xs
xsm
sm
md
lg

“ใหม่” เผยไม่เคยใช้เงินผัวสักบาท แม้เปย์หนักให้เงินใช้เดือนละ 2 แสน แถมทุ่มเงินก้อนใหญ่ทำประกัน สเต็มเซลล์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ใหม่ สุคนธวา” เผยได้ผัวสายเปย์ ให้เงินเดือนใช้เดือนละ 2 แสน สมศักดิ์ศรี สมหน้าตาทางสังคม แถมทุ่มเงินก้อนใหญ่ทำประกัน สเต็มเซลล์ ดูแลดียันตนและคนในครอบครัว แต่ไม่ใช้เงินผัวสักบาท อยากให้อีกฝ่ายซัปพอร์ตครอบครัวตัวเองมากกว่า “ต้น” ลั่นใหม่ไม่เคยเรียกร้อง ไม่ได้อยากอวดใครว่าเปย์เมีย แค่อยากเก็บเป็นความทรงจำ

เป็นที่รู้กันดีว่าคู่สามีภรรยาอย่าง “ใหม่ สุคนธวา เกิดนิมิตร” กับ “ต้น สรพงษ์ จิตต์สุนทร” รักกันหวานชื่นและน่าอิจฉาขนาดไหน เพราะจะเห็นกันบ่อยๆ ว่าต้นมักจะชอบเปย์ของแบรนด์เนมราคาแพงให้กับภรรยาอยู่บ่อยครั้ง จนบางทีก็เกิดเป็นดรามากลายเป็นว่าขี้อวดไปซะอย่างนั้น ล่าสุดทั้งสองคนได้เปิดใจประเด็นนี้ โดยเผยว่าที่ให้ก็เพราะอยากจะตอบแทนที่ภรรยาดูแลทั้งตนและลูกเป็นอย่างดีก็เท่านั้น

ใหม่ : “ก็ไม่รู้ว่าทำผิดอะไรมาหรือเปล่า”

ต้น : “ไม่หรอกครับ เราแค่รู้สึกว่าบ้านเราไม่ค่อยมีเทศกาล อยากให้ก็ให้กันไป ซึ่งเทศกาลที่ควรจะให้กลับไม่มีอะไรกันเลย (หัวเราะ)”

ใหม่ : “วันก่อนครบรอบแต่งงาน ก็ไม่ได้มีอะไรให้กันและกัน ไอ้วันที่ไม่ได้มีอะไรก็ให้กันจังเลย อย่าเรียกอย่างนั้นเลย เขาให้หนูอย่างเดียวมากกว่า หนูไม่ค่อยได้ให้อะไรเขา”

ต้น : “แต่เวลาจะเลือกของให้เขาแต่ละทีก็ยากนะ เพราะเราดันไปซื้อหมดแล้วไงอะไรที่ผู้หญิงควรจะมีกัน มันก็เริ่มตัน จริงๆ แล้วผมคิดว่าเขาไม่อยากได้อะไรจากผมหรอก แต่ที่ผมให้เขาแค่อยากให้เขารู้สึกว่าเขาทำงาน ไม่มีเวลาช้อปปิ้ง ต้องเลี้ยงลูก เหมือนเป็นป้าอยู่ที่บ้าน ไม่ได้แต่งตัวสวยๆ แต่พอเขาออกไปทำงานเออสวย มีอยู่วันนึงผมเข้ามาในบ้าน แยกไม่ออกเลยคนไหนแม่บ้าน คนไหนเมียผม (หัวเราะ) สภาพคล้ายกันมากๆ ถ้าไม่หันหน้ามาไม่รู้เลย ก็เลยอยากให้เขาแทนคำขอบคุณที่เขาเสียสละตัวเองดูแลลูกและดูแลผมครับ”

ใหม่ : “ใหม่ก็ไม่เคยรีเควสอะไรนะ ตั้งแต่คบเขามาไม่เคยขอ ไม่เคยยืม ไม่เคยเบิก ไม่เคยอ้อน ไม่เคยเอ่ยปากอะไรสักอย่าง เพราะเรารู้สึกว่าถ้าเราเป็นแบบนั้น เรากำลังคบหาเขาด้วยการเอาเปรียบเขา เราถูกปลูกฝังมาว่าอย่าเอาเปรียบผู้ชาย เราต้องมีทางในการหาเงินของเรา เราต้องมีศักดิ์ศรีของเรา และเราก็สงสารเขาจริงๆ ค่ะ เพราะเขาทำงานหนัก ทำงานเหนื่อย เอาเงินที่เขาทำงานหนักไปเปย์พ่อแม่เขาดีกว่า ใหม่คิดอย่างนี้จริงๆ ใหม่ไม่อยากวุ่นวายหรือร้องขออะไร ถ้าหากว่าเขาจะให้อะไรมาเราก็ขอบคุณแหละค่ะ แต่เราไม่ได้อยากได้ เราคิดว่าพ่อแม่เขาได้อะไรหรือยัง อย่ามาให้เรา เราจะรู้สึกค่อนข้างแย่”

