xs
xsm
sm
md
lg

"ฟิล์ม" ลิ้นหัวใจรั่วระยะร้ายแรง รักษาเป็นล้าน ลืมทำประกันชีวิต! รีบถ่ายโอนหุ้นให้เพื่อนทั้งหมด นำเงินเก็บซื้อที่ให้ครอบครัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ฟิล์ม รัฐภูมิ” เผยลิ้นหัวใจรั่ว 4 เซนฯ สามารถเดินแล้วล้มตายได้เลย รับไม่คิดว่าเป็นโรคร้ายแรง ลืมทำประกันชีวิต ค่าผ่าตัดที่ไทยหลักล้าน แต่หากต้องบินไปผ่าตัดที่เมืองนอก ต้องใช้เงินถึง 10 ล้าน รู้ครั้งแรกเครียดมาก น้ำหนักลด 10 กิโล ตอนนี้ปลงและเตรียมการ นำเงินเก็บซื้อที่ให้พ่อแม่ ถ่ายโอนหุ้นให้เพื่อนทั้งหมด

หลังจากที่ออกมาเผยว่าป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วระยะร้ายแรง สามารถตายได้ทุกนาที ไม่วายถูกปล่อยเฟกนิวส์ว่า “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” เสียชีวิตแล้ว ล่าสุดฟิล์มได้ออกมาเผยผ่านรายการแฉ ยอมรับว่าเป็นโรคที่สามารถเดินแล้วล้มตายได้เลย ตอนนี้ปลงและเตรียมการบางอย่างไว้แล้ว หากตนไม่รอด ครอบครัวต้องสบาย

“ตรวจร่างกายเดือนก.พ. คุณหมอบอกว่าครั้งนี้ไม่ปกติแล้วนะ เพราะลิ้นหัวใจรั่ว ไม่ใช่เพิ่งเริ่มต้น รั่วระยะสุดท้าย ขั้นที่ว่าเราสามารถเดินไปแล้วล้มตายได้เลย ถ้าขาดอีกก็ไปได้เลย ก็ตกใจว่าเป็นได้ไง หมอบอกว่าอาจเป็นกรรมพันธุ์ไหม พอเช็กวงศ์ตระกูลแล้วไม่มีใครเป็น คุณหมอเลยบอกว่าน่าจะเกิดจากความบกพร่องของร่างกาย ผมก็เครียด ผมจะตายไหม เพราะผมไม่รู้จักโรคนี้ เขาบอกมันไม่ได้น่ากลัว เทคโนโลยีสมัยนี้ มันสามารถผ่าตัดซ่อมแซมได้แล้ว ซึ่งมี 3 วิธี ผ่าใหญ่แหวกอก ผ่าเล็กใต้ราวนม แล้วก็ใช้ส่องกล้องไปผ่าตัด ถ้าส่องกล้องต้องต่างประเทศเท่านั้น เมืองไทยยังไม่มีที่เชี่ยวชาญขนาดนั้น

ผมเลยเลือกผ่าแผลเล็ก และไม่การันตีว่าจะร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม จริงๆ มันเพิ่งเป็น เพราะเราเช็กร่างกายทุกปี เช็กร่างกายตลอด เพิ่งเป็นแล้วรั่วเยอะมาก ดูในฟิล์มเอกซเรย์ เอคโค่เอย กลืนกล้องไปดูหัวใจเอย แล้วรั่วใหญ่มาก หัวใจแค่นี้ แต่รั่วประมาณ 4 เซนฯ มันน่าจะเอาไม่อยู่ ขณะที่คุยนี้ลิ้นหัวใจก็รั่วตลอดเวลา แต่ในความโชคร้าย คือร่างกายดันโชคดี คือแข็งแรงมาก ทำให้น้ำไม่ท่วมปอด ปกติคนเป็นโรคแบบนี้ จะหอบ จะเหนื่อย จะทำงานไม่ไหว จะนอนไม่หลับ จะมึนหัว เหวี่ยงวิงเวียน แต่ผมไม่มีอาการเหล่านั้นเลย ยังใช้ชีวิตได้ปกติ ทีแรกจะผ่าเม.ย. แต่ร่างกายแข็งแรง คุณหมอให้เช็กอัปทุกเดือน ปักธงไว้ว่าเม.ย. ปีหน้า

