“เดอะ ร็อก” เคยประกาศว่าเขาขอ “พอแล้ว” กับหนังชุด Fast & Furious หลังมีปัญหากับ “วิน ดีเซล” ที่เป็นทั้งนักแสดงนำ และผู้อำนวยการสร้างของหนัง แต่ล่าสุดทุกอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อ “วิน” บอกอยากเป็นทางการว่าอยากจะให้ “เดอะ ร็อก” กลับมาร่วมงานในหนังเรื่องนี้อีกครั้ง
วิน ดีเซล เขียนจดหมายเปิดผนึกลงอินสตาแกรมของตัวเองถึง เดอะ ร็อก และบอกอย่างชัดเจนเขาอยากจะให้อดีตนักมวยปล้ำชื่อดังกลับมาร่วมแสดงในหนังชุด Fast & Furious อีกครั้ง ในหนังที่จะเป็นการปิดฉากเรื่องราวทั้งหมด
“ดเวย์น, ไอ้น้องชาย เวลาได้มาถึงแล้ว โลกกำลังรอคอยบทสรุปของ Fast 10 อย่างที่นายรู้ว่าลูกของฉันเรียกนายว่า ‘ลุงดเวย์น’ มาตลอด มันไม่เคยมีโอกาสพิเศษวันไหนที่พวกเขาไม่เคยส่งความปราถนาดีไปถึงนาย แต่มันถึงเวลาแล้ว ตำนานกำลังรอคอยอยู่”
“อย่างที่ฉันเคยบอกนายเมื่อหลายปีก่อน ว่าเราจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับ ปาโปล (ชื่อเล่นของ พอล วอล์คเกอร์ ที่ วิน ดีเซล เรียก) เป็นจริงให้ได้ ฉันสาบานไว้แล้วว่าจะทำ Fast 10 ให้เป็นภาคที่สุดยอดที่สุด นายต้องมานะ อย่าไปจากแฟรนไชส์ที่นายถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากนี้ไป ฮอปส์ ไม่สามารถมีใครมาแทนได้ ฉันหวังว่านายจะใช้โอกาสนี้ และเติมเต็มชะตากรรมของนายเอง”
ปัญหาส่วนตัวระหว่างการถ่ายทำหนังของ เดอะ ร็อก กับ วิน ดีเซล กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก แม้สุดท้ายทั้งสองจะยืนยันว่าตอนนี้ต่างฝ่ายต่างไม่ได้มีปัญหาอะไรกันแล้ว แต่ เดอะ ร็อก ก็เคยประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าเขาคงจะไม่กลับมาเล่น Fast & Furious อีกแล้ว แต่ยังไม่ปิดโอกาสที่จะกลับมาแสดงเป็นเจ้าหน้าที่ ลู๊ค ฮอปส์ ในหนังภาคแยก Hobbs and Shaw แต่อย่างใด
แน่นอนว่าการที่ วิน ดีเซล ถึงขั้นเรียกร้องให้ เดอะ ร็อก กลับมาปรากฏตัวในหนังภาค 10 ก็น่าจะทำให้ความหวังที่สองซูเปอร์สตาร์จะได้กลับมาร่วมจอกันอีกครั้ง ยังไม่ได้ปิดลงซะทีเดียว
Fast & Furious 10 จะเป็นหนังที่เป็นการปิดฉากเรื่องราวของเหล่าแก๊งนักซิ่ง ที่กลายมาเป็นสุดยอดทีมปฏิบัติการพิเศษระดับโลก โดย Fast & Furious 10 จะสร้างออกเป็นหนัง 2 ภาค และมี จัสติน ลิน กลับมากำกับ มีกำหนดเข้าฉายในปี 2023 - 2024
