“ซาร่า” ไม่ทนคนบูลลี่ ด่าตกอับขายปลาร้า ฟ้องแล้วกว่า 30 เคส มีทั้งดารา ทนาย และชาวเน็ต ไกล่เกลี่ยได้ถ้ามีจิตสำนึก อยากปกป้องตัวเอง เป็นตัวอย่างให้ลูกดู โพสต์อัดอั้นตันใจ ไม่ได้โยงถึงใคร เพราะไม่อยากไปพาดพิง มั่นใจภูเก็ตไม่มีคลัสเตอร์ใหม่ ให้แม็กซ์เวลล์ไปเรียนที่โรงเรียนแล้ว
ถึงแม้จะย้ายไปอยู่ภูเก็ตเกือบถาวรแล้ว แต่คุณแม่คนสวย “ซาร่า คาซิงกินี” ก็ยังคงรับงานได้ไม่มีปัญหา อย่างล่าสุดในงานลอยกระทงย้อนยุค ณ ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา เจ้าตัวก็สามารถจัดสรรเวลา เพื่อมาร่วมเดินแบบเครื่องเพชรได้แบบสบายๆ แถมสาวน้อย “น้องเอมมิลี่” ก็เป็นเด็กดีไม่งอแงเลย
“ถามว่าอยู่ภูเก็ตด้วย เลี้ยงลูกด้วย แล้วแบ่งเวลายังไง ก็คือเอาลูกมาด้วยค่ะ อย่างคนโตเขาก็ต้องเรียนอยู่ที่โน่นเราก็จะฝากคุณแม่ดูแล อย่างคนเล็กด้วยความที่ซาร่ายังให้นมน้องอยู่ เราไปไหนน้องก็ต้องไปด้วย เหมือนตอนแม็กซ์เวลล์เล็กๆ เลย เราไปไหนต่อให้งานนั้นจะจ้างแม่ ลูกก็ต้องพ่วงไปด้วย เพราะว่าเขาก็ทานนมแม่อยู่ ดีใจที่ลูกไม่ตื่นคนไม่กลัวคน ก็ทำให้แม่เบาใจเวลาไปร่วมงาน”
มั่นใจภูเก็ตที่ไม่มีคลัสเตอร์ใหม่ ให้แม็กซ์เวลล์ไปเรียนที่โรงเรียนแล้ว
“น้องเป็นคนที่กลัวโควิดมาก เขาเป็นคนที่ใส่หน้ากากตลอดเวลาไม่ถอดเลย มาตรการของโรงเรียนก่อนน้องจะไปโรงเรียน ต้องตรวจโควิดทุกครั้งที่ไปโรงเรียนค่ะ ภูเก็ตน่าจะเป็นจังหวัดแรกๆ ที่เร่งในการฉีดวัคซีน เราก็มั่นใจในส่วนนี้ด้วย ถามว่าเราสบายใจขนาดนั้นไหม มันก็เรียกได้ว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ ก่อนหน้านี้มีการเรียนออนไลน์ในบ้าน บางวันมันก็สนุก พอนานเกินไปหลายเดือน ลูกก็จะเริ่มมีความเครียด ตัวเราก็มีความเครียด
เราเป็นแม่ไม่ใช่ครู จะไม่ได้รู้ทุกวิชาที่ลูกเรียน บางอย่างเราจะต้องมาเรียนรู้เริ่มต้นกันใหม่ บางอย่างลูกถามเราตอบไม่ได้เราไปไม่เป็นนะ เขาก็บ่นว่าเขาอยากจะไปโรงเรียน ก่อนหน้านี้มาตรการโรงเรียนมีเปิดแล้วแต่เราก็ยังเฝ้าระวังไม่ให้ไป แต่ตอนนี้สถานการณ์ที่ภูเก็ตค่อนข้างเซฟขึ้น เราก็ให้น้องไป คุณครูและเด็กนักเรียนทุกคนจะต้องตรวจโควิดอยู่ตลอด”
โควิดทำจิตตก พาลูกออกนอกบ้าน ต้องฉีดแอลกอฮอล์และเว้นระยะห่าง
“ค่อนข้างกลัวมาก เราไปไหนมาไหนก็จะฉีดแอลกอฮอล์ตลอดเวลา เวลาไปเจอผู้คนที่จะเข้ามาหาน้อง เราก็จะบอกว่าต้องรักษาระยะห่างด้วยความที่เอมมิลี่ยังไม่ถึง 2 ปี ไม่สามารถใส่หน้ากากได้ อยากจะฝากถึงทุกคนที่เอ็นดูน้องเวลาเจอน้องที่สาธารณะ ทักทายได้แต่เราควรจะรักษาระยะห่างช่วงนี้มันก็หลายๆ อย่าง เซฟตัวเองด้วย”
ไม่ทน! คอมเมนต์บูลลี่ ตกอับจนต้องมาขายปลาร้า
“เอาจริงๆ เราโดนตั้งแต่ 8-9 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยยังไม่มีแม็กซ์เวลล์ด้วยซ้ำ เหมือนเราก็โดนมาเรื่อยๆ แต่เราแค่ไม่ได้ออกมาพูด ณ วันนี้เราเลี้ยงลูกสองคน เราก็ทำอาชีพสุจริต จริงๆ เราเจอแบบนี้ทุกวัน เราก็เลยคิดว่าการที่เราเงียบ ทุกคนก็คงเหนื่อยไปเอง ก็คงไม่มาอะไรเราแล้ว แต่เอ๊ะทำไมเราเหนื่อยล่ะ ทำไมยังไม่หยุด เราก็ปรึกษาผู้จัดการ คุณพ่อ คุณแม่ ช้อยส์มันมีอยู่แค่สองทาง ระหว่างเราลองไปทางนิ่งที่สุด แต่ว่ามันก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนหยุด เราต้องออกมาพูดแล้วทำอะไรสักอย่าง
