“วิลลี่” เซฟ “น้องวิน” 10 ปี ไม่เคยลงรูปลูกในโซเชียล บอกลูกตนเองไม่มีอะไรพิเศษให้โชว์ด้วย ยันไม่ปั้นลูกเพื่อโฆษณา รับงานในวงการบันเทิง เจ้าไหนติดต่อเสนอมาปฎิเสธหมด รอจนกว่าลูกจะตัดสินใจด้วยตัวเองว่าอยากจะมาเดินในเส้นทางวงการบันเทิงเหมือนตนค่อยเปิดตัว
ไม่เคยอวดรูปลูก เหมือนพ่อแม่ในวงการคนอื่นๆ เลยสำหรับ “วิลลี่ แมคอินทอช” ที่ยึดถือเรื่องที่ว่ายังไม่เปิดตัวลูกในพื้นที่สาธารณะ เพราะหวงพื้นที่ส่วนตัว รอให้ลูกตัดสินใจเองได้ อนุญาตให้ลงภาพด้วยกันเสียก่อน จนตอนนี้น้องวิน 10 ปีแล้ว วิลลี่ก็ยังคงยึดถือเรื่องนี้อยู่ ซึ่งวิลลี่เล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ฟังว่า….
“ตอนนี้ 10 ขวบแล้วครับ หล่อเลย แต่ผมยังไม่เปิดตัว ไม่จะไม่ค่อยให้รูปเขาออกมา ผมจะเก็บไว้แบบหมู (พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ) แบบ นาย (ณภัทร เสียงสมบุญ) ที่ออกมาทีเดียวคือโอ้โห นี่คือแผนความตั้งใจของผม(หัวเราะ) บางทีอาจจะลูก45 แล้วก็อาจจะยังไม่เปิดตัวเลยก็ได้
ผมไม่แน่ใจว่าลูกผมจะชอบแบบนี้รึเปล่าไง สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวันนี้คือเราเห่อกับโซเชียลมีเดีย ภาพ วิดีโอทุกอย่างมันอยู่ในคลาวด์ มันไม่สามารถไปลบได้แล้วนะ วันนึงถ้าเกิดลูกผมเกิดมาบอกว่าคุณพ่อครับ ผมมีความปรารถนาที่จะเป็นจิตรกร อยากใช้ชีวิตอยู่ในป่าดงดิบ วาดภาพเฉยๆ ปีนึงเอารูปออกมาขายสักครั้ง ผมไม่อยากให้ใครรู้จักผม พ่อผิดเลยนะ ที่ผ่านมาพ่อโพสต์อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมดเลย ก็ต้องขอโทษลูก เพราะลูกเดินไปไหนก็เป็นที่รู้จักไปทุกหมู่บ้าน ไม่สามารถหายตัวได้ พ่อขอโทษ”
ไม่ปั้นลูกเพื่อโฆษณา รับงานในวงการบันเทิง เจ้าไหนติดต่อเสนอมาปฏิเสธหมด
“ฉะนั้นพ่อก็เลยยั้งๆ หน่อย พ่อเลยไม่ทำ เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าไม่ได้ลูก ยังไงลูกก็ต้องเป็นดารา ลูกต้องเต้นกินรำกิน ไม่ได้ไง เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนแล้ว ภาพพวกนี้คุณไม่สามารถดึงมันกลับมาได้เลย คุณไม่สามารถลบมันออกจากระบบคอมพิวเตอร์ของโลกใบนี้ได้แล้ว แล้วคุณจะเอาอะไรใส่เข้าไปบ้างล่ะ ทุกอย่างมีดาบ 2 คมหมด ตัวผมก็กังวลใจเรื่องนี้ ก็เลยคุยกันว่าอย่าไปลงเลย ที่ถ่ายรูปกับลูกแล้วเอาไปลง แหม…เช้าวันอาทิตย์ได้นอนกอดลูกดูการ์ตูนด้วยกัน อันนั้นแล้วแต่คุณ ตามสบาย แต่ไม่ถึงขั้นปั้น เราจะไม่ปั้นเพื่อโฆษณา
