“ทาทา” เปิดใจ “น้องเร” เรียนออนไลน์ โคตรคิดถึงครู บอกตรงๆ เราก็ไม่ไหว อยากให้ลูกไปโรงเรียน สงสารเด็กยุคใหม่ต้องใส่มาสก์ ติดเจลแอลกอฮอล์ บอกแบ่งเลี้ยงกับอดีตสามี ถึงเลิกรา แต่ต้องเป็นเพื่อนกันตลอดชีวิตเพราะเรื่องนี้ รับ 2 ปีไม่ได้ร้องเพลง คอนเสิร์ตเลื่อน 5 รอบ โหยหางาน ทำแค่อาชีพแม่
เป็นสถานการณ์ที่ต้องปรับตัวอยู่ไม่น้อย สำหรับการให้ลูกเรียนออนไลน์เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 งานนี้คุณแม่ “อมิตา ทาทา ยัง” ก็เผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ทำให้คิดถึงครูมาก อยากให้ลูกไปโรงเรียน
“(ถอนหายใจ) คุณครูควรจะได้เงินเดือนมากกว่านี้ จริงๆ เลยนะ โคตรคิดถึงครูมากๆ เลย อยากให้ลูกไปโรงเรียน อยากให้ลูกได้เรียนหนังสือ เอาตรงๆ เราไม่ไหว ไหนเราจะต้องทำงานแล้วลูกต้องเรียนออนไลน์ไปด้วย มันเหมือนตีกัน ทาสงสารเร เขากำลังจะ 6 ขวบ เขาต้องได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ได้ไปว่ายน้ำ เล่นนั่นเล่นนี่ตามประสาเด็กที่อายุเท่าเขา กลับกลายเป็นว่ามีอยู่วันนึง เขาดูการ์ตูนอยู่แล้วเขาก็ถามมัมมี่ทำไมเวลาทำผิดแล้วต้องโดนไทม์เอ้าต์ กักตัว เราก็บอกลูกว่าเป็นการอบรมสั่งสอน เขาก็บอกอ้าวแล้วนี่เรทำอะไรผิด ทำไมเรโดนกักตัวนานมากเลย เราก็บ้งไปเลย ไม่รู้จะตอบลูกยังไง ตอบไม่ถูก ไปไม่เป็นเลย ก็บอกว่าลูกไม่ได้ทำอะไรผิด พอมันมีโรคระบาด คือเราก็ต้องมาอธิบายให้ลูกฟัง
วันที่ลูกไปโรงเรียนคือดีใจมาก แต่ไปได้ไม่กี่วันมันก็มีการติดกันอยู่ ซึ่งก็มองว่าเรื่องนี้เราคงต้องอยู่กับมันให้ได้แล้วแหละ มันคงไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาแก้ไขอะไรได้แล้ว เราต้องอยู่กับมันให้ได้ วัคซีนตอนนี้ก็หวังว่าทุกคนจะได้รับกันอย่างปลอดภัยกันหมดแล้ว ที่น่าสงสารที่สุดคือเด็กไง วัยเท่าเรเขายังไม่สามารถรับวัคซีนได้ ทาก็ต้องระวังตัวมากเป็นพิเศษ ในจุดนี้ทาว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดแล้วแหละ”
ลั่นต้องระวังกันมากๆ ก่อนหน้านี้รอผลอย่างทรมาน
“เรแทบจะไม่ได้ออกไปไหนเลยค่ะ อยู่แค่บ้านทาแล้วก็บ้านคุณหมอ (อดีตสามี) ตั้งแต่วันเกิดเขาเดือนมกราคม จัดงานวันเกิดก็มีคนมาร่วมงานแค่ 4 คน เราระวังกันมากๆ ไปไหนมา เข้าบ้านก็ขอห่างกับลูกก่อน อย่าเพิ่งเข้ามานะ ขอแม่ไปอาบน้ำก่อน แล้วก็เรื่องตรวจ ATK มีช่วงนึงที่แม่บ้านที่บ้านติดโควิด แล้วตอนนั้นไม่มีตรวจน้ำลาย แล้วการรอผลมันเป็นอะไรที่ทรมานมาก”
เครียดแต่ทำใจท่องพุทโธ โชคดีลูกชายไม่เครียด รักการอยู่บ้าน
“จะบอกว่าทาโชคดีมากที่ลูกทาไม่มีอะไรอย่างนี้เลย ดีใจที่เรเป็นเด็กที่รักการอยู่บ้าน จนแม่กลัวว่าลูกจะไม่ยอมออกจากบ้าน ตอนนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น เขาก็ได้ออกไปเที่ยวนั่นเที่ยวนี่บ้าง เขาก็ดูแฮปปี้ โชคดีที่เรเป็นเด็กที่ไม่ได้เรียกร้องอะไรมาก เขาเข้าใจอะไรง่าย ส่วนแม่ก็มีเครียดแหละ แต่เราก็คิดว่าเครียดไปก็ทำอะไรไม่ได้ เราก็ทำใจ พุทโธตลอดเลย คิดอะไรไม่ออกก็พุทโธไว้ก่อน มันอยู่ในจุดนั้นแล้ว ที่รู้สึกว่าเครียดไปก็เสียเปล่า เสียสุขภาพจิต เราก็ต้องปรับโหมด มา! มีอะไรทำกันในบ้านได้บ้าง หรือวันไหนไม่อยากทำอะไรกันเลย ก็ชิล นอนดูทีวี ทำตามที่มันควรจะต้องทำเท่าที่ทำได้