ซาร่าคิดว่าที่เลือกมาทางขวาตอนนี้อาจจะไม่ได้ทำให้ทุกคนยุติในการที่จะมาบูลลี่เรา ด่าทอเรา แต่ว่ามันอาจจะทำให้ทุกอย่างมันเบาบางลง อีกอย่างก่อนหน้านี้ด้วยข่าวต่างๆ นานามากมาย ซาร่าไม่มีโอกาสที่จะได้พูด ด้วยภาวะที่เราเพิ่งคลอดลูก บางอย่างเรายังไม่มั่นใจว่าอะไรพูดได้บ้าง อะไรควรพูด อันไหนมันเป็นยังไง ข้อมูลที่เราได้รับมามันถูกกลั่นกรองแค่ไหน เราก็เลยเลือกที่จะไม่พูด ปล่อยให้มันเงียบหายไป
แต่ ณ วันนี้เหมือนทุกอย่างมันคลี่คลายลงแล้ว เรารู้ว่าอะไรมันใช่มันไม่ใช่ เราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้กลัวกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น เรากล้าที่จะพูดในสิ่งที่มันเป็นความจริง เพราะว่าก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่าเฟกนิวส์ค่อนข้างเยอะและเราตัดสินใจที่จะเงียบ มันไม่ได้แปลว่าเรายอมรับว่ามันคือเรื่องจริงแต่แค่ระยะเวลาและกระบวนการต่างๆ เรื่องที่มีหลายๆ อย่างมันยังไม่เคลียร์ ตอนนี้เราพร้อมแล้ว กล้าเผชิญทุกปัญหาที่มันเกิดขึ้น”
ฟ้องไปแล้วกว่า 30 เคส มีทั้งดารา ทนายความ และชาวเน็ต ถ้าไม่ไร้จิตสำนึก ก็ไกล่เกลี่ยกันได้
“ฟ้องค่ะ มีประมาณ 30 เคสเลย ฟ้องจะมีดาราในวงการ มีทนายความ และชาวเน็ตบางส่วนที่เราฟ้องไป เป็นเคสบายเคส อยู่ที่ว่าจิตสำนึกเขาทำไปเพราะอะไร ถ้าเขามีจิตสำนึกที่รู้สึกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ จริงๆ แล้วเราเป็นคนใจดีนะ ถ้าเขามีจิตสำนึกจริงๆ แสดงความจริงใจกับเราจริงๆ ก็ไกล่เกลี่ยพูดคุยได้
แต่ถ้าใครที่คิดว่าฉันมีสิทธิ์ที่จะด่าเธอ ฉันจะด่าเธอ คุยกันไม่ได้ เราก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายจัดการ จริงๆ เราก็เดินเรื่องมาสักระยะแต่ด้วยความที่สถานการณ์โควิดมันลำบากการเดินทางมันยาก เราก็เลยอะลุ่มอล่วย เข้าใจว่าหลายคนยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เราก็เข้าใจทุกคนไม่ได้เร่งรีบอะไร ตอนนี้ประเทศเปิดแล้วทุกคนได้รับวัคซีนค่อนข้างทั่วถึงแล้ว เราก็ไปตามขั้นตอนแล้ว”
ใจดีมานานแล้ว ถ้ายังไม่หยุด ก็ฟ้องต่อ อยากปกป้องตัวเอง เป็นตัวอย่างให้ลูก
“ค่ะ เราไม่ได้อยากใจร้ายกับใคร แต่เรามามองว่าเราเป็นลูกผู้หญิง มีลูกสองคน ณ วันนี้ถ้าเรายังปล่อยให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ เด็กสองคนจะต้องโตมาเจอกับอะไร ถ้าวันนี้เราไม่ปกป้องตัวเอง ไม่เป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น บางทีเหมือนเราเดินอยู่ดีๆ มีคนมาตีหัวเรา เราจะแบบไม่เป็นไรแล้วเดินผ่านไป
เราอยู่ในยุคที่อะไรที่มันไม่ใช่ ไม่จริง เราไม่ควรจะเป็นคนที่ปล่อยให้คนมาทำร้ายเราจนเหมือนคนมาเอาเปรียบเรา ความเป็นซาร่าเองเป็นคนที่ไม่อยากจะมีเรื่องกับใคร ไม่อยากมีปัญหากับใคร อะไรปล่อยผ่านไปได้ก็ได้ แต่ว่าบางอย่างมันสอนให้เราเรียนรู้ว่า เราใจดีกับคนผิดคน เราก็ต้องสู้เพื่อตัวเองและลูก”
เรื่องที่โพสต์ความอัดอั้นตันใจ ไม่ได้โยงถึงใครเลย เพราะไม่อยากพาดพิงถึงกันและกันแล้ว
“ไม่โยง เอาอย่างนี้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด เราไม่อยากจะพาดพิงถึงกันและกันแล้ว วันนี้ก็มาร่วมงานดีๆ ซาร่าไม่อยากจะไปพาดพิงถึงบุคคลใด ขอตอบในส่วนของเราและลูกและงานแล้วกันค่ะ”