สมมติผมเรียกโฆษณา ผมอาจจะเรียก 1.5 ล้าน แต่ถ้าเขาอยากได้เมียกับลูกก็ต้อง 45 ล้าน (หัวเราะ) เรียกให้ถอยไปเลย ไม่ต้องมายุ่งกับกู แต่ถ้าเขาบอกเอา นี่คือเดือดร้อนแล้ว ไม่รู้จะไปบอกเมียกับลูกยังไง ก็มีคนมาเสนอเรื่องพวกนี้เยอะ แต่ผมจะบอกเขาเลยว่าไม่รับ ในบางครั้งความน่ารัก ความโดดเด่นของลูกเรา เราอยากโชว์นะ แต่มันก็ต้องระวัง เพราะเราไม่รู้ว่าสุดท้ายตอนที่เขาตัดสินใจด้วยตัวเองได้แล้ว เขาอายุ 18 ปี ตัดสินใจเองทุกอย่างได้แล้วเขาจะชอบสิ่งที่เราทำรึเปล่า ตรงนี้มันเป็นข้อแตกแยกของหลายๆ ครอบครัวเลยนะ ถ้าสมมติลูกออกแนวสายอาร์ต วันนึงมาบอกว่าผมรับพ่อกับแม่ไม่ได้จริงๆ พ่อกับแม่ใช้ผมตั้งแต่เด็ก เพื่อมาหาเงิน เด็กสมัยนี้เขามีสิทธิ์คิดอย่างนี้ได้นะ”
ทุกวันนี้ถ้า “น้องวิน” ไหนมาไหนมีแต่คนรอบตัวเท่านั้นที่รู้ว่าเป็นลูกของตน
“เรื่องส่วนตัวผมเองผมก็ไม่ค่อยได้ตีแผ่อยู่แล้ว คนส่วนใหญ่ที่รู้จะเป็นคนใกล้ชิด คนทั่วไปไม่มีทางรู้หรอก แต่หน้าวินก็คือเยลหลีเลยนะ ผมมีข้อให้สังเกตกันเล่นๆ ลูกที่เกิดตามธรรมชาติหน้าจะเหมือนไม่พ่อก็แม่ไปเลย พวกที่ผสมเทียมแบบผมเด็กจะออกมาก้ำกึ่งครึ่งๆ กลางๆ มีความแปลกๆ อยู่ ลองไปสังเกตดู เหมือนลูกแหม่ม (คัทลียา กระจ่างเนตร) คนแรกออกมาครบกำหนดธรรมชาติ หน้าออกมาเหมือนแหม่มเลย เหมือนคนไทยดูไม่ออกว่าเป็นลูกครึ่ง ต่อมาคิน นี่คือสายลับรัสเซีย สายพันธุ์รัสเซียกับจีน ตี๋มาแต่ตาฟ้า เป็นไปได้ไง มันก็จะมีความก้ำกึ่ง ส่วนเนสซี่ ไม่ได้ตั้งใจ ออกมาธรรมชาติ เหมือนพ่อเลย เทมา วินก็จะก้ำกึ่งแบบคิน คินกับวินเดินไปด้วยกัน คนคิดว่าเป็นพี่น้องกันแน่นอนเพราะมันออกมาแนวแปลกๆ”
ตอนนี้ขอเซฟลูกไว้ก่อน ยังไม่มีอะไรพิเศษให้โชว์ด้วย
“ถ้ามันชอบเต้น เล่นละครอะไรต่ออะไร ชอบวงการบันเทิงเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น คือเด็กมันดูแววได้ เริ่มเข้า 10 กว่าจะเริ่มมีการแสดงออก ชอบนั่นชอบนี่ เราก็กะถูกแล้วไง ตอนนั้นเราค่อยเปิดก็ได้ ตอนนี้เราไม่รู้ไงว่าเขาชอบอะไร ด้านไหน ชีวิตลำบาก แล้วพ่อล่ะ ถ้ามันมาเอางานไปหมด แล้วพ่อจะอยู่ยังไง(หัวเราะ) ตอนนี้ที่เห็นคือเขาชอบร้องเพลง แต่ก็ไม่แน่ใจนะ พูดตรงๆในฐานะพ่อก็รักลูก ถามว่าเสียงได้ไหม ก็ไม่ได้เพราะ ไปประกวดไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ยังไม่ได้ ลูกชอบร้องพ่อก็ทนฟังไป มันจะได้สุดไหมก็ไม่รู้ คงจะต้องผ่านครูอ้วนเสียหน่อย มันอาจจะร้องดีขึ้น แต่ตอนนี้มันร้องแล้วไม่แพ้พ่อมันเลย พ่อมันร้องแล้ววัวตาย ก็ควรจะเลิกเนอะ ผมคุยกับเยลหลี ตอนนี้เราก็เซฟๆ ไว้ก่อน ลูกคนอื่นเขามีอะไรโชว์เยอะไง ลูกเราไม่มีอะไรให้โชว์ ก็เลยไม่รู้จะโชว์อะไรจริงๆ”
