จากเหตุสลดกรณี “นายธวัชชัย ทองอ่อน” หรือ “ส.จ.ดำ” อดีตส.อบจ.นครศรีธรรมราช เจ้าของร้านเสบียงทิพย์ ย่าน ม.รามคำแหง ก่อเหตุยิงภรรยาและลูกสาว 2 คน ก่อนจะยิงตัวตายตาม ในบ้านย่านหัวหมาก ซึ่งในวันนั้นผู้ตายได้นัดหมายจะคืนเงินซื้อสลากลอตเตอรี่ที่ติดค้างอยู่ จำนวน 10 ล้าน ให้กับ “สมรักษ์ คำสิงห์” แต่ถึงเวลากลับผิดนัด และก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้น วันนี้ (11 พ.ย.64) สมรักษ์ ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ในรายการโหนกระแส โดยเชื่อว่าเหตุที่ ส.จ.ดำ ฆ่าตัวตายนั้นน่าจะมีส่วนของการติดหนี้โควตาลอตเตอรี่
“ผมกับ ส.จ.ดำ เป็นเพื่อนกันมา10 กว่าปี แกก็เป็นคนดีคนนึง เมื่อวาน 10 โมงเช้า เขาโทร.มาหาผมบอกว่าให้ช่วยคุยกับชาวบ้านให้หน่อย เขาเป็นคนหาลอตเตอรี่มาให้ผม เขาจะให้จองก่อน 20 เปอร์เซ็นต์ ทำมา 4 ครั้งแล้ว ครั้งที่ 3 เริ่มมาไม่ครบ หายไป 600 เล่ม เป็นเงินประมาณ 3 ล้าน ก็มาเคลียร์กัน เขาก็เริ่มติดเงินผมอยู่ ตอนนี้ที่ติดหนี้อยู่ประมาณ 10 ล้าน ผมมีหลักฐานการโอนหมด
เมื่อวานตอน 10 โมงเขาโทร.มาบอกว่าเคลียร์จบแล้ว จะจ่ายให้ชาวบ้าน 2.5 ล้าน ไปเคลียร์ให้ก่อนแล้วที่เหลือจะจ่ายให้ทีหลัง บ่าย 2 ก็นัดเจอกันที่ร้านเขา ประมาณบ่ายโมง ระหว่างไปที่ร้านโทร.หาเขา แต่เขาไม่รับสาย เลยให้คนที่ร้านเขาโทร.ให้ เขาบอกอีกแป๊บนึงจะมาถึง สัก 10 นาที มีสายตรวจเข้ามา คุยกับพนักงาน พาพนักงานออกไปคุยข้างนอก ผมเลยเดินไปหาตำรวจไปถามตำรวจว่ามีเรื่องอะไรกัน เขาเลยบอกว่าที่บ้านเจ้าของร้านมีเสียงปืนดัง 7-8 นัด ผมเลยขับรถไปดูที่บ้านเขาเลย พอไปถึงมันก็จริง ถามตำรวจในที่เกิดเหตุเขาก็บอกว่า 4 ศพ เขาก็ถามรู้จักผู้ตายไหม เลยบอกว่านัดกันว่าจะมาเจอกัน
ผมเป็นตัวกลางที่ต้องไปเคลียร์กับชาวบ้าน ผมเชื่อว่า ส.จ.ดำ เป็นคนดี เรารู้จักนิสัยกันเพราะคบกันมา 10 กว่าปีแล้ว เขามีแต่ช่วยชาวบ้าน ไม่มีเรื่องโกงใคร เขาเป็นคนดีคนนึงในสายตาผม ผมไม่เชื่อว่าเขาจะโกงผม ที่เขาก่อเหตุน่าจะมาจากความเครียดเรื่องเงินนี่แหละ เราไม่ทราบรายละเอียด เพราะก็มีคนมาปรึกษาเรื่องเงินเหมือนกันว่าจะได้เงินคืนไหน
เท่าที่ผมไปบ้านเขามา บ้านเขาก็ถามเรื่องลอตเตอรี่ ผมถาม ส.จ. ดำนะ เป็นเพื่อนกันนะ มีอะไรก็บอกกัน เขาบอกว่าเขาวางเงินกับผู้ใหญ่ แต่เขาไม่บอกว่าใคร ทำยังไงก็ไม่บอก เราก็พยายามพูดให้เขาบอกจะได้หาทางแก้กัน แต่เขาไม่ยอมบอกเลย ไม่รู้เลยว่าเขาหัวใหญ่คือใคร ก็มีโอาสที่เขาจะโดนผู้ใหญ่บิด แล้วเขาก็ต้องหาเงินมาคืนให้ชาวบ้าน มันก็เป็นได้
ผมเลิกแล้ว ไม่ทำแล้วธุรกิจนี้ ครั้งนี้ก็เป็นหนี้อยู่ 10 ล้าน ก็ขอตั้งสติก่อน ผมจะไปบวชพราหมณ์สัก 3-7 วัน อุทิศส่วนบุญให้เขา ส่วนหนี้ก็ไม่ขอพึ่งใคร เรามีแรงรับผิดชอบ ก็จะหาทางจัดการหนี้สินทั้งหมดเอง แต่หลังจากนี้ขอตั้งสติก่อน ขอไปบวชพราหมณ์นุ่งขาวห่มขาวให้สบายใจก่อน เพราะเราไม่รู้ว่าเหตุที่เกิดมันเป็นที่เราหรือเปล่า เพราะเราก็โทร.ถามเขาหลังจากที่ชาวบ้านโทร. มาหาเรา เราก็ไม่สบายใจกับตรงนี้”