“ว่านไฉ” เล่าโมเมนต์ขอ “อาย กมลเนตร” แต่งงานกลางป่า มั่นใจอายนี่แหละแม่ของลูก หลงใหลความเป็นธรรมชาติ ไม่ประดิดประดอย ฤกษ์แต่ง พ.ค. ปีหน้า ฟุ้งทุ่มซื้อที่ที่เชียงดาว หวังให้ดอยเป็นสักขีพยานรักแต่งอาย
หลังจากที่คุกเข่าขอนางเอกสาว “อาย กมลเนตร เรืองศรี” แต่งงานไปหมาดๆ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ล่าสุดได้มีโอกาสเจอตัวหนุ่ม “ว่านไฉ อคิร วงษ์เซ็ง” เจ้าตัวก็เล่าถึงโมเมนต์สุดซึ้ง อยากแต่งมาสักพักนึงแล้ว มั่นใจว่าอายคือแม่ของลูก
“เรื่องขอแต่งงานก็ดีครับ (ยิ้ม) เป็นเรื่องดีๆ ถามว่าทำไมไปขอในป่า คือผมแพลนอยากจะขอแต่งงานมาประมาณสักพักนึงแล้ว คือด้วยความที่ตอนแรกก็วางแผนอยากจะไปที่มันพิเศษมากๆ ไปต่างประเทศ ไปที่วิวสวยๆ แต่สถานการณ์มันไม่อำนวย ผมก็พกแหวนไว้อยู่ คิดว่าถ้ามันมีโมเมนต์ที่น่ารักก็คงจะเซอร์ไพรส์เลย แล้วพอดีเราได้ไปที่เชียงดาว แล้วอายเขาเป็นคนชอบป่าเขา
ผมเห็นภาพนั้นมันน่าประทับใจมาก มันไม่ต้องสวยงามแบบประดิดประดอย แต่มันสวยงามด้วยหัวใจของเรา ก็เลยในป่าก็ในป่า มันไม่เหมือนใครดี (หัวเราะ) คือไม่ว่าจะเป็นที่ไหนถ้าให้เลือกกลับไปวันนั้นอีกครั้งผมก็ยังจะขอที่นั่นเหมือนเดิม
เรื่องเตรียมตัวมันก็ยากนะ เพราะเราก็ไม่เคยคิดแต่งงานมาก่อน ไม่เคยรู้ว่าวิธีขอผู้หญิงแต่งงานสักคนมันต้องคุกเข่าหรือเปล่าวะ มันจะต้องมีช่อดอกไม้ใหญ่ขนาดไหน แบ็กกราวน์ควรจะเป็นแบบไหน คำพูดต้องยังไง ผมก็เลยปล่อยมันไปตามธรรมชาติ ดอกไม้ก็ไม่ได้มีสั่งมาจากร้านสวยๆ เราก็เก็บดอกไม้ป่าแถวนั้นให้เขา ถึงมันจะไม่มีมูลค่าทางการเงิน แต่มีมูลค่าทางใจ ผมรู้สึกว่ามันน่ารักดี และภูมิใจมากที่ได้ขอแต่งงานในโมเมนต์นั้นครับ
ถามวาเขาจับโป๊ะได้ไหม จริงๆ คุยกันมาก่อนครับว่าเราคบกันคราวนี้ก็คือเพื่อที่จะแต่งงานในวันนึง ก็คุยกันมาพักนึงแล้วครับ (อายโทรศัพท์เข้ามาพอดี) โทร.ตามแล้วครับ พอดีนัดทานข้าวกันไว้ (หัวเราะ) ต่อครับ คือมันเกิดจากที่เราคุยกันมาก่อน แต่ไม่ได้นัดแนะว่าจะต้องขอแต่งงานที่ไหน เคยบอกอายว่าถ้าเกิดมีโอกาสไปต่างประเทศเราอยากไปขอแต่งงานสถานที่สวยๆ เหมือนกัน”
ต้องคนนี้เท่านั้น มั่นใจอายนี่แหละแม่ของลูก เป็นนางเอกที่มีความเป็นธรรมชาติสูง ไม่ประดิดประดอย
“คืออายเขาเป็นคนที่รักครอบครัว เหมือนเราที่ก็ทำงานเพื่ออยากจะดูแลพ่อแม่ ไม่รู้สิ เรารู้สึกว่าเขาไม่ประดิดประดอย เขาเป็นนางเอกละครที่มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก ผมเลยรู้สึกว่าต้องเป็นคนนี้เท่านั้นครับ (ยิ้ม)”
ฤกษ์แต่ง พ.ค. ปีหน้า อินมากถึงขั้นซื้อที่ที่เชียงดาว อยากแต่งงานในที่ที่ขอแต่งงาน ให้ดอยเป็นสักขีพยานรัก
“ฤกษ์แต่งเป็นเดือนพฤษภาคมปีหน้าครับ มันยากมากเลย เพราะ ณ วันนี้เราไม่รู้ว่าสถานการณ์มันจะทำให้เราแต่งงานได้แบบมีแขกกี่คน มันมีความยากลำบาก และคนที่มาควรจะเป็นใครบ้าง ยังไม่อยากบอกว่าจะเป็นที่ไหน เพราะกลัวต้องเปลี่ยน แต่ในใจผมก็อยากจะกลับไปแต่งงานในที่ที่เราขอเขา ก็คือเชียงดาว เป็นที่ที่มีมนต์เสน่ห์บางอย่าง ล่าสุดซื้อที่ที่เชียงดาวไว้แล้วด้วย (หัวเราะ) เพราะรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรกับเราแน่ๆ เลย ถ้าได้ไปเชียงดาวเราจะเห็นดอยที่ใหญ่มากๆ มันเหมือนถ้าเราจะสร้างพันธะสัญญาด้วยการแต่งงานกับใครสักคน ผมว่านอกจากบุพการีแล้ว คนที่จะเป็นสักขีพยานได้ดีที่สุดก็คือดอย เรื่องปลูกเรือนหอที่นั่นยังไม่ได้คิดเลยครับ”
ต้องเป็นงานแต่งสุดพิเศษ
“เราคงจัดไม่ได้ใหญ่มากครับ แต่อยากให้เป็นงานที่พิเศษ ผมไม่อยากตัดเค้กปูนน่ะ เหมือนงานแต่งทั่วไป ตัดเค้กปูน แล้วก็มีเด็กที่เราไม่รู้จักมาเดิน (หัวเราะ) ผมอยากให้มันพิเศษสำหรับผมและอายจริงๆ อาจจะเป็นงานแต่งในรูปแบบที่เราคิดมันขึ้นมาเอง อะไรที่มันเกินความจำเป็นหรือเสียสตางค์โดยใช่เหตุก็จะไม่ทำ ก็อยากให้คนที่สนิท คนที่เรารักมาร่วมงานกันครับ”