ต้น : “กระเป๋าที่ซื้อให้เขามีใบนึงเขาใช้ครั้งเดียว เห็นอยู่ในห้องเก็บของ วางรวมอยู่กับกองกระดาษอะไรก็ไม่รู้ พอเปิดดู อ้าว นี่กระเป๋าที่เราซื้อให้นี่นา”

ใหม่ : “จริงๆ แล้วไม่ได้หวังอะไรจากเขาเลยค่ะ ขอให้เขาทำงานแล้วเลี้ยงตัวเอง ไม่เหนื่อยมาก และเขาสุขภาพดีเท่านั้นคือสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด”

เผยที่ให้ของแล้วต้องลงโซเชียล เพราะอยากให้เป็นความทรงจำ
ต้น : “แต่เรื่องที่ผมโดนดรามาว่าเปย์ของให้เมียเนี่ย ผมว่าเขาก็ให้เกียรติเราแหละ เขาสนใจเรา แต่ผมแค่รู้สึกว่าเราทำงานเหนื่อยแล้ว และสิ่งที่เรามีความสุขมากที่สุดก็คือการดูแลคนในครอบครัว และการเปย์เมียมันอาจจะเหมือนลุงโอนไวหลายๆ คน แต่ผมแค่ไม่มีท่าเต้นเหมือนคนอื่นเขาเท่านั้นเอง (หัวเราะ) ก็ให้เมียนี่แหละถูกต้องแล้ว แต่เวลาผมจะซื้ออะไรให้เขาเนี่ย ปกติผมจะเป็นคนชอบดูพวกแฟชั่น ก็ดูไปเรื่อยๆ ว่าตอนนี้กระแสที่ต่างประเทศเขาใช้อะไรกัน มีอะไรที่เป็นรุ่นใหม่ คอลเลคชั่นใหม่ก็จะจัดให้เขา คิดว่ามันควรจะต้องมี

แต่ซื้อมาแล้วเขาไม่ชอบก็มีนะ ที่บอกว่ากระเป๋านี่แหละ ใช้ครั้งเดียวจริงๆ จนบางทีเราก็มานั่งคิดว่าต่อไปนี้ก็ให้เป็นเงินแล้วกัน แต่เวลาที่เราให้แล้วเอาลงในโซเชียลมีเดีย เราไม่ได้ต้องการจะอวดใครนะ แต่เราอยากเก็บภาพประทับใจนั้นไว้ เพราะบางทีปีหน้าเราจำไม่ได้นะว่าเราทำอะไรไปบ้าง แล้วพวกนี้แหละมันจะกลับมาเตือนเราว่าเราเคยให้สิ่งนี้ภรรยาเรานะ และเราไม่รู้เลยว่าออกจากบ้านไปจะได้กลับมาอีกหรือเล่า เราก็ไม่รู้ ก็ทำทุกวันให้มันมีความสุขที่สุดครับ”

ใหม่ : “ที่เขาเปย์ก้อนใหญ่สุดเหรอ ก็อาจจะเป็นการทำประกันให้ แล้วก็สเต็มเซลล์ มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเปย์ใช่ไหมคะ แต่เขามองลึกกว่านั้น เพราะใหม่เป็นคนที่ไม่ได้รักษาสุขภาพ ไม่เคยทำประกัน ไม่เคยตรวจเช็กร่างกายของตัวเอง เขาก็เลยมองว่าการทำประกัน การทำสเตมเซลล์อะไรต่างๆ มันก็ส่งผลดีกับตัวเราและครอบครัวพ่อแม่พี่น้องของเราและเขาด้วย เราก็เลยรู้สึกว่าเขามองไปถึงครอบครัว ไม่ได้มองแค่เราคนเดียว ก็เป็นเงินจำนวนนึงที่ก้อนใหญ่ ก็รู้สึกสงสาร แต่ก็คิดว่าเขาคงดูดีแล้วล่ะ เพราะเราเป็นผู้หญิงที่ไม่เคยเรียกร้องอะไร ถ้าเกิดเรียกร้องเขาก็คงไม่ให้อะไรเรามั้ง”

ต้น : “มันเป็นเรื่องดีนะ ผมว่าการใส่ใจ เราเอาเงินไปซื้อกระเป๋าใบละหลายๆ แสน ถ้าเอาเงินเหล่านั้นมาดูแลตัวเขา หรือเรื่องการรักษาพยาบาลในยุคนี้ที่คนมันป่วยเยอะ ป่วยในภาวะวิกฤตเลย เราคิดว่าเรื่องนี้มันสำคัญจริงๆ”

“ใหม่” บอกเก็บเงินเดือนที่ได้เดือนละ 2 แสนบาท แบ่งไว้ให้ลูกกับสามี ตนไม่ได้ใช้เลย
ต้น : “ก็มีเรื่องประกันของลูกครับ”