ถามว่าห่วงลูกไม่ได้เจอสังคมบ้างไหม ที่ทาจำได้ ตอนทาเข้าเรียนตอน 5-6 ขวบ ด้วยเด็กสมัยนี้เรียนเร็ว เราเรียนตอน 5 ขวบโตมาแล้วเราก็ไม่ได้โง่นะ เราก็ใช้ได้อยู่นะ เลยคิดว่าที่เป็นห่วงเขาคือ อย่างเราตอนเด็กยังได้ไปขี่จักรยานนอกบ้าน เอาลูกโป่งใส่น้ำเล่นกับเพื่อน มีวันสงกรานต์ คือมันยังได้มีช่วงเวลาไลฟ์สไตล์แบบนั้น แล้วที่น่าสงสารมากๆ คือเด็กๆ ต้องใส่มาสก์กันตลอดเลย รวมถึงผู้ใหญ่ด้วย ตัวเราเองก็อึดอัด คือมาสก์และเจลแอลกอฮอล์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ก่อนสมัยเราคือออกจากบ้านกระเป๋าสตางค์ต้องมี เดี๋ยวนี้ไม่มีกระเป๋าสตางค์ก็ได้ แต่ต้องมีมือถือ มีมาสก์ มีแอลกอฮอล์ ถามว่าทากังวลเรื่องนี้ไหมไม่มีเลย เรโอเคมากๆ เขามีแต่หิว อยากเจอเพื่อน อยากไปทำกิจกรรม”
แบ่งเลี้ยงลูกกับอดีตสามีได้ดี ไม่มีปัญหา ต้องเป็นเพื่อนกันตลอดชีวิตกับเรื่องนี้
“ดีค่ะ ทุกอย่างปกติดี วันสำคัญเราก็ยังรวมตัวกัน เพราะเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทากับหมอเป็นคุณพ่อคุณแม่ของเร มันเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นไปตลอดชีวิต เราต้องเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เราค่อนข้างคุยกันแบบตรงไปตรงมา ถ้าวันไหนคุณหมอต้องทำงาน เขาก็บอกกับทาตรงๆ อย่างวันนี้ทามาทำงาน ทาก็บอกคุณหมอ เขาก็เอาลูกไปรับผิดชอบให้ คือช่วยกันทั้งคู่ ก็ไม่ถึงขนาดคุยกันทุกวัน เวลากับลูกคือแล้วแต่เลย ใครอยากจะคุยกับลูกก็โทรก็เจอได้ตลอด เฟซไทม์ มาหาได้ตลอด เรื่องลูกเราจะตัดสินใจร่วมกัน อย่างที่บอกรีเลชั่นนี้ไม่จบแน่นอน ต้องเป็นเพื่อนกันไปตลอดชีวิตเพราะเรื่องนี้”
ไม่ได้ร้องเพลง 2 ปี ทำแต่อาชีพแม่
“ก็มีธุรกิจ แต่เราก็ต้องหยุดไว้แป๊บนึง เพราะทารู้สึกเห็นใจคน เวลานี้ไม่ใช่เวลาจะมาขายของ เพราะทุกคนแย่กันมาก แม่ค้าเองก็ขายไม่ได้ด้วย ไม่รู้จะพูดอะไรให้คนรู้สึกว่ามาซื้อของฉันสิ เราเองยังมีความรู้สึกว่าไม่รู้จะซื้ออะไรเลย เพราะเราเองก็คอยระวังเรื่องค่าใช้จ่ายเหมือนกัน แต่ตอนนี้เริ่มกลับมาขายแล้ว งานหลักของเราคืองานร้องเพลง แล้วเราไม่ได้ร้องเพลงมา 2 ปีแล้วนะ แล้วสไตล์ของเรา คืออยากทำนะยูทูบเบอร์ แต่เรายังไม่ได้วางแผนว่ารูปแบบมันจะออกมาเป็นยังไง บวกกับตอนนี้ด้วยอายุของเร มันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการเลี้ยงดูเขา ฉะนั้นเรื่องงานตอนนี้ตัดไปเลย ไม่ได้ทำมานานมากแล้ว จ้างได้นะคะ ยังร้องเพลงได้อยู่ ยังมีเสียงอยู่ ตอนนี้มีอาชีพเดียวเลยคืออาชีพแม่”
โหยหางาน โหยหาคอนเสิร์ต
“ทาไม่ได้ทำงานเหมือนพนักงานออฟฟิศ พวกนักร้องเอาเงินเก่าออกมาใช้กันทั้งนั้น นักร้องด้วยกันเราพูดกันทุกคนจะเข้าใจดี ตอนนี้ก็โหยหางาน อยากทำงานมาก โหยหาคอนเสิร์ตมากๆ ซึ่งไม่รู้เลยว่าจะได้กลับมาทำเมื่อไหร่ แล้วนึกภาพไม่ออกเลยด้วย จะให้ร้องเพลงแล้วใส่มาสก์มันไม่ใช่ เสียงมันจะดีได้ยังไงถ้าร้องเพลงใส่มาสก์ แล้วงานในกลุ่มนักร้อง มันเสี่ยงกับการติดกันมากๆ เวลาไปคอนเสิร์ตก็อยากจะกรี๊ด อยากจะร้องตาม จะให้มาใส่มาสก์มันก็ไม่ได้ เชื่อเถอะต่อให้เว้นระยะห่างกันขนาดไหน เดี๋ยวเต้นๆ ไปมาสก์ก็หลุดออกมา เดี๋ยวสักพักก็มาชิดกันอยู่ดี ดูแล้วในที่สุดมันก็คือการรวมตัว คอนเสิร์ตเลื่อนมาแล้ว 5 รอบ สุดท้ายเลยบอกเลื่อนไปปีหน้าเลยค่ะ เพื่อความมั่นใจ”