ถ้าบินไปผ่าที่อเมริกา บัดเจ็ตน่าจะ 10 ล้าน ยอมรับว่าลืมทำประกันชีวิต ผมก็ตกใจเหมือนกัน ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นแบบนี้ ลืมจริงๆ คิดว่าตัวเองแข็งแรง ขนาดในไทยยังเยอะเลย ราคาเป็นล้าน มันเป็นเรื่องไม่คาดคิดจริงๆ และไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นร้ายแรงขนาดนี้

วิธีการดูแลคือห้ามทานเค็ม และมัน แถมผมต้องได้รับยาละลายโซเชียมในร่างกาย เข้าห้องน้ำบ่อยหน่อย ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าทำงานหักโหม ห้ามออกกำลังกายเอ็กซ์ตรีมหนักๆ คอยวิดพื้น ซิตอัปเบาๆ ทำได้อยู่ แต่เตะบอล เล่นบาสไม่ได้

ตอนแรกที่รู้ตอนก.พ. น้ำหนักลด 10 โล มันเครียด คิดว่าเราจะตายตลอดเวลา จะบอกแม่ดีไหม ทนอยู่เดือนนึง น้ำหนักลด หน้าโทรม ทนไม่ไหว ก็เอาวะ บอกแม่ดีกว่า พอเริ่มดีขึ้นก็ไปบอกแม่ แม่ร้องไห้ ลูกจะตายไหม เราก็เลยคิดว่าไม่บอกใครดีกว่า เพิ่งมาเป็นข่าวตอนเราถ่ายละครเรื่องใหม่ ก็บอกว่าร่างกายผมไม่ค่อยแข็งแรง ทีนี้ทุกคนก็โทรมาเต็มเลย

ล่าสุดมีข่าวว่าผมตายไปแล้ว (หัวเราะ) ผมเห็นข่าวก็ตกใจ ผมไม่ได้ยุ่งกับโทรศัพท์ งงว่าทำไมส่งไลน์มาเยอะจัง 300 ข้อความ โชคดีที่มีโซเชียลของตัวเองก็รีบลง ก็รีบบอกแฟนๆ ว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ นี่ข่าวปลอม

โอกาสเสียชีวิตมีทุกเวลา ปลงและเตรียมการ พอผ่านมาเดือนนึง คุณแม่รู้ รีบทำให้ตัวเองฟื้นให้เร็วที่สุด ก็เริ่มปลอบแม่ ว่าฟิล์มไม่เป็นไรนะแม่ เดี๋ยวนี้นวัตกรรมมันไปไกล มันรักษาหายแล้วนะแม่ อย่าตื่นเต้นนะ ฟิล์มก็จะดูแลตัวเองให้ดี แล้วก็เริ่มวางแผน เพราะเดือนก.พ. ข่าวออกมาตลอดเวลา อาจารย์ท่านนึงผัดกับข้าวอยู่ๆ ก็ร่วงไป นักฟุตบอลเตะบอลอยู่ๆ ก็ตาย นักว่ายน้ำ นักบาส เห็นบ่อยมาก 

เราเลยเตรียมการเลย เอาเงินเก็บไปซื้อที่ให้แม่ และเมเนทจ์ทุกอย่างให้พี่ชายรู้ ให้เพื่อนรู้ว่ามีอยู่ตรงนี้ๆ ถ้าเราตายไป ธุรกิจตรงนี้ก็ต้องทำแบบนี้ เริ่มสอนงานและเอาหุ้นให้เพื่อน ตั้งแต่ก.พ. ถึงตอนนี้ ก็เริ่มถ่ายโอนหุ้นผมที่มีอยู่แต่ละบริษัทให้เพื่อนทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ผมไม่มีชื่อในบริษัทใดเลย เพราะผมเตรียมการไว้หมดแล้ว อยู่หรือไปไม่รู้ สิ่งที่จะอยู่ต่อไปคือพ่อแม่ผม ที่จะต้องมีความสุขและรอด

คือเข้าใจเลยว่าทำไมคนเป็นโรคร้ายถึงผอม มันผอมเอง มันเครียดมากๆ จะไปไหมวะ การใช้ชีวิตก็เหมือนโรคจิตเลย ขนาดเดินขึ้นบันไดยังหันไปถามเพื่อนว่าเหนื่อยไหม เพราะหมอเตือนว่าอาการบ่งบอกคือจะเหนื่อย หายใจไม่ออก จะนอนไม่หลับ จะไอเป็นเลือด”





กำลังโหลดความคิดเห็น