ใหม่ : “คือเขาไม่ได้เปย์ลูก เขาจะชอบซื้อพวกเสื้อผ้าแบรนด์เนมให้ลูกมากกว่า ก็เป็นสิ่งที่เขาน่ารักกับลูก แต่เราก็พยายามห้ามว่าอย่าซื้อเลย เพราะเด็กโตไว แต่ใหม่จะเอาเงินที่เขาเปย์ใหม่เป็นรายเดือน ที่เขาจะให้ใหม่เป็นรายเดือนอยู่แล้ว เดือนละสองแสนบาท ก็เยอะอยู่ ไม่ได้น้อยหน้า ให้สมเกียรติ สมศักดิ์ศรี สมฐานะ สมการศึกษา สมหน้าตาทางสังคม เรารับมาแต่ใหม่ไม่ได้ใช้เลย ก็เอาเงินที่เขาเปย์เราในแต่ละเดือนเนี่ยไปเก็บเป็นเงินให้ลูก”

ต้น : “แล้วเขาแบ่งบางส่วนเป็นเงินเก็บผมด้วย”

ใหม่ : “สมมติเขาให้สองแสนใช่ไหมคะ ใหม่เก็บให้ลูกแสนห้า อีกห้าหมื่นเก็บไว้ให้เขา อย่างเวลาสมมติชักหน้าไม่ถึงหลัง บางเดือนช็อตขึ้นมา เราไม่รู้อนาคต อย่างน้อยที่เราบริหารตรงนี้มันก็ช่วยชีวิตเขาได้ เราก็เลยไม่เอาของเขาเลยสักบาท เราใช้เงินตัวเองล้วนๆ ค่ะ”

ต้น : “อย่างเรื่องค่าบ้านนี่ไม่ได้เลย บอกพี่ไม่ต้อง เดี๋ยวหนูทำเอง”
ใหม่ : “มันเป็นสิ่งที่เขาเสียใจอยู่ตลอดเวลาและเขาก็พูดประจำว่าใหม่จะชอบพูดว่า เฮ้ยพี่นี่บ้านหนูนะ บ้านหนูอย่ายุ่ง บ้านหนูอย่าซื้อ บ้านหนูนั่นนี่ ซึ่งจริงๆ แล้วคำนี้เราเคยทะเลาะกัน เขาไม่เข้าใจเหตุผลหนูหรอก แต่สิ่งที่เราพูดแบบนี้คือเราไม่ต้องการให้เขามาช่วยออกค่าใช้จ่ายอะไรเลย หนึ่งมันเป็นความภูมิใจของเราด้วยที่ซื้อให้พ่อ เราสามารถพูดได้เต็มปากว่าบ้านหลังนี้เป็นเงินของเราล้วนๆ ที่เราซื้อให้พ่อเองล้วนๆ ไม่ได้เป็นเงินสามีซื้อให้พ่อนะ มันก็จะรู้สึกแปลกๆ นะถ้าเอาเงินสามีมาซื้อบ้านให้พ่อเรา แต่ถ้าเป็นเงินเราแล้วเราซื้อให้พ่อเป็นของขวัญ เราก็จะรู้สึกว่านี่แหละเป็นหยาดเหงื่อของเราจริงๆ

เราก็ไม่อยากเอาเงินที่เขาทำงานหนักเหนื่อยมายุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ เพราะเรารู้สึกว่าเขาควรจะเอาเงินนั้นไปซัปพอร์ตครอบครัวเขาและตัวของเขาบ้างในสิ่งที่เขาอยากจะได้ เราหวังผลดีทางอ้อมๆ แต่เราไม่รู้จะพูดยังไง ก็เลยพูดไปแบบนั้นว่านี่บ้านหนู เขาก็เลยจะรู้สึกว่าแล้วเขาอยู่ไหน เขาเป็นผู้อาศัยเหรอ (หัวเราะ) แต่ใหม่เชื่อว่าเขารู้อยู่แล้วกับสิ่งที่ใหม่พูดออกไปมันคือหวังดีกับเขาทางอ้อม และมันเป็นสิ่งที่เราต้องการลดค่าใช้จ่ายทางอ้อมของเขาด้วย

เรารู้สึกว่าเอาเงินนั้นไปสร้างบ้านให้พ่อแม่เถอะ ไปซื้ออะไรให้พ่อแม่เถอะ เพราะเรารู้สึกว่าถ้าคุณเปย์เรามาก หรือช่วยทางบ้านเรามากกว่าครอบครัวเขา เราจะกลายเป็นผู้หญิงไม่ดี นี่คือสิ่งมี่เราคิดว่าคุณต้องทำให้ครอบครัวคุณเป็นหลัก ส่วนครอบครัวของเรา เราหาให้พวกเขาเองได้”

ต้น : “สำหรับผมแม่กับใหม่จะได้เท่าๆ กัน เราก็ให้เต็มที่ เพราะผมไม่เที่ยว ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ทำงานหาเงินมาผมก็ให้แม่กับเมียแค่นี้ก็จบแล้ว แม่จริงๆ บางเดือนได้เยอะกว่า เพราะแม่เขาจะไปจัดการเรื่องอสังหาฯ อยู่ด้วย ก็ให้แม่ไปจัดการเรื่องนั้น”







กำลังโหลดความคิดเห็น