเพจมิจฉาชีพเลย และหากในอนาคตมีตนก็จะทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงหากเจอผู้กระทำผิดตนก็จำเป็นที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อที่จะทำให้เห็นเป็นตัวอย่างของสังคม เพราะหากปล่อยไปสังคมก็จะไม่น่าอยู่ พร้อมกับฝากถึงคนที่กระทำผิดอยู่ว่า ตนเชื่อว่าเขาเป็นคนฉลาด แต่อยากให้ใช้ความฉลาดให้ถูกด้าน อยากให้มาใช้ในการพัฒนาประเทศมากกว่า มันคงจะไม่สายเกินไป
ด้าน ทนายเจมส์ ก็ได้เปิดเผยว่า ผู้เสียหายเบื้องต้นตอนนี้ยังไม่รู้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่เพราะยังไม่มีการรับรายงานมา แต่ที่ต้องพาพอลออกมาเพราะกลัวว่าจะได้รับความเสียหาย เลยต้องรีบออกมาเตือนประชาชนไม่ให้หลงเชื่อเพจพวกนี้ จึงได้เข้ามาแจ้งความ ฐานความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากเป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ
ซึ่งเบื้องต้นก็ยังไม่ได้มีการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของผู้กระทำผิด เพราะต้องให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่ก็มีเบาะแสข้อมูลหลักฐานทุกอย่างเรียบร้อย โดยหลักฐานวันนี้ที่นำมา ก็มีชื่อเพจ บัญชีธนาคาร และลิงก์เพื่อหาไอพีแอดเดรส โดยการตามตัวคนกระทำผิดในครั้งนี้ ตนก็เชื่อมือกองบัญชาการสอบสวนกลาง เพราะดูแลเรื่องอาชญากรรมทางไซเบอร์โดยเฉพาะ เชื่อว่าตามเจอแน่ แต่ตอนไหนยังไม่รู้ แต่ที่รู้คือรู้ว่าประชาชนถูกหลอกเยอะ จึงอยากให้ประชาชนคนที่โดนหลอกต้องตกเป็นผู้เสียหาย ขอให้เข้ามาแจ้งความเอาไว้